UPA ย้ายหุ้นเทรดกลุ่มทรัพยากรดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ หนุนเชื่อมั่น-เพิ่มความสนใจนักลงทุนสถาบันเดินหน้าขยายลงทุน”โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน”ดันผลงานอนาคตสดใส - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2563

UPA ย้ายหุ้นเทรดกลุ่มทรัพยากรดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ หนุนเชื่อมั่น-เพิ่มความสนใจนักลงทุนสถาบันเดินหน้าขยายลงทุน”โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน”ดันผลงานอนาคตสดใส


UPA พร้อมย้ายหุ้นเข้าเทรดในกลุ่มทรัพยากร จากกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ดีเดย์ 1 กรกฎาคม นี้  ผู้บริหาร "วิชญ์ สุวรรณศรี "  มั่นใจหนุนศักยภาพการเติบโตสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น หวังกลุ่มสถาบันให้ความสนใจมากขึ้น พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนหนุนผลงานอนาคตสดใส

นายวิชญ์ สุวรรณศรี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้อนุมัติให้หุ้น UPA เข้าไปทำการซื้อขายในกลุ่มทรัพยากร (RESOURC)  จากเดิมอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ( TECH ) เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทฯมีรายได้หลักมาจากธุรกิจพลังงาน สาธารณูปโภค และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
"การที่หุ้น UPA สามารถย้ายไปเทรดในกลุ่มทรัพยากร จะช่วยสร้างความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตดีในระยะยาว ซึ่งบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าในโครงการต่าง ๆ สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนสถาบันหันมาสนใจมากขึ้นอีกด้วย "
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจปี2563 คาดว่ามีแนวโน้มการฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากปีก่อน  เนื่องจากบริษัทฯจะรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์โครงการสหกรณ์ฯ จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสหกรณ์ผู้ผลิต และผู้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ อ.กระแสสินธุ์ ,โครงการสหกรณ์การเกษตรวิเชียรบุรี  และโครงการสหกรณ์การเกษตรกะทูน กำลังการผลิตรวม 7.95 เมกะวัตต์ ระยะเวลาสัมปทาน 20 ปี และโครงการผลิตน้ำประปาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนการขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กลุ่ม CLMV
อนึ่ง ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาสที่ 1/2563 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 1.37 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 29.27 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad