SCGP ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ประเมินสถานการณ์ เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้น IPO ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

SCGP ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ประเมินสถานการณ์ เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้น IPO ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ


บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (“SCGP”) ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ จากสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 โดยคาดว่าภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น หลังสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในบางประเทศและจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หากสถานการณ์โดยรวมมีความชัดเจนและเหมาะสม SCGP ก็พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงในบางประเทศ และเริ่มเห็นการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้อีกครั้ง โดยประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม SCGP ยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิด หลังจากที่ภาคธุรกิจเริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการ
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ของ SCGP รายได้จากการขายยังคงมีอัตราเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าท่ามกลางปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยมีรายได้จากการขาย 24,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการซื้อสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และประเทศอินโดนีเซียที่ขยายตัวได้ดี อีกทั้ง SCGP ยังสามารถขายสินค้าและบริการได้ตอบโจทย์และทันต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจากพฤติกรรมการสั่งอาหารเดลิเวอรี่และการซื้อสินค้าออนไลน์ ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขอนามัยในการผลิตและการขนส่งบรรจุภัณฑ์ ซึ่งลูกค้าให้ความใส่ใจอย่างมากในสถานการณ์นี้ นอกจากนี้ SCGP ได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตของการส่งออกและการควบรวมกิจการของ PT Fajar Surya Wisesa Tbk และบริษัทวีซี่ แพ็คเกจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ด้วย  ทั้งนี้ SCGP ได้วางแผนบริหารจัดการทางธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารซัพพลายเชน จึงสามารถรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี สำหรับการขยายกิจการในปีนี้ SCGP อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าซึ้อหุ้นข้างมากของ  Bien Hoa Packaging Joint Stock Company (หรือ “SOVI”) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในด้านบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำจากเยื่อและกระดาษในประเทศเวียดนาม ธุรกรรมนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ SCGP ให้มากยิ่งขึ้นด้วยการบูรณาการธุรกิจในภูมิภาคและขยายฐานลูกค้าที่เชื่อมโยงถึงผู้บริโภคซึ่งมีการเจริญเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง
SCGP มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง โดยมีฐานลูกค้าจากหลายหลายธุรกิจและอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ อีคอมเมิร์ซ รวมถึงมีฐานการผลิตในหลายประเทศของภูมิภาคอาเซียน จึงสามารถบริหารความเสี่ยงในช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจได้ดี
ส่วนความคืบหน้าการนำหุ้นของ SCGP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ปัจจุบัน SCGP ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ จากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยขณะนี้ SCGP ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้มีการเตรียมความพร้อมและอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจ ภาวะตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หากสถานการณ์โดยรวมมีความชัดเจนและเหมาะสม SCGP ก็พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO และนำหุ้นของ SCGP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (SCGP) ดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เป็นหนึ่งในธุรกิจของเอสซีจีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ที่เติบโตจากความต้องการของผู้บริโภคที่มีเพิ่มขึ้น (Consumer Growth) ทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศมาเลเซีย รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ SCGP ยังมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีวัสดุหลากหลายประเภท (Multi-materials) ทั้งกระดาษและพอลิเมอร์ พร้อมการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (Packaging Solutions Provider) การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ พร้อมการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าชั้นนำระดับสากลได้อย่างครอบคลุมและครบวงจร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad