นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุ
กรภาคใต้ กล่าวถึงสถานการณ์สุกรในขณะนี้
ว่า แม้ราคาแนะนำการขายสุกรมีชีวิ
ตหน้าฟาร์มเกษตรกร ตามประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุ
กรแห่งชาติ ล่าสุดจะอยู่ที่ 82-84 บาทต่อกิโลกรัม ก็ตาม แต่ราคานี้เป็นเพียงการประกาศ เพื่อสะท้อนต้นทุนการเลี้ยงสุ
กรที่แท้จริงของเกษตรกร โดยราคาขายจริงที่เกษตรกรได้รั
บแค่เพียง 75-80 บาท แตกต่างกันไปตามภูมิภาค แปรผันตามสถานการณ์การผลิ
ตและการตลาดในแต่ละพื้นที่ สวนทางกับต้นทุนการเลี้ยงสุกรขุ
นเฉลี่ยไตรมาส 3/2564 ที่สูงถึงกิโลกรัมละ 80.03 บาท ตามการประเมินของสำนั
กงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เท่ากับเกษตรกรยังคงขายสุ
กรขาดทุน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังคงมีปั
ญหาเรื่องโรค PRRS ที่ระบาดในสุกร ทำให้อัตราเสียหายสูง ต้นทุนการเลี้ยงเพิ่ม และส่วนใหญ่เกษตรกรมั
กจะลดความเสี่ยงด้วยการตั
ดใจขายสุกรก่อนกำหนด ส่งผลให้ประสบภาวะขาดทุนมากยิ่
งขึ้น
ที่สำคัญปัจจุบันเกษตรกรมีต้นทุ
นการเลี้ยงเพิ่มขึ้น ทั้งจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่
ราคาสูงขึ้นแทบทุกชนิด การเสริมมาตรการป้องกันโรคที่
เข้มงวด ทำให้มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้มากขึ้
นถึง 300-500 บาทต่อตัว ตอนนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่
อยากเสี่ยงต่อภาวะโรคสุกร ภาวะต้นทุนสูง การขาดทุนสะสมตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และภาวะกำลังซื้อหดตัวจากปั
ญหาโควิด เกษตรกรหลายคนจำต้องเลิกอาชีพ บางคนตัดสินใจเข้าเลี้ยงน้อยลง ปริมาณสุกรในอุตสาหกรรมจึ
งลดลงมากกว่า 30%
“ขณะนี้ความต้องการบริโภคเนื้
อหมูสูงขึ้นจากปัจจัยบวก ทั้งการเปิดประเทศและการเปิ
ดภาคเรียนของสถาบันการศึกษา แต่ผลผลิตหมูกลับเสี
ยหายจากภาวะโรคและการลดปริ
มาณการเลี้ยงหมู เพื่อป้องกันความเสี่
ยงของเกษตรกรทั่วประเทศ ทำให้กลไกตลาดที่แท้จริงเริ่
มทำงาน แต่ราคาหมูตอนนี้ยังไม่คุ้มทุ
นการเลี้ยงด้วยซ้ำ ซึ่งเกษตรกรยังคงประคั
บประคองอาชีพเดียวนี้เอาไว้ เพราะทุกคนไม่อยากให้ผู้บริ
โภคต้องเดือดร้อนเหมือนอย่างที่
หลายประเทศกำลังประสบอยู่ จากปัญหาปริมาณหมูไม่พอกั
บการบริโภคอย่างหนัก เช่น ฟิลิปปินส์ ที่ราคาสูงถึง 130 บาท/กิโลกรัม จีนราคา 94 บาท/กิโลกรัม ส่วนกัมพูชาราคาอยู่ที่ 85 บาท/กิโลกรัม การปล่อยกลไกตลาดได้ทำงานอย่
างเสรี เป็นทางออกให้ราคาหมูกลับสู่
สมดุลได้เอง ที่สำคัญผู้บริโภคมีทางเลื
อกมากมายในการบริโภค แต่คนเลี้ยงหมูไม่ได้มีทางเลื
อกอาชีพมากมายเช่นนั้น” นายปรีชา กล่าว
นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุ
กรภาคใต้ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เลี้
ยงต่างเห็นความสำเร็จของฟาร์
มขนาดใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกั
นโรค ทำให้อัตราเสียหายจากโรคระบาดน้
อย เพราะมีระบบจัดการที่ดี ส่วนเกษตรกรรายย่อยจะต้องปรับตั
วสู่ระบบฟาร์มมาตรฐาน ปรับปรุงระบบการจัดการฟาร์มให้
ดี หากจะลงเลี้ยงแม่พันธุ์หรือลู
กสุกร ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาและต้
องปลอดโรค ซึ่งจะช่วยให้สามารถกลับมาเลี้
ยงสุกรได้มากขึ้น และลดความเสี่ยงจากภาวะโรคได้
อย่างแน่นอน./
สมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เลขที่ 201 ม.4 ต.ปรางหมู่ อ.เมือง จ.พัทลุง 93000
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น