“จุรินทร์”จับมือห้างรีไลแอนซ์จัดกิจกรรมโปรโมตอาหาร-ผลไม้ไทยในอินเดีย นำร่อง 25 สาขา ใน 3 รัฐ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563

“จุรินทร์”จับมือห้างรีไลแอนซ์จัดกิจกรรมโปรโมตอาหาร-ผลไม้ไทยในอินเดีย นำร่อง 25 สาขา ใน 3 รัฐ

img

“จุรินทร์”จับมือรีไลแอนซ์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ในอินเดีย จัดกิจกรรมโปรโมต “อาหารและผลไม้ไทย” นำร่อง 25 สาขา ใน 3 รัฐ ระยะเวลา 1 เดือน มั่นใจช่วยแนะนำอาหารไทยและผลไม้ไทยให้ชาวอินเดียรู้จักได้เพิ่มขึ้น และส่งผลให้ส่งออกได้มากขึ้น ส่วนผลนำคณะผู้ประกอบการไทยขายสินค้าที่บังกาลอร์และไฮเดอราบัด ขายได้รวม 2,785 ล้านบาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายอาหารและผลไม้ไทยในงานเทศกาลอาหารและผลไม้ไทย “ไทยฟู้ดแอนด์ฟรุ้ต ฟิเอสต้า” (Thai Food and Fruits Fiesta) ซึ่งจัดขึ้นในซุปเปอร์มาร์เก็ตรีไลแอนซ์ สาขาหลัก 25 สาขา ใน 3 รัฐ ได้แก่ รัฐเตลังกานา ทมิฬนาฑู และรัฐอานธรประเทศ ว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นหนึ่งในความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และรีไลแอนซ์ รีเทล ที่จะจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์อาหารและผลไม้ไทยในสาขาของห้างรีไลแอนซ์ตลอดระยะเวลา 1 เดือนนับจากนี้ และได้ตั้งเป้าจะขยายกิจกรรมนี้ไปทั่วประเทศอินเดียต่อไป เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้บริโภคชาวอินเดียได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารและผลไม้ไทยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนชาติอื่นใดในโลก ผ่านช่องทางการค้าสมัยใหม่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตสาขาต่างๆ ในเครือรีไลแอนซ์ทั่วประเทศอินเดีย ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออกอาหารและผลไม้ไทยที่จะเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในปัจจุบันอาหารไทยเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลกเพิ่มยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความเป็นเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนอาหารชาติใดในโลก แต่ก็มีความใกล้เคียงกับอาหารอินเดีย โดยมีรสชาติเผ็ดร้อนและใช้กะทิเป็นวัตถุดิบหลักเช่นเดียวกับแกงของอินเดีย จึงมีโอกาสในการขยายตลาดในอินเดียได้ ซึ่งได้ใช้โอกาสนี้ สาธิตการปรุงผัดไทยและเชิญชวนให้ชาวอินเดียได้ทดลองรับประทานกันด้วย

ส่วนผลไม้ อินเดียมีการนำเข้าผลไม้สดจากไทยหลายชนิด โดยเฉพาะมังคุด สัปปะรด มะม่วง เงาะ ฝรั่ง ลำไย และทุเรียน อันเป็นผลจากการลดอัตราภาษีภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย และยังมีผลไม้อื่นๆ ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวอินเดียเพิ่มขึ้น เช่น มะพร้าวน้ำหอม มะขามหวาน ลิ้นจี่ ซึ่งเชื่อว่ายังมีโอกาสขยายตัวได้อีกต่อไปในตลาดอินเดีย

ปัจจุบันผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักและนิยมบริโภคกันในหมู่ชาวต่างชาติ ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นของผลไม้ไทยทั้งในด้านคุณภาพและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ผลไม้ 3 อันดับแรก ที่ไทยส่งออกสูงสุด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด และลำไย โดยมีมูลค่าส่งออกรวมทั้งหมด 3,213 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 99,000 ล้านบาทในปี 2562 และด้วยมูลค่าส่งออกดังกล่าว ส่งผลให้ไทยเป็นผู้ส่งออกผลไม้อันดับที่ 6 ของโลก

อย่างไรก็ตาม นอกจากงานไทยฟู้ดแอนด์ฟรุ้ต ฟิเอสต้า ความร่วมมือยังครอบคลุมถึงการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างไทยและห้างรีไลแอนซ์ โดยกระทรวงพาณิชย์ยินดีและพร้อมสนับสนุน เพราะจะเป็นวิธีที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศให้เพิ่มขึ้น

จุรินทร์กล่าวว่า สำหรับผลการนำคณะผู้ประกอบการไทยไปขายสินค้าที่อินเดีย รวม 2 เมือง ที่บังกาลอร์ วันที่ 18 ม.ค.2563 ขายได้รวม 1,100 ล้านบาท แยกเป็น การขายไม้ยางพารา 11,000 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 100 ล้านบาท ขายมันสำปะหลัง 3,500 ตัน มูลค่า 72 ล้านบาท ขายกาวผง 1,200 ตัน มูลค่า 60 ล้านบาท ขายเฟอร์นิเจอร์ อาหาร และเคมีภัณฑ์ รวมมูลค่า 805 ล้านบาท ส่วนเปิดตัวสินค้าไทย 200 รายการใน Bigbasket.com คาดว่าในปีแรกจะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และที่เมืองที่ไฮเดอราบัด วันที่ 19 ม.ค.2563 ขายได้1,685 ล้าน แยกเป็นไม้ยาง 1280 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 17.5 ล้านบาท ทีวี LCD 1280 เครื่อง มูลค่า 1500 ล้านบาท เสื้อผ้า 100 ล้านบาท แป้งมัน 1000 ตัน มูลค่า 18 ล้านบาท และบริการด้านโลจิสติกส์ที่ช่วยการส่งออกของผู้ประกอบการรายย่อยของไทยมูลค่ารวม 50 ล้านบาท รวม 2 วันขายได้ 2,785 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad