บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เจาะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและกลยุทธ์การลงทุนรับปีมังกรทอง 2567 ชี้ภาพรวมการลงทุนยังคงมีความผันผวนสูง คาด SET Index อยู่ที่ 1,650-1,700 จุด - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2567

บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เจาะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและกลยุทธ์การลงทุนรับปีมังกรทอง 2567 ชี้ภาพรวมการลงทุนยังคงมีความผันผวนสูง คาด SET Index อยู่ที่ 1,650-1,700 จุด

Screenshot_20240116-192635~2

บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เจาะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและกลยุทธ์การลงทุนรับปีมังกรทอง 2567 ชี้ภาพรวมการลงทุนยังคงมีความผันผวนสูง คาด SET Index อยู่ที่ 1,650-1,700 จุด 

บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เรือธงด้านการลงทุนภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) เผยกลยุทธ์ลงทุนรับศักราชใหม่ 2567 คาดเป็นปีแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า “A Year of Value Investing” เนื่องด้วยตลาดหุ้นไทยขณะนี้มีหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าอยู่มากเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว ประเมินภาพรวมการลงทุนไตรมาส 1 ปี 2567 ยังคงมีความผันผวนสูง คาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเกิดภาวะถดถอย ทำให้ตราสารหนี้ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นจะเริ่มน่าลงทุนในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวลดลงแล้ว โดยปี 2567 มองตลาดหุ้นฝั่งเอเชียมีความน่าสนใจมากกว่าตลาดหุ้นชั้นนำอย่างสหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากมาตรการการเงินและการคลังที่อุดหนุนอย่างต่อเนื่อง ด้านการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2567 ขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง Digital Wallet และนโยบายสนับสนุน Soft Power ประเมินเป้าหมาย SET Index อยู่ที่ 1,650-1,700 จุด โดยจุดเข้าซื้อที่สำคัญอยู่ที่ 1,400-1,450 จุด ชี้เป้าหุ้นเด่นปี 2567 เน้นโฟกัสที่คุณภาพและการฟื้นตัวของผลประกอบการ ได้แก่ AMATA BBL BEM BDMS CPALL CRC GULF OR SCC และ SCGP

Screenshot_20240116-192711~2

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปีมังกรทอง 2567 คาดว่าเป็นปีแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า “A Year of Value Investing” ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว ตลาดหุ้นในฝั่งเอเชียมีความน่าสนใจมากกว่าตลาดหุ้นชั้นนำอย่าง สหรัฐฯ และ ยุโรป เนื่องจากเศรษฐกิจยังมีอัตราการเติบโตในระดับสูง อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลง โดยมีโอกาสที่จะเห็น เงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้นอีกด้วย หากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง”

ด้าน นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย นักวิจัยการลงทุนอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เปิดเผยว่า “ในปี 2567 เรากำลังเข้าสู่วงจรเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าศักยภาพจนทำให้ธนาคารกลางทั่วโลก ยกเว้นญี่ปุ่น จะเริ่มเห็นการลดดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้น ดังนั้นคำแนะนำในการจัดสรรสินทรัพย์ สำหรับปีนี้สรุปได้ดังนี้ 1) เน้นการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูง ทั้งพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนที่มีอันดับ Investment Grade ขึ้นไป ซึ่งได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลงในอนาคต 2) การลงทุนในหุ้นเอเชียรวมถึงไทยน่าสนใจกว่าตลาดพัฒนาแล้ว จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ขณะที่การลงทุนในหุ้นโลกช่วง 2H24 เริ่มกลับมาดีขึ้นตามเศษฐกิจที่เริ่มฟื้น โดยจะเน้นไปในหุ้น Value และ Cyclical 3) กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ และ REITs”

Screenshot_20240116-192700~2

ดร. ปิยศักดิ์ มานะสันต์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “เศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้ว สหรัฐฯ ยุโรป กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 และจะทำให้ Fed ลดดอกเบี้ย 1% ในครึ่งปีแรก ในขณะที่เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยแรงหนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่ยังเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างโดยเฉพาะเงินฝืด ด้านเศรษฐกิจไทยในปี 2567 เรามองว่ามาตรการ digital wallet เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2567 หากมาตรการ Digital Wallet ผ่านตามที่นายกฯ ประกาศจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 4.1% แต่หากมาตรการไม่ผ่าน เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เพียง 3.2% โดยคาดว่า ธปท. จะไม่ลดดอกเบี้ยในปี 2567 โดยมี 2 ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ 1) เงินเฟ้อที่หดตัวต่อเนื่อง และ 2) การทำโครงการ Digital Wallet ของรัฐบาล”

ประเมินเป้าหมาย SET Index อยู่ที่ 1,650-1,700 จุด โดยจุดเข้าซื้อที่สำคัญอยู่ที่ 1,400-1,450 จุด ชี้เป้าหุ้นเด่นปี 2567 เน้นโฟกัสที่คุณภาพและการฟื้นตัวของผลประกอบการ ได้แก่ AMATA BBL BEM BDMS CPALL CRC GULF OR SCC และ SCGP



Screenshot_20240116-192646~2


ขณะที่ นายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เผยถึงกลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 1 ปี 2567 ว่า “ภาพรวมการลงทุนในไตรมาสแรกของปี 2567 ยังคงมีความผันผวนสูง คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเกิดภาวะถดถอย แต่หุ้นไทยและเอเชียที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจะมีความน่าสนใจลงทุนมากกว่าหุ้นในตลาดพัฒนาแล้ว ในส่วนของประเทศไทยมองตลาดหุ้นไทยจะปรับเพิ่มขึ้น แต่ความผันผวนจะมีตลอดทั้งปี ปัจจัยหนุนมาจากงบประมาณที่กำลังทยอยเบิกจ่าย และมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ กลุ่มหุ้นยั่งยืน (ESG) จะมีความสำคัญ และได้รับความสนใจเข้าลงทุนเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของหุ้นต่างประเทศแนะนำลงทุนหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธีมเทคโนโลยีที่ได้ประโยชน์จากการใช้งาน AI ซึ่งเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์อยู่ในช่วงวัฏจักรขาขึ้น การฟื้นตัวยังน่าสนใจในช่วงครึ่งแรกปี 2567 นอกจากนั้นยังเน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่ราคาลดลงแรง”

“โดยสรุปแล้ว ปี 2567 ยังเป็นปีที่ตลาดหุ้นโลกและไทยยังคงมีความผันผวน ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นจาก 3 ปัจจัย 1) ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจเกิดภาวะถดถอยในช่วง 1H24 และ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่จะลดลงเร็วตามที่ตลาดการเงินกำลังคาดหรือไม่ โดยหากเป็นไปตามคาดจะส่งผลต่อดีต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่และตลาดหุ้นไทย (การลดลงช้ากว่าคาดอาจทำให้ตลาดหุ้นผิดหวัง) ด้านเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างที่เป็นอุปสรรคสำคัญทำให้การเติบโตชะลอตัวลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมา และกำลังสูญเสียความเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจให้กับอินเดีย นอกจากนี้ยังต้องติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นว่าจะเริ่มหยุดผ่อนคลายเมื่อไร ซึ่งจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงความคืบหน้าของโครงการ Digital wallet ว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลหรือไม่ ส่วนปัจจัยที่ 2) เรื่อง Geopolitics นั้นถือว่าเป็นปัจจัยที่จะสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินเพิ่มขึ้นบางช่วงเวลา เนื่องจากมีโอกาสกระทบต่อเศรษฐกิจโดยผ่านทั้งทางเงินเฟ้อ หากความขัดแย้งกระทบต่อราคาพลังงานและอาหาร รวมถึงการขนส่งสินค้า หรือก่อให้เกิดสงครามด้านเศรษฐกิจที่ขยายวงกว้างขึ้น เช่น กรณี สหรัฐฯ-จีน โดยในปี 2567 ต้องติดตามท่าทีของจีนกับไต้หวันหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีเสร็จสมบูรณ์ (ผลกระทบต่อธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์) และ การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครนอีกด้วย 3) ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและภัยธรรมชาติ ซึ่งคาดการณ์ยากแต่ไม่ควรมองข้าม” นายสุกิจ กล่าวเสริม

Screenshot_20240116-193147~2

ด้าน นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ Chief Commercial Officer บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า “เมื่ออัตราดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ตราสารหนี้และทองคำให้ผลตอบแทนที่ดี ในขณะที่หุ้นยังมีความผันผวน ด้านการลงทุนในตลาดต่างประเทศที่นโยบายการเก็บภาษีสร้างความกังวลให้กับตลาด เรามองว่าการลงทุนในตลาดต่างประเทศยังมีความสำคัญ และเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีสินทรัพย์ทางเลือกที่หลากหลายกว่า และโอกาสการลงทุนที่มากกว่า ในขณะที่ InnovestX เรามีแพลตฟอร์มรองรับให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ครบทุกสินทรัพย์ พร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ความร่วมมือกับ TradingView ที่ปัจจุบันนักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นไทยผ่านบัญชี InnovestX บนแพลตฟอร์ม TradingView ได้โดยตรง และจะสามารถซื้อขายสินทรัพย์อื่นๆ ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ โดย InnovestX ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมการเงินการลงทุนแห่งอนาคตอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถตอบโจทย์การลงทุนได้ในทุกสภาวะตลาด ขอให้นักลงทุนรอติดตาม”

สำหรับนักลงทุนที่สนใจติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์การลงทุนของ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.innovestx.co.th

#InnovestX #InnovestXResearch #จักรวาลการลงทุนในมือคุณ

Screenshot_20240116-192650~2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad