กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมยกระดับสำนักงานบัญชี สู่การเป็นสำนักงานบัญชีดิจิทัล เตรียมเข้าไปช่วยผลักดันให้นำเทคโนโลยี AI หรือหุ่ยนต์ มาใช้ในการทำบัญชี ช่วยจัดทำเครื่องมือและโปรแกรมที่เหมาะสม จัดประกวดหาช้างเผือกที่ปรับโฉมแล้ว และถอดบทเรียนไปใช้เป็นต้นแบบให้สำนักงานบัญชีและผู้ทำบัญชีรายอื่น มั่นใจช่วยยกระดับการทำบัญชี ส่งงบการเงิน ทำให้มีข้อมูลธุรกิจที่ถูกต้อง
นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในปี 2563 กรมฯ มีนโยบายและแผนงานที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีได้เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่ององค์ความรู้และเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีให้พร้อมรับกับระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเตรียมความพร้อมให้สำนักงานบัญชีคุณภาพสามารถเข้าถึงนวัตกรรมทางด้านการบัญชีและการบริหารจัดการ ตลอดจนปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากแบบดั้งเดิมไปสู่การเป็นสำนักงานบัญชีดิจิทัล (Digital Accounting Firm) ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีมีความเป็นมืออาชีพและมีธรรมาภิบาล และตระหนักถึงความสำคัญต่อการพัฒนา และเพิ่มพูนองค์ความรู้ด้านมาตรฐานการบัญชีให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของวิชาชีพและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น
สำหรับแนวทางในการดำเนินงาน ได้กำหนดไว้ 4 ด้าน ได้แก่ 1.เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชี และการเปลี่ยนแปลงเป็นสำนักงานบัญชีคุณภาพสู่สำนักบัญชีดิจิทัล (Transform to Digital Accounting Firm) เช่น การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือหุ่นยนต์ (Robot) มาใช้ในการทำบัญชี การประมวลผล การวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น
2.กำหนดหลักเกณฑ์ โครงสร้าง และรูปแบบของสำนักงานบัญชีดิจิทัลโดยคณะทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาหาเครื่องมือและโปรแกรมที่มีความเหมาะสมกับธุรกิจสำนักงานบัญชี เพื่อให้สำนักงานบัญชีคุณภาพนำไปใช้ในการดำเนินการและวัดผลแบบ Self-Assessment
3.จัดประกวดสำนักงานบัญชีคุณภาพที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นสำนักงานบัญชีดิจิทัลที่สามารถให้บริการลูกค้าด้วยเทคโนโลยีได้ครบวงจร พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลสำนักงานบัญชีดิจิทัลดีเด่น เพื่อกระตุ้นให้สำนักงานบัญชีเกิดการตื่นตัว
4.การถอดบทเรียนในการทำต้นแบบสำนักงานบัญชีดิจิทัล พร้อมทั้งเผยแพร่ไปยังหน่วยงาน สำนักงานบัญชีและผู้ทำบัญชีอื่นๆ เพื่อพลิกโฉมสำนักงานบัญชีไทยสู่ Digital Accounting Firm สร้างความเชื่อมั่นข้อมูลทางบัญชีและการเงินด้วยนวัตกรรม
“กรมฯ คาดว่าแผนการดำเนินงานดังกล่าวจะช่วยให้สำนักงานบัญชีขยายบทบาทออกไปจากความรับผิดชอบด้านการจัดทำบัญชีและการจัดทำรายงานต่างๆ ไปสู่บทบาทที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรมากขึ้นในฐานะเพื่อนคู่คิดของธุรกิจ SMEs อีกทั้งยังสามารถรองรับโครงการ National e-Payment ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดการใช้กระดาษด้วยการสร้างสังคมไร้กระดาษ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บประมวลผลและวิเคราะห์ด้วย Cloud Computing พร้อมทั้งเชื่อมโยงข้อมูลทางบัญชีทั้งกระบวนการเข้าด้วยกันส่งผลให้งบการเงินที่ได้มีความถูกต้อง สามารถจัดทำบัญชีให้แก่ธุรกิจได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ลดขั้นตอนในการจัดส่งเอกสาร ลดการสูญหาย และความผิดพลาดในการส่งข้อมูล”นางโสรดากล่าว
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ธ.ค.2562) มีสำนักงานบัญชีคุณภาพ จำนวนทั้งสิ้น 162 ราย แบ่งเป็นภาคกลางจำนวน 50 ราย ภาคเหนือจำนวน 17 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 10 ราย ภาคใต้จำนวน 21 ราย และกรุงเทพฯ จำนวน 64 ราย
นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในปี 2563 กรมฯ มีนโยบายและแผนงานที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีได้เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่ององค์ความรู้และเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีให้พร้อมรับกับระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเตรียมความพร้อมให้สำนักงานบัญชีคุณภาพสามารถเข้าถึงนวัตกรรมทางด้านการบัญชีและการบริหารจัดการ ตลอดจนปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากแบบดั้งเดิมไปสู่การเป็นสำนักงานบัญชีดิจิทัล (Digital Accounting Firm) ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีมีความเป็นมืออาชีพและมีธรรมาภิบาล และตระหนักถึงความสำคัญต่อการพัฒนา และเพิ่มพูนองค์ความรู้ด้านมาตรฐานการบัญชีให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของวิชาชีพและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น
สำหรับแนวทางในการดำเนินงาน ได้กำหนดไว้ 4 ด้าน ได้แก่ 1.เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชี และการเปลี่ยนแปลงเป็นสำนักงานบัญชีคุณภาพสู่สำนักบัญชีดิจิทัล (Transform to Digital Accounting Firm) เช่น การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือหุ่นยนต์ (Robot) มาใช้ในการทำบัญชี การประมวลผล การวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น
2.กำหนดหลักเกณฑ์ โครงสร้าง และรูปแบบของสำนักงานบัญชีดิจิทัลโดยคณะทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาหาเครื่องมือและโปรแกรมที่มีความเหมาะสมกับธุรกิจสำนักงานบัญชี เพื่อให้สำนักงานบัญชีคุณภาพนำไปใช้ในการดำเนินการและวัดผลแบบ Self-Assessment
3.จัดประกวดสำนักงานบัญชีคุณภาพที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นสำนักงานบัญชีดิจิทัลที่สามารถให้บริการลูกค้าด้วยเทคโนโลยีได้ครบวงจร พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลสำนักงานบัญชีดิจิทัลดีเด่น เพื่อกระตุ้นให้สำนักงานบัญชีเกิดการตื่นตัว
4.การถอดบทเรียนในการทำต้นแบบสำนักงานบัญชีดิจิทัล พร้อมทั้งเผยแพร่ไปยังหน่วยงาน สำนักงานบัญชีและผู้ทำบัญชีอื่นๆ เพื่อพลิกโฉมสำนักงานบัญชีไทยสู่ Digital Accounting Firm สร้างความเชื่อมั่นข้อมูลทางบัญชีและการเงินด้วยนวัตกรรม
“กรมฯ คาดว่าแผนการดำเนินงานดังกล่าวจะช่วยให้สำนักงานบัญชีขยายบทบาทออกไปจากความรับผิดชอบด้านการจัดทำบัญชีและการจัดทำรายงานต่างๆ ไปสู่บทบาทที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรมากขึ้นในฐานะเพื่อนคู่คิดของธุรกิจ SMEs อีกทั้งยังสามารถรองรับโครงการ National e-Payment ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดการใช้กระดาษด้วยการสร้างสังคมไร้กระดาษ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บประมวลผลและวิเคราะห์ด้วย Cloud Computing พร้อมทั้งเชื่อมโยงข้อมูลทางบัญชีทั้งกระบวนการเข้าด้วยกันส่งผลให้งบการเงินที่ได้มีความถูกต้อง สามารถจัดทำบัญชีให้แก่ธุรกิจได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ลดขั้นตอนในการจัดส่งเอกสาร ลดการสูญหาย และความผิดพลาดในการส่งข้อมูล”นางโสรดากล่าว
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ธ.ค.2562) มีสำนักงานบัญชีคุณภาพ จำนวนทั้งสิ้น 162 ราย แบ่งเป็นภาคกลางจำนวน 50 ราย ภาคเหนือจำนวน 17 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 10 ราย ภาคใต้จำนวน 21 ราย และกรุงเทพฯ จำนวน 64 ราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น