85% ของห้างค้าปลีกขาดความสามารถ เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญ ในการใช้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าเพื่อสร้างรายได้และผลักดันให้เกิดประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า
ดันน์ฮัมบี้ เผยแพร่กรณีศึกษาหัวข้อ อนาคตของรายได้ธุรกิจห้างค้าปลีกต้องพึ่งพาข้อมูลเป็นตัวนำทาง ซึ่งเป็นผลการศึกษาที่ว่าจ้างให้ Forrester Consulting ดำเนินการและสรุปในเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 โดยผลการศึกษาพบว่า 85% ของห้างค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลกขาดความามารถ เทคโนโลยี บุคลากร และกระบวนการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการนำข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ามาใช้เพื่อสร้างรายได้และเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ซึ่งมูลค่าตลาดรวมทั่วโลกของธุรกิจนี้มีมูลค่าสูงถึง 5.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับประเทศไทยตัวเลขนี้พุ่งสูงถึง 91% แม้จะมีอุปสรรคต่าง ๆ ที่เห็นได้ชัด แต่ห้างค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลกส่วนใหญ่ (85%) ต่างมองว่าการสร้างรายรับที่เพิ่มขึ้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในปี 2563 และวางแผนที่เพิ่มรายรับด้วยการปรับปรุงการใช้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่ตัวเองมีอยู่เพื่อพัฒนากลยุทธ์ด้านลูกค้า (84%) และเพื่อใช้ในการตัดสินใจสำคัญด้านธุรกิจ (82%)
"ธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลกต่างฝ่าฟันเพื่อความอยู่รอดกับการแข่งขันที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งจากร้านค้าที่เน้นขายของราคาถูก ธุรกิจที่เน้นสินค้าและบริการเฉพาะอย่าง และคู่แข่งรูปแบบใหม่อื่น ๆ ในขณะที่ต้นทุนในการทำธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นยิ่งบีบให้กำไรที่น้อยมากอยู่แล้วถูกลดทอนให้น้อยลงไปอีก" เดวิด เคลเมนท์ส์ ผู้อำนวยการฝ่ายค้าปลีกทั่วโลกของดันน์ฮัมบี้กล่าว "เราจัดทำกรณีศึกษาฉบับนี้เพื่อจะได้เข้าใจให้ถ่องแท้ว่าเพราะเหตุใดผู้ค้าปลีกจำนวนมากจึงไม่ได้รับประโยชน์จากช่องทางการหารายได้ใหม่ ๆ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถปรับปรุงประสบการณ์ในการซื้อสินค้าที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้าของพวกเขา เราเชื่อว่าผลการศึกษาที่ได้ในครั้งนี้ จะเน้นให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญมากขึ้นของการนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อช่วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน"
"ธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลกต่างฝ่าฟันเพื่อความอยู่รอดกับการแข่งขันที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งจากร้านค้าที่เน้นขายของราคาถูก ธุรกิจที่เน้นสินค้าและบริการเฉพาะอย่าง และคู่แข่งรูปแบบใหม่อื่น ๆ ในขณะที่ต้นทุนในการทำธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นยิ่งบีบให้กำไรที่น้อยมากอยู่แล้วถูกลดทอนให้น้อยลงไปอีก" เดวิด เคลเมนท์ส์ ผู้อำนวยการฝ่ายค้าปลีกทั่วโลกของดันน์ฮัมบี้กล่าว "เราจัดทำกรณีศึกษาฉบับนี้เพื่อจะได้เข้าใจให้ถ่องแท้ว่าเพราะเหตุใดผู้ค้าปลีกจำนวนมากจึงไม่ได้รับประโยชน์จากช่องทางการหารายได้ใหม่ ๆ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถปรับปรุงประสบการณ์ในการซื้อสินค้าที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้าของพวกเขา เราเชื่อว่าผลการศึกษาที่ได้ในครั้งนี้ จะเน้นให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญมากขึ้นของการนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อช่วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน"
- ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับตลาดประเทศไทยเมื่อพูดถึงเรื่องการนำข้อมูลมาพัฒนาเป็นกลยุทธ์การบริหารลูกค้าคือ:-
- อุปสรรคทางด้านวัฒนธรรมในการนำข้อมูลมาใช้เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ
- การขาดประสิทธิภาพในการผสานรวมข้อมูลจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- การขาดประสิทธิภาพในการดึงข้อมูลจากทุกช่องทางมาวิเคราะห์เชิงลึก (อาทิ ออนไลน์, ห้างร้าน)
- การขาดวิทยาการข้อมูลภายในองค์กร รวมถึงทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อแปลงสารให้เป็นแนวทางในการสร้างแผนธุรกิจต่อไป
"เวลาเป็นหัวใจสำคัญสำหรับผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในการเปิดใช้งานข้อมูลที่พวกเขามีอยู่แล้วเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าและสร้างช่องทางหารายได้ใหม่ ๆ ที่สนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ของพวกเขาได้ในอนาคต" เคลเมนท์ส์กล่าวว่า "มีรายได้ที่ยังไม่ได้ก่อเกิดในธุรกิจห้างค้าปลีกจำนวนมาก ผู้ที่สามารถปลดล็อคศักยภาพของสินทรัพย์ข้อมูลและสื่อของตัวเอง และสร้างความร่วมมือที่ดีขึ้นกับซัพพลายเออร์จะเป็นผู้ประสบความสำเร็จ ส่วนผู้ค้าปลีกที่ล้มเหลวในการปรับตัวจะไล่ตามไม่ทันในตลาดที่นับวันการแข่งขันก็จะยิ่งสูงขึ้น"
สามารถดาวน์โหลดกรณีศึกษาฉบับเต็มได้แล้วที่:https://www.dunnhumby.com/resources/reports/forrester-future-retail-revenues-must-be-data-led
ระเบียบวิธีการจัดทำกรณีศึกษา
ในเดือนกรกฎาคม 2562 ดันน์ฮัมบี้ได้มอบหมายให้ Forrester Consulting เป็นผู้ดำเนินการประเมินกลยุทธ์ด้านผู้บริโภคที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และการเติบโตของข้อมูลและการสร้างรายได้จากสื่อในห้างค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค Forrester ได้ทำการศึกษาทั่วโลกผ่านการสำรวจออนไลน์กับผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 613 คนและทำการสัมภาษณ์ผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการวางกลยุทธ์และการบริหารการวิเคราะห์ข้อมูลและ/หรือกลยุทธ์ด้านลูกค้าที่บริษัทค้าปลีกทั่วโลกจำนวน 13 คน
เกี่ยวกับดันน์ฮัมบี้
ดันน์ฮัมบี้เป็นผู้นำระดับโลกในด้านวิทยาการข้อมูลลูกค้าโดยช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจต่าง ๆ ทุกหนทุกแห่งในการแข่งขันและประสบความสำเร็จในเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ทันสมัย เราให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกอยู่เสมอ
พันธกิจของเรา: ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเติบโตและเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองใหม่โดยกลายเป็นผู้สนับสนุนและเป็นตัวแทนให้กับลูกค้าของตัวเอง ด้วยสิ่งที่สืบช่วงอย่างล้ำลึกและความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าปลีก – ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก โดยมีข้อมูลหลายมิติที่ล้นหลาม – ในปัจจุบันนี้ดันน์ฮัมบี้สามารถทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลก ทั่วทุกอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก
แพลตฟอร์มวิทยาการข้อมูลลูกค้าของดันน์ฮัมบี้เป็นการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์และการให้คำปรึกษา ที่ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเพิ่มรายได้และผลกำไรด้วยการมอบประสบการณ์ที่พิเศษยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าของตัวเอง – ไม่ว่าจะเป็นภายในตัวห้างร้าน ทางออฟไลน์และทางออนไลน์ ทั้งนี้ดันน์ฮัมบี้มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 2,000 คนในสำนักงานต่าง ๆ ทั่วทวีปยุโรป เอเชีย แอฟริกาและอเมริกา ที่ช่วยทำงานให้กับแบรนด์ที่มีชื่อเสียง อาทิ เทสโก, โคคา-โคลา, ไมเยอร์, พร็อคเตอร์ & แกมเบิล, ลอรีอัล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น