ไทยเบฟได้รับการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเป็นครั้งแรก - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567

ไทยเบฟได้รับการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเป็นครั้งแรก


 ไทยเบฟได้รับการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับ

การดำเนินงานด้านความยั่งยืนเป็นครั้งแรก

ตอกย้ำความมุ่งมั่นของไทยเบฟในการดำเนินกลยุทธ์ “สรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน” (Enabling Sustainable Growth)


ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPTs) สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปี 2573 ของไทยเบฟ

ไทยเบฟแต่งตั้งกรุงศรี และ MUFG เป็นที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน (Joint Sustainability Structuring Advisor) เพื่อกำหนดกรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อโครงการส่งเสริมความยั่งยืนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

กรุงเทพฯ 27 มีนาคม 2567 – บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) (“ไทยเบฟ”), บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประสบความสำเร็จ ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan, SLL) จำนวน 10,000 ล้านบาท จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (“กรุงศรี”) ซึ่งเป็น SLL แรกสำหรับบริษัทเครื่องดื่มในประเทศไทย ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของไทยเบฟต่อการเติบโตที่ยั่งยืน โดยมีกรุงศรี และ MUFG เป็นที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน (Joint Sustainability Structuring Advisor)

ธุรกรรมดังกล่าวแสดงถึงความทุ่มเทของไทยเบฟในการบูรณาการความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงานและกลยุทธ์ทางการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ "สรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน" ของไทยเบฟ โดย SLL เชื่อมโยงกับ 2 ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPTs) โดยมุ่งเน้นไปที่ความมุ่งมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อมของไทยเบฟ ในการ 1) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ลงร้อยละ 50 ภายในปี 2573 (เทียบกับปี 2562) และ 2) ใช้พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 50 ภายในปี 2573 (เทียบกับปี 2565) โดยการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPTs) จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อของไทยเบฟลดลง

ไทยเบฟแต่งตั้ง Morningstar Sustainalytics เป็นผู้จัดทำรายงานความเห็นโดยผู้สอบทานภายนอกที่เป็นอิสระ (Second-Party Opinion Report) เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (SPTs) รวมถึงกรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อโครงการส่งเสริมความยั่งยืนของไทยเบฟสอดคล้องกับ Sustainability-Linked Loan Principles และมาตรฐานสากล

คุณต้องใจ ธนะชานันท์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มงานความยั่งยืนและกลยุทธ์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไทยเบฟในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหารของภูมิภาคอาเซียนตระหนักดีว่านอกจากการสร้างธุรกิจอันแข็งแกร่งและการดำเนินงานที่เป็นเลิศแล้วยังต้องมุ่งมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อม สนับสนุนชุมชน และเสริมสร้างธรรมาภิบาลอีกด้วย ด้านสิ่งแวดล้อม ไทยเบฟได้ให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจากการดำเนินงานของกลุ่ม (Scope 1) และจากพลังงานที่ซื้อมา (Scope 2) ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2583 ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) ของสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสอดคล้องเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปี 2573 ของไทยเบฟ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของไทยเบฟต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ไทยเบฟรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากกรุงศรีในก้าวที่สำคัญนี้” 

คุณประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนไทยเบฟผ่านสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยเบฟในการขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ผ่านตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน และ เป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของกรุงศรีที่พร้อมที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ภาคการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) โดยกรุงศรี และ MUFG พร้อมประสานความร่วมมือกันเพื่อช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าสร้าง ESG Pathways เพื่อใช้ประกอบกับแผนธุรกิจ ซึ่งนับเป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับตัว และเติบโตในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว”

มร. คอลิน เฉิน กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่าย ESG Finance APAC ธนาคารเอ็มยูเอฟจี กล่าวว่า “MUFG รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกรุงศรีในการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนครั้งแรกของไทยเบฟ เราติดตามกลยุทธ์ของไทยเบฟในการมุ่งสู่ Net Zero และการบูรณาการการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเข้ากับกิจกรรมการจัดหาเงินของไทยเบฟ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า MUFG จะได้เป็นพันธมิตรกับกรุงศรีและไทยเบฟต่อไป”

มร. เกร็ก ธง ผู้อำนวยการ Sustainalytics Corporate Solutions, Morningstar Sustainalytics กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนไทยเบฟ ผ่านการออก Second Party Opinion ให้กับกรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อโครงการส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Finance Framework) โดย Morningstar Sustainalytics ได้ข้อสรุปว่ากรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อโครงการส่งเสริมความยั่งยืนของไทยเบฟสอดคล้องกับองค์ประกอบหลัก 5 ประการ ของ Sustainability-Linked Loan Principles รวมถึง KPIs ที่มีความหมายและเกี่ยวข้องกับบริบทของความยั่งยืนและกลยุทธ์ทางธุรกิจของไทยเบฟ และ SPTs ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ Morningstar Sustainalytics ยังพิจารณาหน้าที่การรายงานและการตรวจสอบการบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล”

เกี่ยวกับไทยเบฟ

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (“ไทยเบฟ” หรือ “กลุ่มบริษัทไทยเบฟ” ) เป็นบริษัทเครื่องดื่มชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทไทยเบฟ คือ การเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารที่มั่นคงและยั่งยืนของอาเซียน 

ไทยเบฟเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในปี 2549 และในปี 2555 ได้ขยายธุรกิจผ่านการเข้าซื้อ บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ, ลิมิเต็ด (“F&N”) ซึ่งเป็นที่รู้จักในประเทศสิงคโปร์ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มี ชื่อเสียง ในปี 2560 ไทยเบฟได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคด้วยการเข้าซื้อหุ้นในแกรนด์ รอยัล กรุ๊ป (“GRG”) ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในตลาดวิสกี้ของประเทศเมียนมา และหุ้นในบริษัทไซ่ง่อน เบียร์-แอลกอฮอล์-เบฟเวอเรจ คอร์เปอเรชัน (“ซาเบโก้”) ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม  ส่งผลให้ไทยเบฟก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดในด้านปริมาณของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ไทยเบฟมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ธุรกิจของไทยเบฟประกอบด้วย 4 สาย ธุรกิจ ได้แก่ สุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร โดยกลุ่มบริษัทไทยเบฟมีโรงงานผลิตสุรา 19 แห่ง โรงงานผลิตเบียร์ 3 แห่ง และโรงงานผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อีก 20 แห่งในประเทศไทย และมีเครือข่ายการกระจายสินค้าที่ครอบคลุมจุดขายมากกว่า 500,000 จุดทั่วประเทศ กลุ่มบริษัทไทยเบฟ จำหน่ายสินค้าครอบคลุมมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก รวมถึงมีเครือข่ายโรงงานผลิตเบียร์ 26 แห่งในเวียดนามที่ผลิต Bia Saigon และ 333 ของซาเบโก้ โรงงานผลิตสุรา 1 แห่งและโรงงานผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 1 แห่งในเวียดนาม โรงงานผลิตสุรา 5 แห่งในสกอตแลนด์ ซึ่งใช้ผลิตสุราซิงเกิลมอลต์ เช่น บัลแบลร์ (Balblair) โอลด์ พุลท์นีย์ (Old Pulteney) และสเปย์เบิร์น (Speyburn) โรงงาน  1 แห่งในฝรั่งเศส สำหรับผลิตสุราลาร์เซน คอนญัก โรงงาน 1 แห่งในนิวซีแลนด์ ซึ่งใช้ผลิตสุรา ซิงเกิลมอลต์โลกใหม่ (New World Spirits) ของคาร์โดรนา โรงงาน 2 แห่งในเมียนมาของ GRG และโรงงานผลิตสุรา 1 แห่งในจีนสำหรับผลิตสุราอวี้หลินฉวน (Yulinquan) 

กลุ่มผลิตภัณฑ์สุราที่มีชื่อเสียงของไทยเบฟประกอบด้วย รวงข้าว หงส์ทอง เบลนด์ 285 แสงโสม แม่โขง และแกรนด์ รอยัล วิสกี้ นอกจากนี้ เบียร์ช้างซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์หลัก ยังเป็นหนึ่งในเบียร์ของไทย ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในขณะที่ซาเบโก้มีผลิตภัณฑ์ Bia Saigon และ 333 ซึ่งเป็นเบียร์ที่มียอดขายอันดับต้น ๆ ในประเทศเวียดนาม สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ไทยเบฟมีตราสินค้าชั้นนำ ได้แก่ ชาเขียวโออิชิ เครื่องดื่มอัดลมเอสโคล่า น้ำดื่มคริสตัล  เครื่องดื่มอัดลม F&N และเครื่องดื่มเกลือแร่ 100PLUS นอกจากนี้ ไทยเบฟยังดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ญี่ปุ่น รวมทั้งอาหารพร้อมปรุงและพร้อมทาน ผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  และได้ขยายธุรกิจอาหารผ่านบริษัทย่อย คือ ฟู้ด ออฟ เอเชีย และธุรกิจแฟรนไชส์เคเอฟซี ซึ่งเป็นร้านอาหารบริการด่วนที่ได้รับความนิยมที่สุดในประเทศไทย

ไทยเบฟน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะทรง “สืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน”  และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาผสานเข้ากับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ทั้ง 17 ประการ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาด้านความยั่งยืนของกลุ่ม

 

เกี่ยวกับกรุงศรี

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในหกสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 78 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อรายย่อย การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 590 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 550 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 32,379 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 10.2 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)) อีกด้วย 

กรุงศรีมีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

เกี่ยวกับ MUFG

มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 360 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานราว 2,000 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานกว่า 160,000 คน MUFG นำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ 

MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก” ด้วยการผสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าโดยคำนึงถึงสังคมและการแบ่งปันสู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก 

MUFG Bank เป็นธนาคารชั้นนําในประเทศญี่ปุ่น และมีเครือข่ายครอบคลุมในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยในต่างประเทศ MUFG Bank นําเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ครอบคลุมทั้งในด้านธุรกิจและการลงทุนให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ภาครัฐ และลูกค้ารายย่อยทั่วโลก

สําหรับในภูมิภาคเอเชีย MUFG ให้บริการครอบคลุมทั้งในออสเตรเลีย บังกลาเทศ กัมพูชา จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ สปป. ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เมียนมา นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับหลายธนาคารที่สําคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีเครือข่ายแข็งแกร่งและครอบคลุม ซึ่งประกอบไปด้วย VietinBank ในเวียดนาม กรุงศรี ในไทย Security Bank ในฟิลิปปินส์  และ Bank Danamon ในอินโดนีเซีย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยว กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.bk.mufg.jp/global/globalnetwork/asiapacific/index.html

เกี่ยวกับ MORNINGSTAR SUSTAINALYTICS

Morningstar Sustainalytics บริษัทในเครือ Morningstar คือบริษัทวิจัย จัดอันดับและข้อมูล ESG ชั้นนำ ที่สนับสนุนนักลงทุนทั่วโลกในการพัฒนาและปฏิบัติตามกลยุทธ์การลงทุนอย่างที่มีความรับผิดชอบ เป็นเวลากว่า 30 ปีที่ Morningstar Sustainalytics เป็นผู้นำในการให้บริการที่มีคุณภาพ รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักลงทุนทั่วโลก ปัจจุบัน Morningstar Sustainalytics ทำงานร่วมกับผู้จัดการสินทรัพย์และกองทุนบำเหน็จบำนาญชั้นนำของโลกหลายร้อยราย ซึ่งคำนึงถึง ESG เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุน นอกจากนี้ Morningstar Sustainalytics ยังทำงานร่วมกับบริษัทและที่ปรึกษาทางการเงินทั่วโลก เพื่อนะเสนอแนวทางการดำเนินงานอย่างยั่งยืนให้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย แนวปฏิบัติ และการลงทุนโครงการต่างๆ Morningstar Sustainalytics มีสำนักงาน 17 แห่งทั่วโลก และมีนักวิเคราะห์มากกว่า 500 คนที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 40 กลุ่มอุตสาหกรรม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม www.sustainalytics.com

คำชี้แจงที่สำคัญ (Disclaimer) สำหรับข่าวประชาสัมพันธ์

ข้อมูล วิธีการ ข้อมูล และความคิดเห็นที่มีอยู่หรือสะท้อนให้เห็นในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของ Morningstar Sustainalytics และ/หรือผู้ให้บริการเนื้อหา ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อใช้ภายใน ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ และไม่สามารถคัดลอก แจกจ่าย หรือใช้ในลักษณะอื่นใด รวมถึงผ่านทางการอ้างอิง เว้นแต่ ตกลงเป็นอย่างอื่นโดยชัดแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มุ่งหมายหรือเจตนาสำหรับการแจกจ่ายให้กับหรือใช้โดยลูกค้าหรือผู้ใช้ในอินเดีย และไม่อนุญาตให้แจกจ่ายให้กับบุคคลหรือนิติบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ในอินเดีย

Morningstar Sustainalytics จัดทำคะแนน การประเมิน และตัวชี้วัดต่างๆ ซึ่งรวมถึงสมมติฐานสำหรับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งอาจเกิดขึ้นหรืออาจแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากสิ่งที่สันนิษฐานไว้ การให้คะแนน การประเมิน และตัวชี้วัดเหล่านี้เป็นความคิดเห็นซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ถือเป็นหลักประกัน และไม่ควรใช้เป็นพื้นฐานเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจลงทุน Morningstar Sustainalytics ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการลงทุนหรือคำแนะนำ (ทางการเงิน) รูปแบบอื่นใด และไม่มีส่วนใดในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ที่ถือเป็นคำแนะนำดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad