พาณิชย์’ เดินหน้ากลยุทธ์ เสริมแกร่งธุรกิจผ้าไหมไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดราชบุรี และสุพรรณบุรี - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

พาณิชย์’ เดินหน้ากลยุทธ์ เสริมแกร่งธุรกิจผ้าไหมไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดราชบุรี และสุพรรณบุรี

พาณิชย์’ เดินหน้ากลยุทธ์ เสริมแกร่งธุรกิจผ้าไหมไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดราชบุรี และสุพรรณบุรี
พาณิชย์’ เดินหน้ากลยุทธ์ เสริมแกร่งธุรกิจผ้าไหมไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
พร้อมเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดราชบุรี และสุพรรณบุรี
กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าสานต่อแผนกลยุทธ์ปรับภาพลักษณ์ธุรกิจผ้าไหมไทย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเข้ากับวัฒนธรรมการทอผ้าไหมของแต่ละพื้นถิ่น ตอกย้ำกิจกรรม "เส้นทางสายไหม...สู่เมืองรอง" นำกลุ่มประชาชนทั่วไปลงพื้นที่เยี่ยมชมตลาดและแหล่งผลิตของผู้ประกอบการผ้าไหมในจังหวัดเมืองรอง โดยมุ่งหน้าสู่ จ.ราชบุรีและสุพรรณบุรี เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมและเร่งปรับตัวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ตลอดจนเอาใจผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยมิได้ขาด
นายสถาพร​ ร่วมนาพระยา​ ผู้อำนวยการกองธุรกิจภูมิภาคและชุมชน​ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า​ กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานโครงการ “ยกระดับการตลาดผลิตภัณฑ์ผ้าไหมสู่แหล่งท่องเที่ยว” เดินหน้าจัดกิจกรรม "เส้นทางสายไหม...สู่เมืองรอง" โดยมุ่งยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการผ้าไหมให้มีความเข้มแข็ง และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล พร้อมเร่งพัฒนาศักยภาพทางการตลาดสู่การต่อยอดเชิงท่องเที่ยว โดยให้ผ้าไหมเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อ / กระตุ้นให้เกิดการบริโภค / ซื้อผลิตภัณฑ์ผ้าไหม สินค้า และบริการต่าง ๆ ในจังหวัดเมืองรองให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและเสริมสร้างรายได้อันนำไปสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจชุมชนของประชาชนในท้องถิ่นอีกด้วย

พาณิชย์’ เดินหน้ากลยุทธ์ เสริมแกร่งธุรกิจผ้าไหมไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดราชบุรี และสุพรรณบุรี
“โดยกิจกรรมครั้งนี้ เป็นนำกลุ่มประชาชนทั่วไปที่เป็นผู้โชคดีจากการจัดกิจกรรมออนไลน์พิเศษ สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเมืองรอง มาร่วมเดินทางท่องเที่ยว จังหวัดราชบุรี และสุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ 20 - 22 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อให้เกิดการสร้างการรับรู้จริงกับกลุ่มประชาชนทั่วไป พร้อมกระตุ้นแนวคิดผู้ประกอบการสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค และส่งเสริมลูกหลานในชุมชนให้หันมาสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นการผลิตผ้าไหมไทยมากขึ้น สำหรับเส้นทางสายไหมสู่เมืองรอง ออกเดินทางไปยังจุดหมายแรกที่จังหวัดราชบุรี พาไปเยือน วัดมหาธาตุวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาสักการะองค์พระปรางค์เพื่อความเป็นสิริมงคล ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่พระปรางค์ จากนั้นแวะไปสัมผัสความงดงามของผ้าไทยที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนชนัยพรผ้าจก ต.ดอนตะโก อ.เมือง ชมผลิตภัณฑ์ผ้าไหมผสมอะคริลิก หัตถกรรมพื้นบ้านผ้าจกคูบัว ภูมิปัญญาที่สืบสานมาจากบรรพบุรุษสมัยโบราณ ด้วยความที่มีเส้นไหมลายไทยที่สวยงามและสะดุดตา นำมาซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของผ้าไหมแห่งเมืองราชบุรี จากนั้นไปต่อกันที่ กลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้านราชบุรี วัดนาหนอง ต.ดอนแร่ อ.เมือง พาชมศิลปะแห่งการทอผ้า โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ผ้าไหมผสมผ้าจกดอนแร่ นับว่าเป็นผ้าจกที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของตัวเอง”

พาณิชย์’ เดินหน้ากลยุทธ์ เสริมแกร่งธุรกิจผ้าไหมไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดราชบุรี และสุพรรณบุรี
“เส้นทางสายไหมวันที่ 2 ช่วงเช้าออกเดินทางไปที่ อุทยานหินเขางู แต่เดิมเคยเป็นเหมืองหินปูนที่สำคัญของไทยตั้งแต่สมัยอดีต ต่อมาทางจังหวัดราชบุรีได้พัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดี โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและวิวทะเลสาบที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา จากนั้นแวะไปชมอีกหนึ่งความน่าสนใจของจังหวัดราชบุรีที่ เรื่องของโอ่ง สถานที่ท่องเที่ยวแนวใหม่เชิงอนุรักษ์ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวราชบุรี บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของโอ่งมังกร นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมเรื่องราวของพิพิธภัณฑ์โอ่ง และร่วมกิจกรรม Work shop ทดลองปั้นโอ่ง เพ้นท์สีโอ่งเป็นของที่ระลึกกลับบ้าน พร้อมรับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านโอ่งข้าวโอ่งน้ำ ร้านอาหารรูปร่างทรงกลม สามารถชมวิวได้ 360 องศา ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโอ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดราชบุรี จากนั้นเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อไปชมผลิตภัณฑ์ผ้าไหมที่ กลุ่มทอผ้าบ้านทุ่งแสม ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง เป็นชุมชนที่มีการผลิตผ้าไหมอันเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เริ่มจากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การสาวไหม และการทอ ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าไหมที่กลายมาเป็นอาชีพหลักของชุมชนมาอย่างยาวนาน โดดเด่นด้วยผ้าไหมมัดหมี่ 2 ตะกอ (หางกระรอก) ลวดลายโบราณดั้งเดิมที่นำมาประยุกต์ใหม่ โดยมีลูกหลานนชุมชนร่วมกันอนุรักษ์”

พาณิชย์’ เดินหน้ากลยุทธ์ เสริมแกร่งธุรกิจผ้าไหมไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดราชบุรี และสุพรรณบุรี
“เส้นทางสายไหมวันที่ 3 เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันที่ พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือหลวงพ่ออู่ทอง วัดเขาทำเทียม ชมความมหัศจรรย์ของปติมากรรมพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากการแกะสลักหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นไปสัมผัสความสวยงามของผลิตภัณฑ์ผ้าด้นมือที่แปรรูปจากผ้าไหมและผ้าฝ้ายของดีจังหวัดสุพรรณบุรีที่ กลุ่มหัตถกรรมผ้าด้นมืออู่ทอง ต.กระจัน อ.อู่ทอง กลุ่มหัตถกรรมที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและชาวบ้านที่เป็นช่างฝีมือ ซึ่งพิถีพิถันและประณีต ใส่ใจการด้นผ้าด้วยมือทุกผืน โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ของตกแต่ง อาทิ หมอน ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นจึงเปรียบเสมือนของขวัญล้ำค่าที่สื่อแทนความรักความห่วงใยให้แก่คนที่คุณรัก ก่อนปิดท้ายทริปด้วยการแวะไปเที่ยวชม ตลาดน้ำสะพานโค้ง สุ่มปลายักษ์ สถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ ที่มีจุดชมวิวเป็นสุ่มปลาขนาดใหญ่ ด้านบนสามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบ 360 องศา โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติ อีกทั้งมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย ระหว่างทางเดินไปสุ่มปลายักษ์จะเป็นสะพานทางเดินไม้ไผ่ทอดยาวท่ามกลางทุ่งดอกบัว ขนาบข้างไปด้วยร้านอาหารมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับอาหารนานาชนิด”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad