ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดตัวอีโคแพ็คเกจจิ้งสำ
หรับเนื้อสัตว์รายแรกของไทยชูบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
ย่อยสลายได้ 100% เดินหน้าตามโรดแมป Net Zero
2050
กรุงเทพฯ 9 พฤษภาคม 2567 – ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เร่งเดินหน้าภารกิจสร้างโลกยั่งยืน เปิดตัวบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกสำหรับเนื้อสัตว์ นำร่อง ใช้สำหรับโซนเนื้อสัตว์แช่เย็น ชูจุดเด่นคงรสชาติ ความสด และ ปลอดภัย โดยเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าแรกในไทย ที่ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงผลิตจากเยื่อพืชธรรมชาติ ย่อยสลายไว ทดแทนการใช้พลาสติก ซึ่งนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ตามเจตนารมย์ Green & Sustainable ของเซ็นทรัล รีเทล ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรมค้าปลีกด้านอาหารด้วยวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ที่ดำเนินธุรกิจโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยเชื่อว่าลูกค้าทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนพลังแห่งความยั่งยืนร่วมกัน วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ท็อปส์ และท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ที่เข้าร่วมรายการ
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ท็อปส์ มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน ด้วยการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเราคือการปรับใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก โดยล่าสุดได้เปิดตัวนวัตกรรมโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนสำหรับกลุ่มสินค้าเนื้อหมูและไก่ ผลิตจากเยื่อพืชธรรมชาติ 100% สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ภายใน 45 วัน เพื่อทดแทนการใช้พลาสติก ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมความยั่งยืน เข้ามาปรับใช้ในกระบวนการการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิต พร้อมส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์โลกที่น่าอยู่ ตามเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็นต้นแบบองค์กรค้าปลีกสีเขียวที่ยั่งยืน หรือ Green & Sustainable Retail พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050”
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgdj70n0eEgs34KEPip-fsSG0Lv3HR4xYqTq1SsBOqQ1nT0kPCxXmICdTFVXiCVJ3-OZhXrYU1Gi-iJNxT5Eh73PVdzBdMCbUfpiug3BusEpgn8C62792VIyAVfTrPUMwl04FVjvdcNo2JcmpdfXfJ62JcaC4h9zk0TtqPTI-MjgpjQgeW6CkswPZQIwhAn/w640-h426/4.%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%99%20%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B8%A1%20%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%20%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%9F%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%94%20%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A5%20%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A5_.jpg)
สำหรับการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่นี้ นับเป็นครั้งแรกของซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยที่ได้นำบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมาใช้บรรจุสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ ซึ่งสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อสัตว์ป่าจากขยะพลาสติก โดยบรรจุภัณฑ์ 1 ชิ้น สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 64 กรัม ปัจจุบันท็อปส์ ได้ริเริ่มการเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มสินค้าเนื้อหมูและไก่รวมจำนวน 14 รายการ ที่ท็อปส์ และ
ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ที่เข้าร่วมรายการ ก่อนเตรียมขยายการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ไปยังกลุ่มสินค้าเนื้อวัวและเนื้อแกะ รวมถึงการวางจำหน่ายในท็อปส์ เดลี่ โดยตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 3 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2024
ทั้งนี้ ท็อปส์ ได้ให้ความสำคัญกับแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อมจากต้นทางสู่ปลายทาง โดยได้ริเริ่มการนำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมาใช้บรรจุสินค้าเชอร์รี่สด ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ภายใน 45 วัน ทำจากของเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ชานอ้อย และผักตบชวา เป็นต้น ฝากล่องทำมาจากพลาสติกใส PET รีไซเคิลได้ 100% การันตีความปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปแล้วมากกว่า 11 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นับตั้งแต่การเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
ท็อปส์ จะยังคงเดินหน้าขยายแผนการปรับใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกับผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ อีกในอนาคต โดยในเบื้องต้น ตั้งเป้าช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกสำหรับเชอร์รี่สดรวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อสัตว์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 45 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ตลอดปี 2024 นี้
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand หรือแอปพลิเคชัน @TopsThailand
#Tops #EveryDayDISCOVERY
###
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,809 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์เดลี่ โก โฮลเซลล์ บิ๊กซี / GO! และ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม มินิ โก (go!) เวียดนาม ลานชี มาร์ท เวียดนาม (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ /บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 60 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น