สุดอลังการ! จิม ทอมป์สัน จัดงานฉลองยิ่งใหญ่เปิดตัว “Jim Thompson Heritage Quarter” ชวนเปิดประตูสู่อาณาจักรไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบใจกลางกรุงเทพฯ ที่ผสานโลก
แห่งวัฒนธรรมและความทันสมัยในการออกแบบสุดไอคอนิก!
สร้างตำนานบทใหม่กับการก้าวสู่แบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ระดับโลกแบรนด์แรกจากเอเชีย
พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกภายใต้วิสัยทัศน์ “Beyond Silk”
กรุงเทพฯ, 24 พฤศจิกายน 2566 – จิม ทอมป์สัน จัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเผยโฉมนิวลุคสุดตระการตาของ Jim Thompson Heritage Quarter ถือเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางแห่งความสำเร็จของแบรนด์ระดับตำนานอย่าง จิม ทอมป์สัน ด้วยเป้าหมายในการเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกแบรนด์แรกจากเอเชีย เพื่อตอกย้ำสโลแกน 'Beyond Silk' อันแสดงถึงวิวัฒนาการของแบรนด์ที่ก้าวไกลกว่าการเป็นเพียงแบรนด์ผ้าไหมไทยชื่อดัง แต่ยังมุ่งมั่นในการนำเสนอสุดยอดประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับอย่างแท้จริง ปัจจุบัน แบรนด์ได้ขยายธุรกิจจนครอบคลุมทั้งสินค้าแฟชั่น ผ้าตกแต่งบ้าน ตลอดจนบริการอาหารและเครื่องดื่ม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายในงานเปิดตัวมีไฮไลต์สำคัญคือแฟชั่นโชว์สุดพิเศษบนรันเวย์แสนงดงาม ท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคัก โดยมีผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัล, กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์, วันแบงค็อก และสยามพิวรรธน์ ให้เกียรติเข้าร่วมงาน พร้อมด้วยเหล่าวีไอพี ศิลปิน และบุคคลมีชื่อเสียงจากหลากหลายแวดวงทั่วฟ้าเมืองไทยตบเท้าเข้าร่วมฉลองเปิดนิวลุคอย่างยิ่งใหญ่กันอย่างคับคั่ง อาทิ ซี-พฤกษ์ พานิช, นุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์, ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์, ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร, กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์, โก้-วศิน อัศวนฤนาท และอีกมากมาย
งานเฉลิมฉลองถูกเนรมิตขึ้นด้วยสีสันของคอลเลกชันผ้าตกแต่งบ้านสุดเอ็กซ์คลูซีฟของจิม ทอมป์สัน ที่เต็มไปด้วย
มนต์เสน่ห์แห่งมรดกด้านการถักทออันยาวนาน พร้อมผสานกลิ่นอายความยูนีคสมัยใหม่ เพื่อครีเอตสเปซสุดตระการตาในบรรยากาศที่ไม่มีใครเหมือน จิม ทอมป์สัน เริ่มต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยชุดการแสดงเปิดงาน สร้างความตื่นเต้นด้วยกลองฉลองชัยผสมผสานกับการแสดงศิลปะร่ายรำในชุด “Silk Fabric Dance” ที่พลิ้วไหวสวยงามอลังการ เผยให้เห็นถึงความประณีตละเอียดอ่อนและความวิจิตรของลวดลายผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของจิม ทอมป์สัน ที่โลดแล่นสะกดทุกสายตา
ไฮไลต์สำคัญที่ทุกคนตั้งตารอคอยคือ แฟชั่นโชว์ครั้งยิ่งใหญ่ของจิม ทอมป์สัน จัดเต็มแปลงโฉม “Jim Thompson Heritage Quarter” เป็นรันเวย์สุดพิเศษ โดยนำเสนอดีไซน์สุดไอคอนิกผ่าน 42 ลุค ที่สร้างนิยามใหม่ให้การ
เบลนด์ศิลปวัฒนธรรมอันงดงามเข้ากับความโมเดิร์น แต่ละไอเทมเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ทั้งลุควันทำงานและวันพักผ่อน แต่ยังคงดีไซน์อันยูนีคและคุณภาพตามแบบฉบับของจิม ทอมป์สัน คีย์ลุคของรันเวย์คือ 'Look 42' ชุด
ฟินาเล่ในงานครั้งนี้ นางแบบปรากฏตัวในเดรสผ้าไหมมัดหมี่สีทองเมทัลลิกอันวิจิตรงดงามของจิม ทอมป์สัน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดผ้าไหมไทยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผลงานชิ้นนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงเส้นทางสายไหมของแบรนด์จิม ทอมป์สันที่เปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์ที่ได้เดินทางมาสู่ยุคปัจจุบัน พร้อมมุ่งหน้าสู่การเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก นอกจากนี้ แต่ละบทเพลงที่เลือกมาประกอบรันเวย์ครั้งนี้ ยังอินสไปร์มาจากการเส้นทางการสร้างธุรกิจของแบรนด์ตั้งแต่ยุคปี 1950 จวบจนถึงปัจจุบัน
ภายในงาน แขกผู้มีเกียรติยังได้เพลิดเพลินกับเมนูพิเศษรังสรรค์โดยเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟของ “ร้านอาหารไทย จิม
ทอมป์สัน” เปิดประสบการณ์การดื่มด่ำเมนูอาหารอันน่าตื่นเต้น แถมยังสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ร่วมงานด้วยเมนูเครื่องดื่มจาก The O.S.S. Bar ที่ผสานความคิดสร้างสรรค์กับรสชาติแปลกใหม่เอาไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งแต่ละแก้วสร้างสรรค์โดยมิกซ์โซโลจิสต์ชั้นนำ ให้แขกทุกคนได้เอ็นจอยท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนาน ส่งท้ายค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ซึ่งจัดขึ้นที่ The Moonlight Hall พร้อมดนตรีสดจากเหล่าดีเจชื่อดังที่ผลัดเปลี่ยนกันมามอบความสุขตลอดทั้งคืนและการแสดงสุดพิเศษจากวง Nisatiwa (นิศาทิวา)
แฟรงก์ แคนเซลโลนี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด แบรนด์
จิม ทอมป์สัน กล่าวถึงความสำเร็จของงานว่า “การเปิดตัว Jim Thompson Heritage Quarter เต็มรูปแบบในครั้งนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลองมรดกทางวัฒนธรรมและฉายภาพอนาคตของแบรนด์เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ไอคอนิก
ไลฟ์สไตล์ระดับโลกแบรนด์แรกจากเอเชีย ผ่านการนำเสนอวัฒนธรรมไทยในรูปแบบที่หลากหลายและเปี่ยมความคิดสร้างสรรค์ พาผลิตภัณฑ์และบริการจากไทยไปสู่ผู้คนทั่วโลก การเปิด Heritage Quarter โฉมใหม่ในวันนี้ เป็นก้าวสำคัญของเราในการสร้างไลฟ์สไตล์เดสติเนชันที่ครบครันที่สุด พร้อม ๆ ไปกับการขยายธุรกิจให้เติบโตผ่านกลยุทธ์การจับมือกับแบรนด์ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ทั้งด้านอาหาร แฟชั่น ศิลปะการออกแบบตกแต่ง และอื่นๆ อีกมากมาย ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของทุกคน ตอกย้ำจุดยืนในฐานะแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำจากเอเชีย"
สถานที่ท่องเที่ยวใน Jim Thompson Heritage Quarter
ในไลฟ์สไตล์เดสติเนชันแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ “พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน” ซึ่งประกอบด้วยบ้านไทย
หกหลัง โดยจิม ทอมป์สัน ได้เสาะหาและขนย้ายไม้มาจากภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยในช่วงปี 1950 โดยหลังการหายตัวไปอย่างลึกลับของเขาในปี 1967 สถานที่แห่งนี้ได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงคอลเลกชันของสะสมและผลงานศิลปะจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “Museum About the Man” นิทรรศการที่รวบรวมข้อมูลจากมูลนิธิเจมส์ เอช ดับเบิลยู ทอมป์สัน จัดแสดงการบันทึกเรื่องราวชีวิตของจิม ทอมป์สัน ตั้งแต่การเป็นสถาปนิกในสหรัฐอเมริกาไปจนถึงบทบาทการพลิกโฉมอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยจนได้รับฉายา "ราชาไหมไทย" นอกจากนี้ยังย้อนรอยการเดินทางของสิ่งทอของ จิม ทอมป์สัน ที่สร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติผ่านการจัดแสดงชุดผ้าไหมของจิม
ทอมป์สันที่ออกแบบขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 ส่วน “Home Furnishings Exhibition” เล่าถึงการสานต่อธุรกิจของบริษัท อุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด หลังการหายตัวไปของจิม ทอมป์สัน “Iconic Store” รีเทลสโตร์กว้างขวางนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์ ทั้งแฟชั่นผู้ชาย-ผู้หญิง และคอลเลกชันสินค้าตกแต่งบ้าน การออกแบบสโตร์โดดเด่นด้วยโทนสีชาดสีเดียวกับบ้านไทย พร้อมด้วยการตกแต่งที่ดูทันสมัยน่าเดินให้ลูกค้าได้เลือกชมสิ่งทอคุณภาพสูงและเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลกชันมากมาย นอกจากนี้ “Jim Thompson Art Center” ที่ดำเนินการโดย มูลนิธิเจมส์ เอช ดับเบิลยู ทอมป์สัน ยังเปิดพื้นที่นำเสนอนิทรรศการหมุนเวียน เวิร์กชอปสุดสร้างสรรค์ และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศิลปะให้เหล่าศิลปินได้มาแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์กันอีกด้วย
โซนร้านอาหารและเครื่องดื่มโฉมใหม่ของ Jim Thompson Heritage Quarter เป็นดั่งสวรรค์ของฟู้ดเลิฟเวอร์ที่ประกอบไปด้วย “ร้านอาหารไทย จิม ทอมป์สัน” โฉมใหม่แสนตระการตา นำเสนอเมนูอาหารไทยแบบอาลาคาร์ต
รสชาติเยี่ยมในคอนเซ็ปต์สร้างสรรค์ และบนชั้นสองของร้านอาหารไทย ผู้มาเยือนจะพบกับ “The O.S.S. Bar” บาร์ที่ผสมผสานมนต์เสน่ห์ของโลกยุคเก่าและกลิ่นอายความโมเดิร์นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายทำให้บาร์แห่งนี้เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์พร้อมจิบเครื่องดื่มที่คราฟต์ขึ้นพิเศษโดยมิกซ์โซโลจิสต์มากประสบการณ์ ในช่วงกลางวัน พื้นที่แห่งนี้จะแปลงโฉมเป็น The O.S.S. Room นำเสนอเซตอาฟเตอร์นูนที เปิดประสบการณ์จิบน้ำชายามบ่ายสุดผ่อนคลาย พร้อมรับวิวสวนสวยเห็นบ่อปลาคาร์ฟร่มรื่น “Jim's Terrace” คาเฟ่ไทย-ทาปาสวิวระเบียงบ้านไทยสุดชิค พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี Silk Café คาเฟ่สวยเสิร์ฟของว่างควบคู่ไปกับเครื่องดื่มร้อนและเย็นในบรรยากาศร่มรื่นของพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน และ The Moonlight Hall ห้องจัดเลี้ยงที่ตกแต่งอย่างงดงามสำหรับจัดงานไพรเวตอีเวนต์ อาทิ กิจกรรมองค์กร งานแต่งงาน และโอกาสพิเศษต่าง ๆ
ไลฟ์สไตล์เดสติเนชันแห่งนี้ได้เบลนด์ความงามของศิลปวัฒนธรรม แฟชั่น ประวัติศาสตร์ และโลกแห่งอาหารชั้นเลิศเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของจิม ทอมป์สันในการสร้างจุดหมายปลายทางระดับโลกเพื่อเชิดชูมรดกทางวัฒนธรรมไทยในบริบทใหม่ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป งานเปิดตัว Jim Thompson Heritage Quarter ครั้งนี้ถือเป็นการปูพรมให้จิม ทอมป์สัน เดินหน้าขยายธุรกิจในฐานะผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก โดยมี Jim Thompson Heritage Quarter เป็นตัวแทนของสเปซที่ซึ่งประวัติศาสตร์และอนาคตมาบรรจบกัน ที่ Jim Thompson Heritage Quarter โฉมใหม่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและทั่วโลกจะได้สัมผัสวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า พร้อมลิ้มรสชาติแห่งไทยที่เปี่ยมด้วยเรื่องราวและความคิดสร้างสรรค์ในแบบฉบับของจิม ทอมป์สัน
#JimThompson
#JimThompsonHeritageQuarter
# # # # #
เกี่ยวกับ Jim Thompson
Jim Thompson (บริษัท อุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด) เป็นแบรนด์ผ้าไหมไทยระดับตำนาน ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1951 โดยเจมส์ แฮร์ริสัน วิลสัน ทอมป์สัน สถาปนิกและนักธุรกิจชาวอเมริกันที่ชื่นชอบการสะสมศิลปะและโด่งดังในแวดวงสังคมไทย แต่บทบาทสำคัญอันเป็นที่จดจำของคนไทย คือการเป็นผู้ผลักดันอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล การหายตัวไปของจิม ทอมป์สัน ในปี ค.ศ. 1967 ยังคงเป็นปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปัจจุบัน Jim Thompson เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกสุดไอคอนิกของไทยที่โด่งดังในฐานะผู้ผลิตผ้าไหมที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์และกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายภายใต้กลยุทธ์ “Beyond Silk”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น