BBLเร่งเอสเอ็มอีปรับตัว รุกค้าออนไลน์-ต่างประเทศลดเสี่ยง

นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL เปิดเผยว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของตลาดในปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีวิตของผู้บริโภคส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่ผู้ประกอบการธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ต้องเร่งศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้สามารถปรับตัวและสร้างการเติบโตที่ต่อเนื่องให้แก่ธุรกิจต่อไปได้ โดยเฉพาะการเพิ่มช่องทางการทำตลาดผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงการเริ่มพิจารณาการขยายตลาดสู่ต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงกรณีตลาดในประเทศได้รับผลกระทบ

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมมาก นอกจากผู้ประกอบการต้องปรับตัวแล้ว ธนาคารเองก็ต้องปรับตัวอย่างมากเช่นกัน
ถ้าผู้บริโภคเปลี่ยนไปซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ รูปแบบการชำระเงินและการจัดการเงินก็ต้องพร้อมตอบสนองความต้องการเหล่านี้ด้วย ซึ่งเราพัฒนาระบบเหล่านี้มาต่อเนื่อง หรือถ้าธุรกิจต้องการขยายไปต่างประเทศมากขึ้น ธนาคารก็ต้องพร้อมสนับสนุนทั้งด้านข้อมูลข่าวสารและด้านธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศด้วยซึ่งธนาคารกรุงเทพมีจุดแข็งเรื่องเครือข่ายสาขาในต่างประเทศที่พร้อมให้บริการครอบคลุมถึง 14 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในอาเซียนที่ครอบคลุมถึง 9 จาก 10 ประเทศ” นายวีระศักดิ์ กล่าว

โอกาสนี้ธนาคารกรุงเทพ ยังได้จัดงาน “บัวหลวงเอสเอ็มอีแฟร์ 2562” จัดขึ้นต่อเนื่องเป็น ครั้งที่ 11เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพเยี่ยมในราคาพิเศษ ซึ่งเป็นสินค้าจากผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี กว่า 200 รายการ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์มือถือ ชุดเครื่องนอนกระเป๋าเดินทาง รองเท้าแบรนด์ดัง อาหารและอาหารทะเลแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของขวัญของชำร่วย และอีกมายมายโดยมีผู้ประกอบการถึง 75 ราย เข้าร่วมนำเสนอสินค้าภายในงานซึ่งจัดในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ณ บริเวณลานด้านธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่สีลม

งานดังกล่าวถูกจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2552ด้วยแนวคิดของคุณโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์อดีตประธานกรรมการบริหาร ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการเพิ่มช่องทางการตลาดและรายได้สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่เป็นสมาชิกชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี

ภายในงานในปีนี้ ธนาคารได้เพิ่มความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าและชำระเงิน โดยนำบริการ BeMerchant มาให้บริการสำหรับการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ โดยร้านค้าต่างๆ สามารถรับชำระเงินด้วย QR Code ผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต Bualuang mBanking และโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลากดเงินสด สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ขณะที่ร้านค้าก็ได้รับเงินตรงเข้าบัญชี ลดปัญหาเรื่องการจัดการเงินสดและเตรียมเงินทอน สามารถสรุปรายการขายทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์

“ธนาคารให้ความสำคัญอย่างมากกับภาคธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีบทบาทอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยพัฒนาบริการทางการเงิน ตลอดจนสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยเข้าถึงและให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถยืนหยัดในตลาดได้อย่างเข้มแข็ง” นายวีระศักดิ์ กล่าว