ESCAP ผนึกความร่วมมือ ม.มหิดล พัฒนาศูนย์ปฏิบัติการความยั่งยืน SDG Solutions Lab...ครั้งแรกในไทย - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ESCAP ผนึกความร่วมมือ ม.มหิดล พัฒนาศูนย์ปฏิบัติการความยั่งยืน SDG Solutions Lab...ครั้งแรกในไทย

 

 

นางอาร์มิดา ซัลเซียะฮ์ อาลิสจะฮ์บานา เลขาธิการบริหาร คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) กล่าวว่า เป้าหมายของศูนย์ปฏิบัติการ SDG Solutions Lab จะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มและระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพ ในการร่วมมือกันและพัฒนานวัตกรรมหรือแก้ปัญหาระหว่างเครือข่ายสหประชาชาติ ภาคเอกชน ภาคการศึกษาวิชาการและสังคม ศูนย์ปฏิบัติการจะเชื่อมโยงนวัตกรและเม็นเทอร์ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์และแหล่งความรู้กันได้ทั่วโลก สร้างเสริมพลังความร่วมมือให้แข็งแกร่งขึ้นและเกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้น

 

รศ.ดร. จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในข้อตกลงความร่วมมือนี้ มีระยะเวลา 3 ปี โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะวางแผน จัดเตรียมและจัดทำกิจกรรมและความร่วมมือการมีส่วนร่วมกับคนรุ่นใหม่และนักแก้ปัญหา เพื่อประสิทธิผลของโครงการ ที่เน้นในการพัฒนาที่ยั่งยืน สาระสำคัญของความร่วมมือทั้ง 2ฝ่าย คือ ร่วมกันพัฒนายุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการของ SDG Solutions Lab, สร้างเสริมเครือข่ายผู้มีส่วนร่วม, บริหารจัดการด้านทุนสนับสนุนศูนย์ปฏิบัติการในระยะยาว,บริหารจัดการเครือข่ายในการมีส่วนร่วมกับโครงการทดลองและกิจกรรมของศูนย์ปฏิบัติการ, ร่วมสร้างสรรค์และทดสอบกิจกรรมโครงการของศูนย์ปฏิบัติการ, สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงสถานที่สำหรับใช้ประโยชน์หรือกิจกรรมของศูนย์ปฏิบัติการ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ประกอบการไทยคิดจะสร้างอุปกรณ์เรือเก็บขยะในทะเลไทย เราสามารถเชื่อมโยงความรู้ทางเทคโนโลยีกับสตาร์ทอัพหรือผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จจากประเทศอื่นมาช่วยเหลือแนะนำก็จะทำสำเร็จได้เร็วขึ้น, หรือมีกลุ่มต้องการสร้างนวัตกรรมแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีสาเหตุจากการทำลายป่า การเกษตรและคมนาคมขนส่ง ก็อาจแลกเปลี่ยนความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยี ตลอดจนผนึกความร่วมมือแก้ไขปัญหาร่วมกัน  เป็นต้น

ทั้งนี้ จะเป็นผลดีต่อการพัฒนานวัตกรรมและสตาร์ทอัพ และรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ลดอุปสรรคและขีดจำกัดของทรัพยากร บุคคลากรและเงินทุน ช่วยให้เกิดการประสานร่วมมือของคนในประเทศและระหว่างประเทศในการต่อยอดองค์ความรู้เป็นนวัตกรรมในการรับมือกับวิกฤติใดๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความยั่งยืนและความมั่นคงทางสุขภาพตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก ตลอดจนพัฒนาการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งมีบทบาทสำคัญท่ามกลางการแพร่ระบาดโควิด-19และวิถีโลกที่เปลี่ยนไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad