“พาณิชย์”ยันมีแผนคุมราคาเนื้อหมูไม่ให้กระทบผู้บริโภค หลังส่งออกขายจีน-เพื่อนบ้านพุ่ง - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563

“พาณิชย์”ยันมีแผนคุมราคาเนื้อหมูไม่ให้กระทบผู้บริโภค หลังส่งออกขายจีน-เพื่อนบ้านพุ่ง

img

กรมการค้าภายในยันมีแผนคุมราคาหมูเนื้อแดงไม่ให้กระทบผู้บริโภค หลังมีการส่งออกหมูเป็นไปขายจีนและเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น จากปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาด เผยได้ทำสัญญากับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติคุมราคาหมูเป็นไม่ให้เกินกิโลละ 80 บาท เพื่อให้หมูเนื้อแดงอยู่ที่กิโลละ 150-160 บาท ย้ำหากเกินไปกว่านี้ พร้อมเข้าควบคุมส่งออก แทรกแซงราคาขายปลีกผ่านกลไกที่มีอยู่
        
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาเนื้อหมูภายในประเทศ หลังจากที่ประเทศเพื่อนบ้านและจีน ประสบปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาดว่า ขณะนี้ราคาหมูเป็นภายในประเทศยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คือ กิโลกรัม (กก.) ละ 70-75 บาท สูงสุดกก.ละ 80 บาท และราคาหมูเนื้อแดงอยู่ที่กก.ละ 150-160 บาท ซึ่งยังถือเป็นราคาปกติ แต่กรมฯ ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด หากราคาปรับตัวสูงขึ้นไปกว่านี้ จะมีมาตรการเข้าไปบริหารจัดการทันที เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
        
“ราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น มีผลมาจากการส่งออกหมูเพิ่มขึ้น ตอนนี้ส่งออกถึงวันละ 6-8 พันตัว เพราะราคาหมูเป็นในประเทศเพื่อนบ้านและจีนเพิ่มขึ้น โดยในจีน กก.ละ 151 บาท เวียดนาม 110 บาท กัมพูชา 88 บาท จึงเอื้อต่อการส่งออกไปขาย ซึ่งกรมฯ ไม่ได้ห้าม ไม่ได้จำกัดการส่งออก จะส่งเท่าไรก็ส่งไป แต่ได้มีการตกลงกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติว่าถ้าราคาหมูเป็นในประเทศยังไม่เกิน 80 บาท ก็จะไม่ทำอะไร แต่ถ้าเกิน จะมีมาตรการออกมาใช้ เป็นสัญญาสุภาพบุรุษที่ทำไว้ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคในประเทศได้รับผลกระทบ”
        
ทั้งนี้ หากราคาหมูเป็นในประเทศขยับขึ้นเกิน กก.ละ 80 บาท มาตรการที่จะนำมาใช้ดำเนินการ คือ หมูเป็น อาจจะใช้วิธีการจำกัดการส่งออก เพื่อให้หมูเป็นในประเทศมีเพียงพอ และหมูเนื้อแดง จะใช้วิธีการแทรกแซงราคาขายปลีก โดยจะร่วมมือกับผู้ค้าตรึงราคาจำหน่ายโดยกรมฯ จะจัดหาวัตถุดิบให้ และร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า ร้านธงฟ้า ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เป็นจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถหาซื้อหมูเนื้อแดงได้ทั่วถึง
        
นายวิชัยกล่าวว่า กรมฯ คาดว่าการแก้ไขปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาด ทั้งในจีนและประเทศเพื่อนบ้านน่าจะใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 2-3 ปี จึงยังเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกหมูไปขาย ซึ่งขณะนี้สมาชิกของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ขยายการเลี้ยงหมูเป็นเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือนที่หมูจะโต โดยคาดว่าประมาณหลังมิ.ย.2563 สถานการณ์จะดีขึ้น เพราะพ้นหน้าร้อน หมูจะโตเร็วขึ้น ทำให้มีหมูเพียงพอที่จะใช้บริโภคในประเทศและส่งออกไปขาย
        
สำหรับการส่งออกหมูเป็น ก่อนหน้านี้ ไทยเคยส่งออกสูงถึงปีละ 3 ล้านตัว และปีที่แล้วส่งออก 4-5 แสนตัว มาปีนี้ หากส่งออกเฉลี่ยวันละ 6-8 พันตัว เดือนหนึ่งจะส่งออก 1.8-2.4 แสนตัว ทั้งปี 2.16-2.88 ล้านตัว ซึ่งสามารถทำได้ และไม่กระทบต่อการบริโภคในประเทศ โดยแต่ละปีไทยสามารถผลิตหมูเป็นได้ประมาณ 22 ล้านตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad