SEAC ชูทักษะ Digital Skills 4.0 หัวใจสำคัญของการอยู่รอดยุคดิสรัปชั่น จับมือ Simplilearn ผู้นำในการสร้าง Digital Academy ระดับโลก นำเข้าหลักสูตรชั้นนำเร่งรีสกิลและอัพสกิลคนไทย - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2563

SEAC ชูทักษะ Digital Skills 4.0 หัวใจสำคัญของการอยู่รอดยุคดิสรัปชั่น จับมือ Simplilearn ผู้นำในการสร้าง Digital Academy ระดับโลก นำเข้าหลักสูตรชั้นนำเร่งรีสกิลและอัพสกิลคนไทย

SEAC ชูทักษะ Digital Skills 4.0 หัวใจสำคัญของการอยู่รอดยุคดิสรัปชั่น จับมือ Simplilearn ผู้นำในการสร้าง Digital Academy ระดับโลก นำเข้าหลักสูตรชั้นนำเร่งรีสกิลและอัพสกิลคนไทย

          SEAC (เอสอีเอซี) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ตอกย้ำ "การเรียนรู้" สามารถเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในทุกช่วงอายุ ภายใต้ Lifelong Learning Concept เดินหน้าสานต่อพันธกิจในการพัฒนาทักษะและความสามารถของคนด้วยการรีสกิล (Reskill) และอัพสกิล (Upskill) เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ทรงประสิทธิภาพสู่หนทางความสำเร็จในระยะยาว ล่าสุดร่วมมือ Simplilearn สถาบันผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในการฝึกอบรม Digital Skills 4.0 นำเข้าหลักสูตรที่เสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานและใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิตอลที่หลากหลายและครอบคลุมต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ อาทิ DevOps, Lean Six Sigma, Digital Marketing, Advanced SEO, Advanced Digital Marketing, Advanced Social Media, Agile Scrum Master, Apache Kafka, Apache Cassandra, Apache Spark & Scala, Data Science and Analytics, Data Hadoop, Machine Learning, Power BI และอื่นๆ อีกมากมาย ผ่านการเรียนรู้บนโมเดล YourNextU รวมทั้งห้องเรียนเสมือนจริงออนไลน์ Live Virtual Session และการนำเสนอโซลูชั่น ที่เฉพาะเจาะจงต่อความต้องการของแต่ละองค์กร (Customized Solution) เพื่อเร่งสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางโลกยุคดิสรัปชั่น

          นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC (Southeast Asia Center) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า "SEAC เชื่อเสมอว่าการที่ประเทศไทยได้เปลี่ยนผ่านสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) โดยในปีนี้มีมูลค่าเศรษฐกิจดิจิตอลกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือถือเป็นอันดับสอง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้องค์กรใหญ่ๆ ต้องรีบลุกขึ้นมาปรับตัวทำเรื่อง Digital Transformation อีกทั้งเมื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตและธุรกิจในทุกแง่มุมอย่างปฏิเสธไม่ได้ เราจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตอยู่กับ Digital Transformation ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความเข้าใจเทคโนโลยี ตีความ และประยุกต์ใช้งานได้ (Digital Literacy) และการพัฒนาทักษะในการใช้งานเทคโนโลยีเพื่อทำให้การทำงานของเราดีขึ้น สะดวกขึ้น สิ่งสำคัญคือ เราต้องเตรียมความพร้อมให้ตัวเองและธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างไม่มีสะดุด ล่าสุด SEAC ได้ร่วมมือกับ Simplilearn สถาบันผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในการฝึกอบรม Digital Skills 4.0 ด้วยรูปแบบการเรียนรู้ ที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสาน และมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ นำเข้าหลักสูตรพัฒนาทักษะดิจิตอลที่หลากหลายและครอบคลุมที่สุด สำหรับนำมาประยุกต์ใช้เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจและพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของคนไทย ในระบบเศรษฐกิจยุคใหม่"
          "อย่ามองว่าเทคโนโลยีเป็นแค่เทคโนโลยี แต่ให้มองว่าเทคโนโลยีส่งผลกระทบเชิงลึกอย่างไรบ้างต่อชีวิตและธุรกิจของเรา หากอยากอยู่รอด ต้องดิสรัปต์ตัวเอง ก่อนจะถูกดิสรัปต์" ในมุมมองของ มร. Jaspreet Bindra ผู้ก่อตั้ง Digital Matters บริษัทให้คำปรึกษาเรื่อง Digital Transformation ผู้ซึ่งมีประสบการณ์โดยตรงและยาวนานในการสร้าง การเปลี่ยนแปลงรูปแบบองค์กรมากมายอย่างมีกลยุทธ์และชั้นเชิงทางธุรกิจ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเป็นตัวช่วยให้สอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า "ไม่มีองค์กรไหนที่จะสามารถพลิกโฉมธุรกิจได้โดยไม่ต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาช่วย แต่ผู้นำองค์กรจะต้องเข้าใจกระบวนการทำ Digital Transformation ก่อนว่าการวางกลยุทธ์ทางดิจิตอล ไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเพียงเท่านั้น หากองค์กรอยากจะปรับเปลี่ยนต้องตระหนักถึง 3 หัวใจสำคัญของ Digital Transformation ที่จะต้องทำงานสอดคล้องประสานกัน ได้แก่ 1. เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ส่งผลต่อโมเดลธุรกิจ (Business Model) เราจะต้องรู้จักมองหา เทรนด์และทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งถึงรูปแบบการใช้ชีวิต และความต้องการของพวกเขา เช่น การเติบโตของโมเดลธุรกิจแบบ Platform อันเป็นเพราะกระแสเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy) กำลังมาแรงในหมู่วัยรุ่น ที่หันมาลงทุนกับประสบการณ์ที่เน้นการเช่า-ยืมแทนการครอบครอง เพื่อลดทรัพยากรส่วนเกิน (Excess Capacity) และจัดสรรให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. การให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า (Customer Experience) โดยวิเคราะห์ Consumer Journey และทำการวางรูปแบบตลาดให้สอดคล้องกันทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ (Online & Offline Strategy) เพราะทุกวันนี้เราไม่สามารถแยก 2 เรื่องนี้ได้ในการวางกลยุทธ์ เนื่องจากชีวิตของคนเราล้วนแล้วแต่ต้องเจอกับเรื่องทั้งออนไลน์และออฟไลน์ผสมกันอยู่ตลอดเวลา และ 3. คนและวัฒนธรรมขององค์กร (People and Culture) ซึ่งถือเป็นแกนหลักที่สำคัญที่สุด จนอาจพูดได้ว่าการทำ Digital Transformation ได้ประสบความสำเร็จต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย แต่การทำ Digital Transformation ที่ไม่ประสบความสำเร็จเป็นเพราะเหตุผลเดียวนั่นคือเรื่องของ "คน" ซึ่งนี่คือเรื่องของการเน้นการสร้างและปลูกฝังให้คนในองค์กรมีทักษะดิจิตอลที่จำเป็น ประกอบกับการมี Digital Mindset คือกล้าลงมือทำ ไม่ยึดติด ไม่กลัวล้มเหลว พร้อมเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพราะหากขาดกลยุทธ์และการวางแผนที่รอบคอบ อาจกลายเป็นแค่การเปลี่ยนระบบการทำงานซึ่งเกิดประโยชน์น้อย"
          โดย Simplilearn คือ สถาบันผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในการฝึกอบรมแบบออนไลน์ กับเป้าหมายที่ต้องการส่วนหนึ่งในการช่วยให้องค์กรและธุรกิจสามารถอยู่รอดท่ามกลางกระแสดิจิตอลดิสรัปชั่น ด้วยโปรแกรมการเรียนรู้แบบเจาะลึกเกี่ยวกับ Digital Transformation มุ่งเน้นไปที่การรีสกิล (Reskill) และอัพสกิล (Upskill) คนและองค์กรทั่วโลกผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุด ปัจจุบัน Simplilearn ให้บริการมายาวนานกว่า 10 ปี การันตีความนิยมด้วยยอดการใช้งานกว่า 150 ประเทศทั่วโลก พร้อมไปด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมมาโดยเฉพาะมากกว่า 5 ล้านคนและผู้ฝึกสอนระดับอุตสาหกรรมกว่าอีก 1,000 คน อัดแน่นไปด้วยบทเรียนออนไลน์กว่า 150 บทเรียนให้เลือก ตามความต้องการ และได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 แบรนด์ธุรกิจเพื่อการศึกษาที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก จาก LinkedIn
          "ด้วยความตั้งใจให้คนไทยได้เข้าถึงเนื้อหา ทักษะความรู้ระดับโลกในรูปแบบและราคาที่คนไทยจับต้องได้ สำหรับความร่วมมือระหว่าง SEAC และ Simplilearn นี้ จะเน้นรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น 1.ห้องเรียนออนไลน์ผ่านโมเดลการเรียนรู้ YourNextU 2. Labs/Live Virtual Session จากผู้เชี่ยวชาญพร้อมคำแปลภาษาไทย และ 3. การนำเสนอโซลูชั่นที่เฉพาะเจาะจงต่อความต้องการของแต่ละองค์กร (Customized Solution) เพราะเราเชื่อว่าทักษะดิจิตอล (Digital Skills 4.0) คือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดยุคดิสรัปชั่นที่คนไทยจำเป็นต้องรีสกิล (Reskill) และอัพสกิล (Upskill) ตั้งแต่วันนี้" นางอริญญา กล่าวสรุป

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad