สภาผู้ส่งออก หั่นเป้าส่งออกปีนี้หดตัวไม่ต่ำกว่า -8% เร่งรัฐช่วยเหลือ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

สภาผู้ส่งออก หั่นเป้าส่งออกปีนี้หดตัวไม่ต่ำกว่า -8% เร่งรัฐช่วยเหลือ

สรท เร่งรัดภาครัฐเตรียมความพร้อม exit strategies เพื่อภาคส่งออกก้าวสู่ news normal 

สภาผู้ส่งออก หั่นเป้าส่งออกปีนี้หดตัวไม่ต่ำกว่า -8% เร่งรัฐช่วยเหลือ

"สรท."รับส่งออกปีนี้อาจหดตัว 8% ยอดสั่งสินค้าคู่ค้าวูบหนัก สอดคล้องกับเอ็กซิมแบงก์คาดส่งออกปีนี้หดตัว 5-8% พร้อมวอนแบงก์ชาติดูแลเงินบาทอ่อนค่าได้ที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์เพื่อความอยู่รอด
น.ส.กัณญภัค ตัณติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.)เปิดเผยว่า สถานการณ์ส่งออกเดือนมี.ค.63 มีมูลค่า 22,405 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.17% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาพรวมการส่งออกไตรมาสแรกปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) การส่งออกขยายตัว 0.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จะเห็นได้ว่า การส่งออกปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สรท.คาดการณ์การส่งออกภาพรวมปี 2563 อาจหดตัว 8% บนสมมติฐานค่าเงินบาทปี 2563 อยู่ที่ 30.5 (± 0.5) บาทต่อดอลลาร์ สอดคล้องกับทิศทางการประเมินของนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือเอ็กซิมแบงก์ ที่ประเมินว่าการส่งออกมีโอกาสที่จะเป็นติดลบ 5-8%
สำหรับสาเหตุการส่งออกปี 2563 อาจหดตัว 8% เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไตรมาสแรกของประเทศคู่ค้าสำคัญได้แก่ สหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรป (อียู) ติดลบค่อนข้างมาก ซึ่งแต่ละประเทศมีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 12.5% ของการส่งออกภาพรวม แม้เดือนนี้ประเทศจีนจะกลับมาเปิดปกติ แต่มีการควบคุมค่อนข้างเข้มงวด ขณะที่อียูและสหรัฐฯตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นสูง ฉุดการส่งออกของไทยในช่วง 9 เดือนที่เหลือปีนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตามหากไทยสามารถเปิดการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านได้ สถานการณ์การส่งออกจะกลับมาดีขึ้นได้บ้าง ส่วนสงครามการค้าระลอก 2 มองว่ามีโอกาสที่จะเกิดขึ้น เพราะสหรัฐฯจะมีการเลือกตั้งเดือนพ.ย.63 หรืออีก 6 เดือนข้างหน้า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันต้องการที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งจึงต้องดำเนินการที่มองได้ว่าเป็นการรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐ ขณะที่วันนี้ประเทศจีนฟื้นตัวเร็วกว่าสหรัฐจะต้องหาทางลดการขาดดุลการค้า
ทั้งนี้ สรท.ต้องการเห็นเงินบาทอยู่ในระดับ 34 บาท ขณะนี้กังวลความผันผวนการแข็งค่าของเงินบาท จากที่ผ่านมาดีใจที่เงินบาทเคลื่อนไหว 33 บาทต่อดอลลาร์ แต่สัปดาห์นี้เงินบาทเคลื่อนไหว 32 บาทต่อดอลลาร์ จึงขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ช่วยดูให้เงินบาทอยู่ในระดับที่ผู้ส่งออกสามารถส่งออกสินค้าได้สะดวกขึ้น ด้านราคาน้ำมันลดลงช่วยลดต้นทุนภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันไม่เกิดประโยชน์สินค้าบางรายการอิงราคาตามภาวะน้ำมันโลก แต่เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เป็นปัจจัยจากต่างประเทศที่ส่งผลกระทบความไม่แน่นอนต่อการส่งออกได้
โดย สรท.มองว่าการส่งออกของไทยในช่วง 9 เดือนที่เหลือปีนี้ระดับการฟื้นตัวของการส่งออกแบ่งได้ 3 กลุ่มคือ กลุ่มฟื้นตัวรวดเร็วหรือลักษณะทรุดตัวลงเร็วและฟื้นตัวรวดเร็วแบบกราฟตัว "V" ฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2-3 เพราะยังมีความต้องการสินค้าต้องการ ขณะที่สินค้าบางรายการฟื้นตัวช้าเป็นกลุ่มลักษณะรูปกราฟ ตัว "U" จะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ถึงปีหน้า ท่ามกลางการผลิตในไทยต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง ขณะที่บางกลุ่มตัวฟื้นตัวช้า ลักษณะกราฟแบบตัว " L" การฟื้นตัวจะเกิดขึ้นต้องข้ามไปในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า จึงต้องการเห็นมาตรการจากภาครัฐเข้ามาดูแลช่วยภาคอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมส่งออก และควรทำต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้สหรัฐฯ อียู อังกฤษและญี่ปุ่นมีการหารือกันให้เศรษฐกิจธุรกิจอยู่ได้ผ่านการเยียวยา
สำหรับข้อเสนอแนะ EXIT Strategies: Post COVID-19 ของ สรท.ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศเช่น มาตรการฟื้นฟูด้านการเงินผ่านเงินกู้เพื่อเอสเอ็มอีและผู้ส่งออกขนาดกลางและขนาดใหญ่ พร้อมทั้งรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ระหว่าง 32.50-34.00 บาทต่อดอลลาร์,มุ่งยกระดับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นครัวโลก (Kitchen of the world) เป็นต้น ช่วยปรับปรุงแก้ไขช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เช่น ด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งการขนส่งทางเรือ การขนส่งสินค้าทางอากาศ การขนส่งสินค้าทางถนน การขนส่งสินค้าทางราง
ทั้งนี้สถานการณ์การส่งออกเดือนมี.ค.63 มีมูลค่า 22,405 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 4.17% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 693,353 ล้านบาท ขยายตัว 4.21% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ขณะที่การนำเข้าเดือนมี.ค.63 มีมูลค่า 20,813 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 7.25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน และการนำเข้าในรูปของเงินบาท มีมูลค่า 653,096 ล้านบาท ขยายตัว 7.32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้เดือนมี.ค.63 ประเทศไทยเกินดุลการค้า 1,592 ล้านดอลลาร์ และ 40,257 ล้านบาทเมื่อหักทองคำ น้ำมันและอาวุธยุทธปัจจัย เดือนมี.ค.63 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 2.12
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกช่วงไตรมาสแรกปี 2563 ไทยส่งออกรวมมูลค่า 62,672 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 0.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทที่ 1,903,157 ล้านบาท หดตัว 2.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่วงเดือนม.ค.- มี.ค.63 ประเทศไทยเกินดุลการค้า 3,934 ล้านดอลลาร์ และ 94,466 ล้านบาทเมื่อหักทองคำและน้ำมันน้ำมันและอาวุธยุทธปัจจัย เดือนม.ค.-มี.ค.63 การส่งออกขยายตัว 1.06%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad