MQDC เชื่อมั่น ศก.ไทย เดินหน้าเปิด "เดอะ ฟอเรสเทียร์" เมกะโปรเจกต์ 125,000 ลบ.ต้นปี 2564 - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

MQDC เชื่อมั่น ศก.ไทย เดินหน้าเปิด "เดอะ ฟอเรสเทียร์" เมกะโปรเจกต์ 125,000 ลบ.ต้นปี 2564


“THE FORESTIAS”
“THE FORESTIAS”

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เปิดเผยว่า บริษัท MQDC มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการที่ชัดเจน โดยเฉพาะการเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาโครงการประเภท Mixed-Use ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีมูลค่าโครงการสูง ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ตรงความต้องการของลูกค้า ทำให้เกิดการตอบรับเป็นอย่างดี

ด้วยกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการร่วมกับ Global Partner ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในระดับโลก ทำให้โครงการที่เราพัฒนามีความโดดเด่น สามารถพัฒนาโครงการให้มีมาตรฐานในระดับโลก เป็นที่สนใจจากลูกค้าจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ โครงการทั้งหมดจึงได้รับผลตอบรับจากตลาดได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ โครงการ ICONSIAM ซึ่ง MQDC เป็นหุ้นส่วนในโครงการ ICONSIAM และเป็นเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมระดับ High-end คือ Magnolias Waterfront Residences ICONSIAM และ The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok ที่บริหารโดยเครือ Mandarin Oriental ซึ่งได้กลายเป็น Iconic ของประเทศไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนั้น ยังมีโครงการ Magnolias Ratchadamri Boulevard ซึ่งก็มีโรงแรม Waldorf Astoria ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือระดับ Top สุดในเครือ Hilton ถือว่า exclusive มาก เพราะเป็น Waldorf Astoria Bangkok ที่แรกของ South East Asia.
 
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์

อีกก้าวสำคัญของ MQDC คือการเปิดตัวโครงการเดอะ ฟอเรสเทียร์ (THEFORESTIAS) ที่มีมูลค่าโครงการถึง 125,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะขายเพียงความคุ้มค่า ทำเล ความสะดวกสบาย คงจะไม่เพียงพอ โดยเฉพาะหลังจากวิกฤตโควิด-19 ต้องคิดไปถึงคุณภาพชีวิตจนถึงสุขภาพ และความสุขของผู้อยู่อาศัย เพราะผู้คนจะพิถีพิถันในการดำเนินชีวิตมากขึ้น แนวคิดของ THE FORESTIAS คือ “เมืองคู่ป่า” ที่แรกในโลก สิ่งนี้เป็นครั้งแรกในโลกที่ผืนป่าขนาดใหญ่ถูกนำมาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมือง เพื่อนำธรรมชาติกลับเข้าสู่ชุมชนและพื้นที่ที่เป็นเมือง อีกทั้งโครงการ THEFORESTIAS เป็นการดำเนินโครงการตามปรัชญาของ MQDC ที่มุ่งเน้นเรื่องสร้างสรรค์โครงการที่ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นตามแนวคิด ‘For All Well - Being’

ในโครงการ THEFORESTIAS จึงถูกพัฒนา แบบ Mixed-Use Lifestyle ทั้งที่อยู่อาศัย พื้นที่ค้าปลีก อาคารสำนักงาน ศูนย์สุขภาพ สถานศึกษา อาคารนวัตกรรม พื้นที่สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้และสร้างสรรค์ของครอบครัว ที่สามารถครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่ม ได้แก่ คอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘Whizdom’ กลุ่มคอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘Mulberry Grove’ ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘Mulberry Grove Villas’ กลุ่มที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘The Aspen Tree’ และยังมีที่อยู่อาศัยและโรงแรมจากแบรนด์ระดับโลก คือ กลุ่มที่อยู่อาศัยแบรนด์ ‘Six Senses’ โรงแรมแบรนด์ ‘Six Senses’ และอื่นๆ
“เราตั้งใจที่จะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่ให้ความสำคัญต่อการยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมนี้ให้ไปสู่คุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีขึ้น ‘For All Well-Being’ โดยเราให้ความสำคัญต่อการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยร่วมกับพาร์ตเนอร์ระดับโลก เพื่อหาปัจจัยที่จะสร้างที่อยู่อาศัยให้ผู้คนมีความสุข ซึ่งกลายเป็นว่าสิ่งที่ MQDC ทำอยู่จากผลงานวิจัยและศึกษา สอดคล้องต่อวิถีชีวิตแบบ New Normal หลังโควิด-19 ที่คนหันมาใส่ใจในรายละเอียดกับการใช้ชีวิตมากขึ้น” นายวิสิษฐ์ กล่าว

เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 สิ่งแรกที่ MQDC คำนึงถึงคือ ความปลอดภัยของลูกบ้านในทุกโครงการและสมาชิกองค์กรของเราทุกคน MQDC ได้ดำเนินการจัดตั้งมาตรการเพื่อสร้างความปลอดภัยและอุ่นใจให้แก่ทุกคน มีทั้งมาตรการดูแลลูกบ้าน มาตรการดูแลสมาชิกองค์กร รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานที่โครงการ และในส่วนของสำนักงานและสำนักงานขายโครงการของ MQDC มีมาตรการในการทำความสะอาดตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และยังมีมาตรการในการดูแลพันธมิตรคู่ค้าของเราด้วย เช่น เจ้าหน้าที่งานก่อสร้าง เราได้ออกกฎเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงอย่างเข้มงวด
 
นางสาวทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์
ดร.การดี เลียวไพโรจน์

ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ต้องทำงานแบบ Work From Home ทางผู้บริหารสูงสุดของ MQDC อย่าง น.ส.ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิคี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ก็มีวิสัยทัศน์ในเรื่องการ Work Anywhere มานานแล้ว คือ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนพนักงานก็สามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ ทำให้การทำงานของ MQDC มีระบบและกระบวนการทำงานรองรับการทำงานแบบ Work From Home เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ต้องมีการ Lockdown บริษัทจึงไม่ต้องปรับตัวและไม่ได้รับผลกระทบมากนักในเรื่องนี้

อีกเรื่องที่มุ่งแน้น คือ การบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และ MQDC ยังคงมุ่งมั่นเน้นการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และโครงการอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องคุณภาพและการสร้างมูลค่า ถือเป็น DNA ที่อยู่ในทุกโครงการของ MQDC อยู่แล้ว

นอกจาก MQDC ได้มีพาร์ตเนอร์ระดับโลกที่ศึกษาและวิจัยด้านการอยู่อาศัยที่มีความสุขแล้ว ทางเรายังได้จัดตั้งศูนย์วิจัย 2 ศูนย์ คือ ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา FutureTales Lab โดยมี ดร.การดี เลียวไพโรจน์ มาเป็นที่ปรึกษาที่ดูแลโครงการนี้ โดยการหาข้อมูลจากทั่วโลกเพื่อมาประมวลแนวโน้มการอยู่อาศัยในอนาคต โดยมองไปถึงอีก 40 ปีข้างหน้า และแม้แต่จากวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ ทาง FutureTales Lab ก็ได้มีการออกงานวิเคราะห์ออกมาในเรื่อง ชีวิตหลังโควิด-19 ที่จะมีการเปลี่ยนไปจากเดิม โดยประเด็นหนึ่งคือความคิดด้านการซื้อที่อยู่อาศัยจะเปลี่ยนไป จากเดิมที่อยู่แต่ในเมือง โดยยึดการเดินทางแนวทางใกล้รถไฟฟ้าเป็นปัจจัย แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการทำงานในอนาคต สามารถทำงานที่บ้านได้ จึงจะปรับแนวคิดเป็นบ้านนอกเมือง แต่มีพื้นที่มากขึ้น มีสวน มีธรรมชาติ มีการปรับเปลี่ยนบ้านพักตากอากาศมาใช้อาศัยประจำแทน THE FORESTIAS ได้มีการวางแนวทางไว้ตามนี้มาแต่ต้น
 
รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต
รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต

อีกศูนย์วิจัยในกลุ่มของ MQDC คือศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) นำโดย รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของ MQDC ที่ต้องการเป็นผู้นำทางด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน โดยมีการวิจัยและพัฒนาเป็นพื้นฐานของแนวคิดในมิติต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยของ MQDC ผลงานวิจัยที่เราศึกษาและค้นคว้าขึ้น ไม่เพียงเพื่อนำมาใช้เฉพาะกับโครงการต่างๆขององค์กรเท่านั้น แต่ยังพร้อมเปิดพื้นที่วิจัยนี้ให้แก่ทุกคน ทุกองค์กรที่สนใจด้านการพัฒนาและก่อสร้างอย่างยั่งยืน เสมือนห้องค้นคว้าของประชาชน บุคคลภายนอกได้เข้ามาเรียนรู้ นำไปประยุกต์ใช้จริง เพื่อยกมาตรฐานความเป็นอยู่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนสร้างนวัตกรรมต่างๆ

เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ให้แก่เมืองสาธารณชนด้วย เพื่อตอกย้ำการคิด ‘For All Well-Being’ เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
 
โครงการ ICONSIAM
โครงการ ICONSIAM

แม้เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 MQDC ยังมุ่งเดินหน้าต่อด้วยความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว และเชื่อว่า รัฐบาลยังคงผลักดันในเกิดเมกะโปรเจกต์ เช่น โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) การปรับแผนงานโดยส่วนใหญ่จะเป็นการปรับแผนระยะสั้นมากกว่าแผนระยะยาว เช่น การเปิดตัวโครงการใหญ่ก็จะชะลอไปเปิดต้นปีหน้า แต่การเปิดขายโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันคงดำเนินต่อไปจากผลงานของรัฐบาลและสาธารณสุขไทยที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก และความร่วมมือร่วมใจ ความมีวินัยของคนไทย ที่ได้แสดงให้ชาวโลกประจักษ์ รวมถึงความมีน้ำใจ ความแบ่งปันของคนไทย เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยให้ประเทศไทยจะเป็นที่น่าที่ลงทุนที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะปัจจัยสำคัญตัวหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์โควิด-19 สำหรับในการเลือกลงทุนในประเทศใดของนักลงทุนต่างชาติ คือความปลอดภัย และระบบสาธารณสุข

"MQDC ของเราก็เคยผ่านปัญหาในสมัยวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งมาแล้ว ทำให้เราบริหารงานด้วยความระมัดระวังมาตลอดเวลา ดังนั้น ปัญหาจากวิกฤตในโควิด-19 ในครั้งนี้จึงไม่ได้ทำให้เราหยุดที่จะเดินหน้าต่อ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นมุมมองของ MQDC ต่อการทำธุรกิจ โดยมีการคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของการดำเนินชีวิต ซึ่งก็สอดคล้องกับชีวิตแบบ New Normal จากนี้ไป" นายวิสิษฐ์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad