Xinhua Silk Road: เอสอีจี โซลาร์ และเคไอทีบี ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว เพื่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์และโมดูลแสงอาทิตย์ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2566

Xinhua Silk Road: เอสอีจี โซลาร์ และเคไอทีบี ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว เพื่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์และโมดูลแสงอาทิตย์

Xinhua Silk Road: เอสอีจี โซลาร์ และเคไอทีบี

ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว

เพื่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์และโมดูลแสงอาทิตย์

 

วอชิงตัน/พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต


เอสอีจี โซลาร์ (SEG Solar) หรือเอสอีจี (SEG) และพีที คาวาซัน อินดัสตรี เตอร์ปาดู บาตัง (PT Kawasan Industri Terpadu Batang) หรือเคไอทีบี (KITB) ประกาศทำข้อตกลงที่มีผลผูกพัน ในการเช่าที่ดินขนาดราว 41 เฮกตาร์ในอำเภอบาตัง จังหวัดชวากลาง ประเทศอินโดนีเซีย เป็นระยะเวลา 80 ปี


เอสอีจีตั้งใจที่จะลงทุนรวม 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาที่ดินไว้สร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 5 กิกะวัตต์ และโรงงานผลิตโมดูลแสงอาทิตย์ขนาด 3 กิกะวัตต์ โดยดำเนินงานผ่านบริษัทดำเนินโครงการซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าอย่างพีที เอสอีจี เอทีดับเบิลยู โซลาร์ แมนูแฟคเตอร์ อินโดนีเซีย (PT SEG ATW Solar Manufaktur Indonesia) ทั้งนี้ เอสอีจีได้ร่วมมือกับพีที เอทีดับเบิลยู อินเวสตาซี เซลาราส (PT ATW Investasi Selaras) หรือเอทีดับเบิลยู กรุ๊ป (ATW Group) เพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านการพัฒนาโรงงานผลิตในระดับท้องถิ่นที่อินโดนีเซีย


ไลน์การผลิตเซลล์แสงอาทิตย์นี้จะผลิตเซลล์ให้โรงงานโมดูลของเอสอีจีในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และรับประกันการดำเนินงานเต็มกำลังในการหาส่วนประกอบภายในซัพพลายเชนโมดูล เอสอีจีมุ่งที่จะร่วมมือกับซัพพลายเออร์ส่วนประกอบอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์รายอื่น ๆ รวมถึงสำหรับเวเฟอร์ แท่งซิลิคอน (ingot) กล่องพักสายไฟ กรอบ และฟิล์มอีวีเอ (EVA) เพื่อตั้งโรงงานผลิตในอินโดนีเซีย


คุณจิม วู้ด (Jim Wood) ซีอีโอของเอสอีจี เน้นย้ำว่า ประเทศอินโดนีเซียมอบสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนด้วยนโยบายที่ส่งเสริม ประโยชน์ทางภาษี และทรัพยากรซิลิคอนที่มีอยู่ล้นเหลือ


คุณบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย (Bahlil Lahadalia) รัฐมนตรีการลงทุนของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้จะสร้างงานกว่า 2,000 ตำแหน่งสำหรับประชาชนอินโดนีเซีย และจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคบาตังได้อย่างมาก โดยรัฐบาลอินโดนีเซียมุ่งที่จะมอบการสนับสนุนทางภาษี เพื่อส่งเสริมให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย” ในการนี้ โรงงานมีกำหนดที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่สองของปี 2567 และจะเป็นโรงงานเซลล์และโรงงานโมดูลแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย


เอสอีจีก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำที่มีการรวมกิจการในแนวดิ่ง โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ในปี 2567 เอสอีจีจะมีกำลังผลิตโมดูลกว่า 5.5 กิกะวัตต์ทั่วโลก


ด้านเอทีดับเบิลยู กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2560 เป็นบริษัทการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนสัญชาติอินโดนีเซีย เอทีดับเบิลยู กรุ๊ป มีพอร์ตฟอลิโอรวมกว่า 80 เมกะวัตต์พีคในทั่วทั้งหมู่เกาะอินโดนีเซีย ขณะที่เคไอทีบีเป็นนิคมอุตสาหกรรมของรัฐแห่งใหม่ล่าสุดในอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นหนึ่งในโครงการเชิงยุทธศาสตร์แห่งชาติ (National Strategic Project) ตั้งแต่ที่เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2563 เคไอทีบีมีที่ดิน 4,300 เฮกตาร์ ซึ่งมีการก่อสร้างกำลังดำเนินการอยู่ในสามกลุ่มคลัสเตอร์


รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2140385/SEG_KITB_signing_ceremony.jpg


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad