สนค.ลุยเฟส 2 เดินหน้าเพิ่มสินค้ามาตรฐาน ใช้บล็อกเชนตรวจสอบย้อนกลับ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2564

สนค.ลุยเฟส 2 เดินหน้าเพิ่มสินค้ามาตรฐาน ใช้บล็อกเชนตรวจสอบย้อนกลับ

img

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) จับมือธรรมศาสตร์ ธ.ก.ส. เดินหน้าพัฒนาระบบ TraceThai.com เฟส 2 นำบล็อกเชนมาใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับสินค้า เตรียมขยายการใช้งานกับสินค้าที่ได้มาตรฐานอื่น ทั้ง GAP PGS และ GI หลังนำร่อง “ข้าวอินทรีย์” จนประสบความสำเร็จมาแล้ว  

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดสัมมนาออนไลน์นำเสนอระบบ TraceThai.com และผลการศึกษาออกแบบระบบต้นแบบ ระยะที่ 2 โดยได้ย้ำว่ามีแผนที่จะพัฒนาระบบ TraceThai.com ซึ่งเป็นระบบที่ใช้บล็อกเชนในการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยมีแนวคิดเรื่องการขยายการใช้งานระบบไปยังมาตรฐานสินค้าอื่น เช่น สินค้าที่ผลิตตามหลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ระบบการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) และสินค้าที่ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา และยังมีแผนศึกษาและออกแบบระบบต้นแบบสำหรับเชื่อมโยงกับระบบอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation) ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกลไกในการขับเคลื่อนระบบ TraceThai.com ในระยะถัดไปด้วย

ทั้งนี้ ระบบ TraceThai.com ปัจจุบัน มีกลุ่มนำร่องทั้งสิ้น 34 กลุ่ม ในพื้นที่ 17 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ที่ได้ GI เช่น ข้าวสังข์หยดพัทลุง ข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี ข้าวเจ๊กเชยเสาไห้สระบุรี และยังมีสินค้าอื่น ๆ เช่น ถั่วเหลืองอินทรีย์ ถั่วเขียวอินทรีย์ สินค้ากลุ่มเครื่องสำอางแปรรูปจากสมุนไพรด้วย

“การขับเคลื่อนระบบ TraceThai.com ในระยะต่อไป สนค. จะแสวงหาความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีความเหมาะสม เผยแพร่การใช้งานระบบให้กับกลุ่มเป้าหมายให้แพร่หลายมากขึ้น เพื่อช่วยกันนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรไทย รองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ต่อไป”นายภูสิตกล่าว

ก่อนหน้านี้ สนค. ได้ทำโครงการประยุกต์ใช้บล็อกเชนยกระดับเศรษฐกิจการค้าขึ้นตั้งแต่ปี 2563 โดยพัฒนาระบบ TraceThai.com เพื่อใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าให้เกิดความโปร่งใส และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า เพราะปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหารมากขึ้น และรัฐบาลของหลายประเทศได้เริ่มมีมาตรฐานและกฎระเบียบทางการค้าใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรและอาหารตลอดกระบวนการผลิต และยังได้ผลักดันให้เกษตรกรและผู้ประกอบการของไทย เตรียมความพร้อม และให้ความสำคัญกับเรื่องระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้า เพราะเรื่องนี้ สามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้า สร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ รวมทั้งช่วยลดปัญหาการถูกปลอมปนสินค้าด้วย

โดยในช่วงเริ่มแรก ระบบ TraceThai.com ได้นำร่องกับสินค้าข้าวอินทรีย์ ที่ผ่านการรับรองโดยหน่วยรับรองมาตรฐาน (Certification Body: CB) ทั้งที่เป็นมาตรฐานอินทรีย์ในประเทศ คือ Organic Thailand และมาตรฐานอินทรีย์สากล เช่น EU Organic , USDA , IFOAM เป็นต้น โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากพันธมิตร เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งมี MOU ร่วมกันแล้ว ในการส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์เข้าร่วมโครงการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad