อาเซียนเปิดฉากถกประเด็นเศรษฐกิจปีนี้ เวียดนามชง 14 หัวข้อ มีทั้งเรื่องที่ไทยริเริ่มและเรื่องใหม่ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563

อาเซียนเปิดฉากถกประเด็นเศรษฐกิจปีนี้ เวียดนามชง 14 หัวข้อ มีทั้งเรื่องที่ไทยริเริ่มและเรื่องใหม่

img

อาเซียนเปิดฉากหารือประเด็นเศรษฐกิจนัดแรก หลังเวียดนามรับไม้ต่อประธานอาเซียนจากไทย เผยมี 14 ประเด็นเศรษฐกิจที่เวียดนามให้ความสำคัญในปีนี้ มีเรื่องที่ไทยริเริ่มไว้ ทั้งแผนงานด้านดิจิทัล ต่อต้านประมงผิดกฎหมาย การลงนามอาร์เซ็ป และประเด็นใหม่อย่างการพัฒนาอุตสาหกรรมอิจฉริยะ เชื่อมโยงชำระเงิน ความมั่นคงอาหาร เผยยังได้เร่งรัดทบทวนการเปิดเสรีสินค้า ลงนามข้อตกลงยอมรับสาขายานยนต์ และรับติมอร์-เลสเต เป็นสมาชิกใหม่ พร้อมเตรียมเดินหน้าอัพเกรดเอฟทีเอกับคู่เจรจา เปิดเจรจาเอฟทีเอใหม่ 

นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการรายสาขาด้านเศรษฐกิจของอาเซียน หรือ Committee of the Whole (CoW) ครั้งที่ 10 และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน หรือ SEOM ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 11-14 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งเป็นการประชุมด้านเศรษฐกิจของอาเซียนครั้งแรกในปี 2563 ภายหลังจากเวียดนามรับไม้การเป็นประธานอาเซียนต่อจากไทย เพื่อร่วมกันกำหนดประเด็นสำคัญและแผนการทำงานด้านเศรษฐกิจอาเซียนที่ต้องดำเนินการให้บรรลุผลในปีนี้

สำหรับผลการประชุมในภาพรวม อาเซียนได้หารือแผนการทำงานด้านเศรษฐกิจที่จะร่วมกันผลักดันในปีนี้ ภายใต้แนวคิดของเวียดนามในฐานะประธานอาเซียน คือ “อาเซียนที่เป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว” (Cohesive and Responsive ASEAN) รวม 14 ประเด็น โดยเป็นประเด็นที่สานต่อจากที่ไทยริเริ่มไว้ เช่น การจัดทำกลไกเพื่อติดตามและประเมินการบูรณาการด้านดิจิทัล การจัดทำแผนงานด้านต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมายและไร้การควบคุม (IUU) และการลงนามความตกลงอาร์เซ็ปหลังจากปิดดีลที่ไทย เป็นต้น และมีประเด็นใหม่ๆ เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมอัจฉริยะ การเชื่อมโยงการชำระเงิน การเชื่อมโยงศูนย์นวัตกรรม การทำแผนงานความมั่นคงทางอาหารระหว่างกัน เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้มีการติดตามการดำเนินการ เช่น การทำแนวทางการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA) เพื่อรองรับรูปแบบการค้าปัจจุบันและลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันมากขึ้น การผลักดันให้ใช้ระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตัวเองโดยเร็ว เพื่อลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการค้าระหว่างกัน การเร่งรัดการเจรจาข้อตกลงยอมรับร่วมในสาขาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งเร่งรัดข้อตกลงยอมรับร่วมในสาขาอุตสาหกรรมรถยนต์ของอาเซียนที่เจรจาเสร็จนานแล้วให้มีการลงนามและมีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อลดขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานซ้ำซ้อน และการขอเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของประเทศติมอร์-เลสเต

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้หารือถึงแผนการทำงานระหว่างอาเซียนกับคู่เจรจา รวม 11 ประเทศ เช่น การยกระดับความตกลงเอฟทีเอกับประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน เกาหลี ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ให้ครอบคลุมและเปิดตลาดระหว่างกันมากขึ้น การเร่งรัดให้ประเทศสมาชิกให้สัตยาบันความตกลงเอฟทีเอกับญี่ปุ่นฉบับปรับปรุงโดยเร็ว ที่ขณะนี้มีไทยและสิงคโปร์ดำเนินการแล้ว การทำแนวทางหรือขั้นตอนสำหรับการเจรจาเอฟทีเอใหม่ๆ หรือที่จะกลับมาเจรจาในอนาคต เช่น แคนาดา และสหภาพยุโรป (อียู) เป็นต้น และการวางแนวทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับกลุ่มประเทศ EAEU ที่มีรัสเซียเป็นสมาชิก

ทั้งนี้ อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย การค้าระหว่างไทยกับอาเซียนปี 2561 มีมูลค่าการค้ารวม 113,792 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% โดยไทยส่งออกไปอาเซียน 68,545 ล้านเหรียญสหรัฐและนำเข้าจากอาเซียน 45,247 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในช่วง 11 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-พ.ย.) การค้าระหว่างไทยกับอาเซียนมีมูลค่า 99,518 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทยไปอาเซียน 57,859 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้าจากอาเซียน 41,659 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการส่งออกของไทยไปอาเซียนในปัจจุบัน คิดเป็น 27% ของการส่งออกรวมของไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad