เอ็มเอเอส โฮลดิงส์ ลงทุนในไฮคิว อิออนิค
ทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนกว่าเพื่ อใช้แทนเส้นใยสังเคราะห์
ซูริก /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ ต
เอ็มเอเอส โฮลดิงส์ ( MAS Holdings) กลุ่มบริษัทเทคโนโลยี และการผลิตเครื่องแต่งกายและสิ่ งทอระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ ในศรีลังกาและทำธุรกิจใน 16 ประเทศ เข้าถือหุ้นในไฮคิว อิออนิค (HeiQ AeoniQ™) โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริ เริ่มแพลน ฟอร์ เชนจ์ (Plan for Change) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเส้นใยยาว (filament fiber) เซลลูโลสแบบใหม่ เพื่อทดแทนโพลีเอสเตอร์และไนลอน
ไฮคิว ( HeiQ) จากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมวัสดุ ส่วนเอ็มเอเอส โฮลดิงส์ เป็นกลุ่มบริษั ทเทคโนโลยีและการผลิตเครื่องแต่ งกายและสิ่งทอระดับโลกที่มีสำนั กงานใหญ่ในศรีลังกา และเป็นผู้ผลิตเครื่องแต่ งกายและสิ่งทอรายใหญ่ที่สุ ดในเอเชียใต้ด้วยมูลค่าการซื้ อขายประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันให้ เอ็มเอเอสเข้ามาถือหุ้นในไฮคิว อิออนิค จีเอ็มบีเอช ( HeiQ AeoniQ GmbH) ซึ่งเป็นบริษัทในเครื อไฮคิว กรุ๊ป (HeiQ Group) ซึ่งจะผลิตเส้นใยเซลลูโลสที่เป็ นมิตรกับสภาพอากาศอย่างไฮคิว อิออนิค
การลงทุนครั้งนี้ทำให้เอ็มเอเอส โฮลดิงส์ กลายเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ร่วมมื อกับไฮคิว อิออนิค เพื่อสำรวจหาทางเลือกที่ยั่งยื นแทนการใช้โพลีเอสเตอร์และไนลอน การลงทุนที่ดำเนินการโดยเอ็ มเอเอส โฮลดิงส์ เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ของกลุ่ มบริษัท เพื่อผลักดันผลกระทบเชิงบวกต่ อสิ่งแวดล้อม โดยเอ็มเอเอส แพลน ฟอร์ เชนจ์ ตั้งเป้าให้รายได้ 50% ของบริษัทมาจากผลิตภัณฑ์ที่ยั่ งยืนภายในปี 2568 ซึ่งจะเป็นการปฏิวัติอุ ตสาหกรรมสิ่งทอโดยมุ่งคิดค้นนวั ตกรรม จัดหาอย่างยั่งยืน และบุกเบิกหมุนเวียนในวงกว้าง
ไฮคิวและเอ็มเอเอสได้ตกลงทำสั ญญารับซื้อผลิตภัณฑ์ (Offtake Agreement) ระยะเวลา 5 ปี เพื่อซื้อเส้นด้ายไฮคิว อิออนิค จำนวน 3,000 ตันในปี 2568 และปีละ 5,000 ตันตั้งแต่ปี 2569 ถึงปี 2572 โดยไฮคิวประเมินไว้ว่ามีมูลค่ ารวม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เอ็มเอเอสจะสรุปข้อผูกพันนี้ให้ เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่ กำหนดหลังจากบรรลุขั้นที่ 1 และวางแผนร่วมกันในเรื่องการค้า ไฮคิวและเอ็มเอเอสเชื่อมั่นว่า การปรับขนาดอย่างรวดเร็วเป็นกุ ญแจสำคัญในการนำเทคโนโลยีหมุ นเวียนที่ยั่งยืน เช่น ไฮคิว อิออนิค มาใช้ให้แพร่หลายเร็วขึ้น
ไฮคิว อิออนิค ตัวพลิกวงการสิ่งทอ
ไฮคิวได้เปิดตัวเทคโนโลยีไฮคิว อิออนิค ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เล่ นรายใหญ่ ๆ ระดับโลกในอุตสาหกรรมสิ่ งทอและเสื้อผ้ามาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564
เทคโนโลยีดังกล่าวใช้วิธีการผลิ ตที่เป็นกรรมสิทธิ์ ทำให้ผลิตเส้นใยยาวจากวัตถุดิ บตั้งต้นประเภทต่าง ๆ ได้เป็นครั้งแรก ทั้งยังให้คุณสมบัติด้านประสิ ทธิภาพที่เทียบเท่ากับโพลี เอสเตอร์หรือไนลอนได้ แต่ยั่งยืนและหมุนเวียนไม่มีที่ สิ้นสุด
โรงงานนำร่องไฮคิว อิออนิค ในออสเตรีย ได้ผลิตเส้นใยยาวเซลลูโลสที่ปฏิ วัติวงการนี้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 โดยมีกำลังการผลิตสูงสุด 100 ตัน และจะเพิ่มขนาดเป็น 300 ตันภายในสิ้นปี 2566
การขยายขนาดการผลิตไฮคิว อิออนิค มีแผนที่จะเร่งดำเนินการอย่ างเต็มที่ภายในต้นปี 2569 โดยเตรียมสร้างโรงงานขนาดใหญ่ แห่งใหม่ที่ให้ผลผลิตได้ 30,000 ตันต่อปี ด้วยเงินลงทุนประมาณ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
คาร์โล เชนตอนเซ ( Carlo Centonze) ซีอีโอกลุ่มบริษัทไฮคิว กล่าวว่ า "นับตั้งแต่ที่เริ่มต้น ไฮคิวได้บุกเบิกนวัตกรรมสิ่งทอ โดยปฏิวัติการทำงานอย่างยั่งยืน และยกระดับชีวิตผู้คนนับพันล้าน ปัจจุบัน เราได้เปิดตัวไฮคิว อิออนิค เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นอันแน่ วแน่ของเราในการพลิกโฉมอุ ตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ได้ชื่อว่าก่ อมลพิษมากเป็นอันดั บสองของโลกมาอย่างยาวนาน การลงทุนและสัญญารับซื้อผลิตภั ณฑ์ของเอ็มเอเอสเป็นเครื่องพิสู จน์ที่ชัดเจนว่า ผู้เล่นในห่วงโซ่คุณค่าในภาคสิ่ งทอต่างยอมรับว่า ไฮคิว อิออนิค เป็นผู้เปลี่ยนเกมขั้นสูงสุด โดยวางใจในพลังแห่งการเปลี่ ยนแปลงนี้ ทั้งยังเป็นผลจากความเชื่อมั่ นที่สั่งสมมานานกว่ าทศวรรษตลอดระยะเวลาที่ไฮคิ วและเอ็มเอเอสได้ทำธุรกิจร่วมกั น"
ซูเรน เฟอร์นานโด ( Suren Fernando) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ มบริษัทเอ็มเอเอส โฮลดิงส์ กล่าวเสริมว่า "เอ็มเอเอสสร้างขึ้นจากความเชื่ อในการทำสิ่งที่ถูกต้อง เราเป็นองค์กรระดับโลกที่เลี้ ยงดูบุคลากรมากกว่า 100,000 คน เราเชื่อมั่นในความรับผิ ดชอบของเรา ในการใช้โซลูชันผลิตภัณฑ์ที่ยั่ งยืนเพื่อผลักดันการเปลี่ ยนแปลงเชิงบวกภายในอุ ตสาหกรรมเครื่องแต่งกาย เราเชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้เป็ นก้าวสำคัญในความพยายามของเรา เพื่อปรับโฉมอุตสาหกรรมของเราด้ วยการขับเคลื่อนนวัตกรรม การทำงานร่วมกัน และขนาด และเมื่อมีไฮคิว อิออนิค เป็นตัวกระตุ้นหลักแล้ว เราพร้อมที่จะปูทางสู่อนาคตที่ ยั่งยืนยิ่งขึ้น"
โพลีเอสเตอร์และไนลอนเป็นเส้ นใยที่ผลิตจากน้ำมัน ซึ่งรีไซเคิลแทบจะไม่ได้ โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของการผลิตสิ่งทอทั่วโลก เส้นใยเหล่านี้ใช้เวลา 350 ถึง 1,000 ปีกว่าจะย่อยสลายตามธรรมชาติ ปัจจุบันมีการนำไปรีไซเคิ ลแบบวงปิด (Close-Loop) ไม่ถึง 1% และเป็นต้นกำเนิดของไมโครพลาสติ กราว 35% ที่พบได้ในมหาสมุทร ซึ่งไฮคิว อิออนิค ได้รับการคิดค้นและกำลั งขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเปลี่ ยนแนวโน้มนี้
เกี่ยวกับไฮคิว
ไฮคิว (HeiQ) ก่อตั้งขึ้นจากการแยกตั วออกจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพั นธ์สวิสในซูริก (Swiss Federal Institute of Technology Zurich หรือ ETH) เมื่อปี 2548 และจดทะเบียนในกระดานหลั กของตลาดหุ้นลอนดอน (XLON:HEIQ) ไฮคิวเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสิ่ งทอและวัสดุ ผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีที่มี ประสิทธิภาพ ทนทาน และสมรรถนะสูงที่สุดในตลาดทุกวั นนี้ ไฮคิวมุ่งยกระดับชีวิตของผู้ คนหลายพันล้านผ่านการบุกเบิกนวั ตกรรมสิ่งทอและวัสดุ ไฮคิวผสมผสานความเชี่ยวชาญใน 3 ด้าน ได้แก่ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การผลิตวัสดุพิเศษ และการสร้างแบรนด์สำหรับผู้บริ โภค จนกลายเป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์ แบบในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ มีความแตกต่างและยั่งยืนเพื่ อเพิ่มมูลค่า ณ จุดขาย ปัจจุบัน บริษัทมีสำนักงาน 14 แห่ง ฐานการผลิต 7 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 7 แห่ง และพนักงานมืออาชีพกว่า 200 คน บริษัทมีกำลังการผลิตสารเคมีชนิ ดพิเศษรวม 45,000 ตันต่อปี และให้บริการลูกค้าอุ ตสาหกรรมกว่า 1,000 ราย ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน เทคโนโลยีของไฮคิวมีวางจำหน่ ายในกว่า 60 ประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ww w.heiq.com
เกี่ยวกับเอ็มเอเอส โฮลดิงส์
เอ็มเอเอส โฮลดิงส์ (MAS Holdings) บริษัทเทคโนโลยีเครื่องแต่ งกายที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ และเป็นผู้ให้บริการโซลูชั นการออกแบบจนถึงจัดส่งที่ได้รั บการยอมรับมากเป็นอันดับต้น ๆ ในแวดวงการผลิตเครื่องแต่ งกายและสิ่งทอ ปัจจุบัน เอ็มเอเอสมีบุคลากรกว่า 110,000 คน ครอบคลุมโรงงานผลิตใน 16 ประเทศ โดยมีสถานที่ออกแบบที่จัดตั้งขึ้ นในแหล่งรวมสไตล์แห่งสำคัญทั่ วโลก เอ็มเอเอสตอบสนองความต้ องการของอุตสาหกรรมที่มีพลวั ตและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยมีพอร์ตโฟลิโอที่ขยายตัวอย่ างทวีคูณ สู่แบรนด์ เทคโนโลยีสวมใส่ เทคโนโลยีเพื่อผู้หญิง (FemTech) สตาร์ตอัป และนิคมผลิตสิ่งทอทั่วโลก
เอ็มเอเอสดำเนินงานมากว่า 35 ปี จนได้รับการยอมรับมาแล้วทั่วโลก ในด้านสภาพแวดล้อมการทำงานที่มี จริยธรรมและยั่งยืน ตลอดจนความพยายามอย่างไม่รู้จั กเหน็ดเหนื่อยขององค์กรในการพั ฒนาสังคมและการเสริมสร้างศั กยภาพของผู้หญิง ปัจจุบัน ความพยายามของบริษัทในการขั บเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกนั้น ปรากฏให้เห็นในโครงการเอ็มเอเอส แพลน ฟอร์ เชนจ์ (MAS Plan for Change) ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นเพื่อสร้ างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนใน 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ชีวิต และโลกของเรา ทั้งนี้ เอ็มเอเอสหวังใช้ความคิดริเริ่ มเหล่านี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้พนั กงานทุกคนเป็นนักสร้างการเปลี่ ยนแปลง สานฝันและสร้างคุณค่าให้กับสิ่ งทอแห่งชีวิตบนโลกของเรา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www. masholdings.com
เกี่ยวกับไฮคิว อิออนิค
ไฮคิว อิออนิค (HeiQ AeoniQ™) เป็นผลงานที่ไฮคิว (HeiQ) ริเริ่มขึ้นเพื่อพลิกโฉมอุ ตสาหกรรมสิ่งทอ โดยไฮคิวในฐานะผู้นำระดับโลกด้ านนวัตกรรมสิ่งทอ มุ่งคิดค้นเส้นด้ายยาวเซลลู โลสแบบต่อเนื่องที่เป็นมิตรกั บสภาพอากาศเป็นครั้งแรกของโลกผ่ านกระบวนการผลิตที่เป็นกรรมสิ ทธิ์ มาพร้อมคุณสมบัติเดียวกับที่ พบในเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และไนลอนเป็นครั้งแรกในรู ปแบบเส้นใยเซลลูโลสที่ทนทาน ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และนำไปรีไซเคิลได้อย่างไร้ขี ดจำกัด ไฮคิวได้ก่อตั้งไฮคิว อิออนิค ขึ้นเป็นบริษัทแยกออกมา เปิดโอกาสให้พันธมิตรทางธุรกิ จเข้าร่วมได้ตั้งแต่ขั้ นตอนการพัฒนา และเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่บุ กเบิกความคิดริเริ่มนี้ เพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในอุ ตสาหกรรมสิ่งทอ ไฮคิวหวังที่จะทำให้ไฮคิว อิออนิค ผลิตได้จริง จึงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับฮิ วโก้ บอส (HUGO BOSS) เพื่อบุกเบิกเปลี่ยนไฮคิว อิออนิค ให้กลายเป็นเสื้อผ้า พร้อมกันนี้ยังได้ดึงเดอะ ไลคร่า คอมพานี (The LYCRA Company) เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการริเริ่ มนี้ในฐานะผู้จัดจำหน่ายทั่วโลก ส่วนเอ็มเอเอส โฮลดิงส์ (MAS Holdings) ได้กลายเป็นหุ้นส่วนใหม่ล่าสุ ดของโครงการนี้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https: //www.heiq-aeoniq.com/
รูปภาพ - https://mma. prnewswire.com/media/2146222/ MAS_Holdings_and_HeiQ.jpg โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/ media/2146221/MAS_Logo.jpg โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/ media/2146223/HeiQ_Logo.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น