“ภูมิธรรม” สั่งกรมการค้าภายใน ทำยุทธศาสตร์คลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นสาธารณะ
“ภูมิธรรม” เผยคณะกรรมการกำกับคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น
มอบกรมการค้าภายในทำยุทธศาสตร์คลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นสาธารณะ
เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ให้กับ SMEs และให้ อคส.
เพิ่มบทบาทบริหารจัดการสินค้าข้าว ข้าวโพด และอื่น ๆ
ให้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมไฟเขียวให้ผู้ประกอบการฝากเงินไว้ที่อื่น
นอกเหนือจากธนาคารหรือบริษัทเงินทุน
และไม่แทรกแซงการคิดค่าเก็บรักษาสินค้าหรือให้บริการ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำกับคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น
ครั้งที่ 1/2566 ว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในจัดทำยุทธศาสตร์คลังสินค้า
ไซโล และห้องเย็นสาธารณะ โดยให้ร่วมกับสมาคมธุรกิจคลังสินค้า
ไซโลและห้องเย็น และบรรดาสมาชิก ร่วมกันจัดทำ
โดยจะต้องทำการเชื่อมโยงข้อมูล การนำนวัตกรรมมาใช้ในการให้บริการ
การปรับปรุงการให้บริการ และการประชาสัมพันธ์
เผยแพร่ข่าวสารให้ผู้ประกอบการ และ SMEs มาใช้บริการคลังสินค้า ไซโล
ห้องเย็นสาธารณะ
ซึ่งยุทธศาสตร์จะเป็นแนวทางในการยกระดับมาตรฐานการประกอบธุรกิจ คลังสินค้า
ไซโล และห้องเย็นสาธารณะ ให้เป็นกลไก สามารถช่วยเหลือ SMEs
อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากบริหารให้มีประสิทธิภาพ จะเป็นการลดต้นทุนของ
SMEs เท่ากับเป็นการลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.)
ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในกำกับของกระทรวงพาณิชย์
เพิ่มบทบาทในการให้บริการ SMEs
และบริหารจัดการสินค้าที่มีนัยสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ เช่น ข้าว ข้าวโพด
และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อบริหารจัดการให้สินค้าเหล่านี้
มีเพียงพอต่อความต้องการใช้ เพื่อเป็น National Food Security
โดยจะต้องทำงานสอดประสานกับยุทธศาสตร์คลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นสาธารณะ
ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง มีจุดมุ่งหมาย
เพื่อยกระดับการบริหารจัดการและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศ
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบ (ร่าง)
ประกาศคณะกรรมการกำกับคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น เรื่อง หลักเกณฑ์
วิธีการ
และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตฝากเงินไว้ที่อื่นนอกจากที่ธนาคารหรือบริษัทเงินทุน
ตามที่กรมการค้าภายใน ในฐานะฝ่ายเลขานุการเสนอ
เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ
และยังมีมติไม่เข้าไปแทรกแซงการเก็บค่าบำเหน็จในการเก็บรักษาสินค้าหรือให้บริการเกี่ยวกับสินค้า
โดยเห็นควรให้เป็นไปตามกลไกตลาดปกติและการแข่งขันเสรี
แต่ถ้ามีเหตุผลหรือความจำเป็น ก็จะพิจารณาออกประกาศบังคับใช้ต่อไป
สำหรับคณะกรรมการชุดนี้ มีบทบาทในการออกประกาศ
กำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นสาธารณะที่อยู่ภายใต้
พ.ร.บ.คลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น พ.ศ.2558 จึงต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการประกอบธุรกิจ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
และยังต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ซึ่งให้หน่วยงานของรัฐเร่งรัดตรวจสอบกฎหมายในความรับผิดชอบที่มีผลใช้บังคับก่อน
27 พ.ย.2562
ว่ามีบทบัญญัติที่ต้องออกกฎเพื่อที่ประชาชนจะสามารถปฏิบัติตามหรือไม่
และกรณีเป็นกฎที่หน่วยงานของรัฐนั้นดำเนินการให้แล้วเสร็จได้เอง
ให้เร่งรัดให้แล้วเสร็จก่อน 27 พ.ย.2566
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น