depa ร่วมมือ J Ventures และ TTSA สนับสนุนสตาร์ทอัพใช้งาน Digital ID ระดับประเทศ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

depa ร่วมมือ J Ventures และ TTSA สนับสนุนสตาร์ทอัพใช้งาน Digital ID ระดับประเทศ


depa ร่วมมือ J Ventures และ TTSA สนับสนุนสตาร์ทอัพใช้งาน Digital ID ระดับประเทศ ยกระดับการยืนยันตัวตนบนโลกdepa ร่วมมือ J Ventures และ TTSA สนับสนุนสตาร์ทอัพใช้งาน Digital ID ระดับประเทศ ยกระดับการยืนยันตัวตนบนโลกออน์ไลน์ สร้างเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ
J Ventures บริษัทในกลุ่มเจมาร์ท จับมือ depa ประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างภาคเอกชน และรัฐบาล เพื่อร่วมพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital ID เพื่อเป็นโครงสร้างธุรกรรมบนโลกออนไลน์ ที่มีความมั่นคง และปลอดภัย เพิ่มความสะดวก รวดเร็วให้ประชาชน และผลักดันกลุ่มสตาร์ทอัพให้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการใช้งาน ลดต้นทุน และแข่งขันในตลาดโลกได้ คาดภาครัฐเตรียมประกาศ พรก. ออกมากำหนดการใช้งานในเร็วๆ นี้
ในความร่วมมือเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเชื่อมต่อและส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไทย ผ่านระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ มุ่งอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจและการให้บริการแก่สังคมและประชาชน รวมทั้งลดต้นทุนในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ และเพิ่มปริมาณการใช้งานธุรกิจออนไลน์ เพื่อสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย
depa ร่วมมือ J Ventures และ TTSA สนับสนุนสตาร์ทอัพใช้งาน Digital ID ระดับประเทศ
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa กล่าวถึงความร่วมมือ “การมีระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยที่สอดคล้องไปกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง นั้นช่วยสนับสนุนการทำธุรกรรมออนไลน์ให้มีความสะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น depa ในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมและสนับสนุนศักยภาพผู้ประกอบการไทย เรามีความพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนและพัฒนาประเทศให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ประกอบการ และประชาชนสามารถพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง”
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ J Ventures ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ และแอปพลิเคชันทางด้านฟินเทค (Fintech) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเจมาร์ท เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามในสัญญากับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำธุรกรรมออนไลน์ให้มีความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อีกทั้ง
เพื่อสร้าง
Thai Startup Ecosystem ให้แข็งแรง J Ventures ยังได้ร่วมมือกับ
สมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ (Thai Tech Startup Association) ในการส่งเสริมให้กลุ่มสตาร์ทอัพได้ใช้งานระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์
ดร.พณชิต กิตติปัญญางาม นายกสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ (Thai Tech Startup Association) กล่าวถึงบทบาทการส่งเสริมผู้ประกอบการว่า “เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีให้เข้ามาช่วยในการดำเนินงานเป็นอีกพื้นฐานที่สำคัญ โดยเริ่มจากการพิสูจน์และยืนยันตัวตนตามมาตรฐานที่มีความน่าเชื่อถือจะช่วยให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไทยได้ประโยชน์สูงสุด"
“บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือการพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์
หรือ
Digital ID เนื่องจาก เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
ของธุรกรรมบนโลกออนไลน์ สามารถเชื่อมต่อกับการยืนยันตัวตนจากทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และกระทรวงการคลัง ในอนาคตการทำธุรกรรมจึงเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ โดย
เจ เวนเจอร์ส เป็นตัวแทนภาคเอกชนไทยที่พยายามผลักดันเรื่องนี้มาโดยตลอด นับตั้งแต่เราพัฒนา Blockchain ภายใต้การนำของเจมาร์ทมาแล้วระยะเวลากว่า 2 ปี
ครั้งนี้เป็นอีกก้าวที่ทีมงานบริษัท เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมาย และ
หวังยกระดับให้ประเทศไทยทัดเทียมต่างประเทศ” นายธนวัฒน์ กล่าวเสริม
ทั้งนี้
หาก
Digital ID เกิดขึ้นในเร็ววัน นับเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของโลกยุคใหม่
การทำธุรกรรมที่ต้องใช้เอกสารบัตรประชาชน และลงข้อมูลกำกับสำหรับใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ
เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตน จะเป็นเรื่องที่จำเป็นน้อยลง เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มความสะดวก
และรวดเร็ว มีบทบาทในการแก้ปัญหาและป้องกันการปลอมแปลง 
อย่างไรก็ดี
รัฐบาลอยู่ระหว่างกำหนดและจัดทำมาตรฐานเกี่ยวกับแนวทางการใช้ Digital ID สำหรับประเทศไทย ในปี 2563 จะมีการออกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับ
ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ในเร็วๆนี้ เพื่อให้ระบบดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยป้องกันความเสียหายต่อสาธารณชน
ตลอดจนเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ และการยอมรับในระดับสากล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad