CPF ชูนวัตกรรม-เทคโนโลยีขั้นสูง ช่วยลดการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลงได้ 36 % - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

CPF ชูนวัตกรรม-เทคโนโลยีขั้นสูง ช่วยลดการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลงได้ 36 %

    .com/img/a/

CPF ชูนวัตกรรม-เทคโนโลยีขั้นสูง ช่วยลดการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลงได้ 36 %
                      
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  ขับเคลื่อนเป้าหมายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุดตลอดกระบวนการผลิต โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ส่งผลใช้น้ำต่อหน่วยการผลิตลดลง
และหมุนเวียนน้ำที่บำบัดแล้วกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ในกระบวนการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต            
         
นายพีรพงศ์ กรินชัย รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านวิศวกรรมกลาง ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ น้ำ และของเสีย ซีพีเอฟ กล่าวว่า  ซีพีเอฟ  ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากร โดยคำนึงถึงประโยชน์และความ
คุ้มค่าสูงสุดตลอดกระบวนการผลิต ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular  Economy) โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำที่นำมาใช้เกิดประโยชน์สูงสุด  ควบคู่กับการวางแผนการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ  ตามหลักการ 3Rs  คือ ลดการใช้น้ำ นำน้ำมาใช้ซ้ำ และนำน้ำมาใช้ประ
โยชน์ใหม่ (Reduce Reuse Recycle) ทำให้ในปี 2563 บริษัท ฯ สามารถลดการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลงได้ถึง 36 % เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558 
         
.com/img/a/และปริมาณน้ำที่นำมาใช้ซ้ำและใช้ใหม่อยู่ที่ 42 %  ของปริมาณน้ำใช้ทั้งหมด  ขณะที่ผลการดำเนินงานลดการดึงน้ำมาใช้
ต่อหน่วยการผลิตในปีที่ผ่านมา  ทำได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2568 ที่จะลดการนำน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลง  30 %                
 
"ซีพีเอฟ มุ่งมั่นพัฒนาตามแนวทางการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน  โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดปริมาณน้ำเสียที่จะเกิดขึ้น  รวมไปถึงการออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียให้สามารถหมุนเวียนน้ำที่บำบัดแล้ว  นำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อบริหารจัดการ
ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน" นายพีรพงศ์ กล่าว                
   
ซีพีเอฟนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อบริหารจัดการการใช้น้ำในทุกกระบวนการ อาทิ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่โคราชที่นำระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air Chiller) มาใช้แทนระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (Water Chiller) เพื่อลดอุุณหภููมิ
ซากไก่ สามารถลดการใช้น้ำได้มากกว่า 426,000 ลููกบาศก์เมตรต่อปี  การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในกระบวนการผลิตต่างๆ  ได้แก่ ระบบทำความเย็น ระบบทำความสะอาดเครื่่องมือและอุุปกรณ์ ระบบทำความสะอาดชุุดทำงานในโรงงานแปรรููปเนื้้อไก่และอาหารแปรรููป
มีนบุรี 1 ช่วยลดการใช้น้ำ  240,000 ลููกบาศก์เมตรต่อปี  หรือลดลง 10 % การนำน้ำมาใช้ซ้ำ โดยนำน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดแล้วกลับมาใช้ในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตในธุรกิจอาหารสัตว์บก เช่น  รดน้ำต้นไม้ ล้างพื้นถนน เป็นต้น  .com/img/a/
.com/img/a/

การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีการกรองน้ำประสิทธิภาพสูงแบบอัลตราฟิลเตรชั่น (Ultrafitration : UF) เพื่อกรองน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว และปรับปรุงคุณภาพทำให้ได้น้ำสะอาดหมุนเวียนกลับมาใช้ในกระบวนการผลิต  เช่น ทำความสะอาดเครื่องมือและ
อุปกรณ์ หรือแม้กระทั่งการนำระบบกรองน้ำแบบรีเวิร์สออสโมซิส (Reverse Osmosis) เพื่อให้ได้น้ำที่มีคุณภาพสูง สามารถนำไปใช้กับระบบระบายความร้อนในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่โคราช ทั้งสองส่วนนี้สามารถลดการดึงน้ำจากภายนอกได้กว่า  720,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี
ในธุรกิจสัตว์น้ำ มีการนำระบบรีไซเคิลมาใช้หมุนเวียนน้ำที่ใช้ในฟาร์มกุ้ง   ไม่มีการปล่อยน้ำออกจากฟาร์มสู่สิ่งแวดล้อม (Zero Liquid Discharge)  โดยใช้ระบบกรองน้ำแบบอัลตราฟิเตรชั่น (UF) ในการบำบัดน้ำจากแหล่งน้ำภายนอกและน้ำที่ใช้ในการเลี้ยงกุ้ง เพื่อหมุนเวียน
น้ำกลับมาใช้ภายในฟาร์มกุ้ง  และขยายผลไปยังธุรกิจอื่นๆ  เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด      

นอกจากนี้  ในส่วนของน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้ว  บริษัทฯ นำมาหมุนเวียนกลับมาใช้ในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต ทั้งในธุรกิจอาหารสัตว์  การเลี้ยงสัตว์บก และธุรกิจอาหาร เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างพื้นถนน และล้างโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น   ล่าสุด ในปี  2563  
ซีพีเอฟรับการประเมินผลการดำเนินงานภายใต้กรอบของสถาบันประเมินความยั่งยืนที่น่าเชื่อถือระดับโลก โดย CDP  ทั้งด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (CDP Climate)  ด้านการบริหารจัดการน้ำ (CDP Water)   และการบริหารจัดการเพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลาย
ป่า    (CDP  Forest)  สะท้อนการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือของบริษัทต่อนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสีย    

นายพีรพงศ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำที่ช่วยลดการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตแล้ว  บริษัท ฯ ยังมีส่วนร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำลุ่มน้ำป่าสัก บริเวณเขาพระยาเดินธง ต. พัฒนานิคม จ.ลพบุรี 6,971 ไร่ ในโครงการ ซีพีเอฟ
รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์น้ำในเขื่อนป่าสัก  ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการเกษตรและอุตสาหกรรมของจ.ลพบุรีและใกล้เคียง ./

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad