กรมการค้าต่างประเทศชี้แจงการมอบสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จัดหาข้าวและส่งมอบข้าวภายใต้สัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นวิธีการที่ทำมากว่า 20 ปีแล้ว แต่ปัจจุบัน การดำเนินการมีขั้นตอนและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ย้ำการมอบสิทธิ์ให้สมาคมฯ เหตุต้องอาศัยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และรับความเสี่ยงได้ ด้านสมาคมฯ เผยการเก็บค่าบริหารจัดการ เป็นเรื่องที่ทำมาตลอด แล้วแต่ว่าส่งให้ประเทศไหน และเก็บไม่เท่ากัน
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงวิธีการจัดหาข้าวและส่งมอบภายใต้สัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ว่า การที่รัฐบาลมอบสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยดำเนินการ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ และเป็นสิ่งที่ได้ดำเนินการมาช้านานหลายยุคหลายสมัยในหลายรัฐบาลที่มีการขายข้าว G to G มา 20 กว่าปีแล้ว และปัจจุบันยังได้ดำเนินการตาม “แนวทางปฏิบัติในการเจรจาและการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ” ที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2562 และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบแนวทางปฏิบัติดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2563 อีกทั้งแนวทางปฏิบัติดังกล่าวยังมีที่มาตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอเรื่อง “มาตรการป้องกันการทุจริต กรณีการค้าระหว่างประเทศแบบรัฐต่อรัฐ จากโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ” และกรมฯ ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแนวทางปฏิบัติดังกล่าวสำหรับใช้เป็นแนวทางในการขายข้าวแบบ G to G
ทั้งนี้ มติ นบข. ยังได้มอบหมายให้กรมฯ ร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ปรับปรุงหรือจัดหาข้าวส่งมอบให้แก่รัฐบาลประเทศผู้ซื้อตามสัญญา G to G โดยให้กรมฯ ทำข้อตกลงความร่วมมือกับสมาคมฯ ตามแบบข้อตกลงที่ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว
ส่วนเหตุผลที่มอบสมาคมฯ เนื่องจากเงื่อนไขการส่งมอบข้าวในแต่ละสัญญา มีรายละเอียดในการปฏิบัติที่ต้องอาศัยความรู้ความชำนาญเฉพาะของผู้ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญในการส่งข้าวไปต่างประเทศ และสมาคมฯ เป็นองค์กรที่มีภารกิจหลักในการส่งออกข้าวโดยตรง และมีสมาชิกที่มีความพร้อมในการส่งออกข้าว รวมทั้งมีศักยภาพในการรับประกันความเสี่ยงในการส่งมอบข้าวภายใต้สัญญา G to G เช่น การเปลี่ยนแปลงของราคาข้าวในตลาด ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน สภาพอากาศที่ทำให้เกิดปัญหาส่งมอบข้าวล่าช้า ค่าเสียเวลาเรือและค่าปรับที่อาจเกิดขึ้น เป็นต้น
"รัฐบาลในหลายยุคหลายสมัย ได้มอบกรมฯ ร่วมมือกับสมาคมฯ จัดหาและส่งมอบข้าวแบบ G to G ให้ China National Cereals, Oil and Foodstuff Import and Export Corporation (COFCO) รัฐบาลจีน , The National Food Authority (NFA) รัฐบาลฟิลิปปินส์ และ Padiberas Nasional Berhad (BERNAS) รัฐบาลมาเลเซีย เป็นต้น เพราะการร่วมมือกับสมาคมฯ เนื่องจากสมาคมฯ มีความคล่องตัวในการดำเนินการและการบริหารจัดการ หากรัฐมาดำเนินการจัดหาและส่งมอบข้าวเอง จะใช้เวลาในการดำเนินการในแต่ละขั้นตอน อาจทำให้การส่งมอบล่าช้า ซึ่งคำสั่งซื้อข้าว G to G ส่วนใหญ่ต้องการการส่งมอบโดยเร็ว และที่ผ่านมา สมาคมฯ สามารถส่งมอบข้าวให้แก่รัฐบาลผู้ซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น ทันตามกำหนดเวลา สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศผู้ซื้อ และรักษาชื่อเสียงของประเทศเป็นสำคัญ"นายกีรติกล่าว
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงการจัดเก็บค่าบริหารจัดการการส่งมอบข้าวแบบ G to G จากสมาชิกที่ได้รับการจัดสรรว่า สมาคมฯ ดำเนินการลักษณะนี้มาโดยตลอด เนื่องจากการส่งมอบข้าวแบบ G to G มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการเกิดขึ้น ทั้งการใช้บุคลากรในการดูแลติดตาม ประสานงาน และจัดเตรียมเอกสารหลักฐานการส่งออก รวมทั้งการทำธุรกรรมต่างๆ และยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการประกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการส่งมอบ เพื่อให้การส่งมอบข้าวในนามรัฐบาลไทยเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ทั้งนี้ การจัดเก็บค่าบริหารจัดการในแต่ละครั้งที่มีการส่งมอบข้าวแบบ G to G สมาคมฯ จะพิจารณาจากความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และปริมาณ ซึ่งไม่ได้ใช้อัตราเดียวกันทุกครั้ง เช่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย สมาคมฯ จัดเก็บอัตราตันละ 30 บาท สำหรับการส่งมอบ COFCO ในครั้งนี้ ซึ่งมีจำนวนเพียง 20,000 ตัน สมาคมฯ จำเป็นต้องเก็บค่าบริหารจัดการเพิ่มขึ้นอยู่ที่อัตราตันละ 150 บาท เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งค่าบริหารจัดการที่คงเหลือสมาคมฯ ได้นำไปใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกรณีที่กรมการค้าต่างประเทศได้โอนการส่งมอบข้าว G to G ปริมาณ 20,000 ตัน ให้กับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยว่าเป็นการให้ผลประโยชน์ของประเทศไทยให้แก่สมาคมฯ โดยไม่มีการประมูลหรือไม่ และมีการระบุราคาขายที่ตันละ 520 เหรียญสหรัฐ แต่ราคาตลาดอยู่ที่ 480 เหรียญสหรัฐ ทำให้มีส่วนต่าง รวมทั้งยังมีการเรียกเก็บค่าบริหารจัดการตันละ 150 บาท
วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
“พาณิชย์”ยันมอบสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จัดหาและส่งมอบข้าว G to G โปร่งใส
Tags
# เศรษฐกิจมหภาค
# ส่งออก
Share This
About preecha binmanoch
ส่งออก
ป้ายกำกับ:
เศรษฐกิจมหภาค,
ส่งออก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น