"ชวลิต เฟรเดอริก เฉา" ผู้ก่อตั้งสถาบันออกเทฟ บริจาคเงินให้มูลนิธิฮาโลเจน ร่วมสร้างอนาคตเยาวชนสิงคโปร์ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566

"ชวลิต เฟรเดอริก เฉา" ผู้ก่อตั้งสถาบันออกเทฟ บริจาคเงินให้มูลนิธิฮาโลเจน ร่วมสร้างอนาคตเยาวชนสิงคโปร์

"ชวลิต เฟรเดอริก เฉา" ผู้ก่อตั้งสถาบันออกเทฟ บริจาคเงินให้มูลนิธิฮาโลเจน ร่วมสร้างอนาคตเยาวชนสิงคโปร์

คุณชวลิต เฟรเดอริก เฉา ผู้นำธุรกิจรุ่นที่ และผู้ก่อตั้งสถาบันออกเทฟ จับมือกับมูลนิธิฮาโลเจนเพื่อร่วมสร้างระบบการศึกษาสำหรับคนทุกรุ่นนอกเหนือไปจากโรงเรียนสำหรับเยาวชน เพื่อมุ่งสู่อนาคตและชะตากรรมของมนุษยชาติที่มีร่วมกัน

สิงคโปร์18 ส.ค. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต

เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและร่วมกันสร้างยุคสมัยใหม่ของความเป็นหนึ่งเดียวกันและความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม คุณชวลิต เฟรเดอริก เฉา (Mr Chavalit Frederick Tsao) ผู้นำธุรกิจรุ่นที่ และผู้ก่อตั้งสถาบันออกเทฟ (Octave Institute) และประธานบริษัท ไอเอ็มซี แพน เอเชีย อลิอันซ์ กรุ๊ป (IMC Pan Asia Alliance Group หรือ IMCPAA) ได้จับมือกับมูลนิธิฮาโลเจน สิงคโปร์ (Halogen Foundation Singapore) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตให้กับเยาวชนในสิงคโปร์ ทั้งนี้ ออกเทฟได้มอบเงินบริจาคเพื่อแสดงถึงการมีส่วนร่วมจำนวน 250,000 ดอลลาร์แก่ฮาโลเจนเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่งานราตรีสโมสรฮาโลเจน ซึ่งฮาโลเจนเป็นเจ้าภาพ และได้รับเกียรติจากคุณธาร์มาน ชานมูการัตนัม (Mr Tharman Shanmugaratnam) แขกผู้มีเกียรติของงานในครั้งนี้ นอกจากนี้ ออกเทฟยังเป็นผู้สนับสนุนรายปัจจุบันของงานในครั้งนี้อีกด้วย นับเป็นก้าวแรกของความสัมพันธ์ระหว่างออกเทฟกับฮาโลเจนเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนของเราเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติและธรรมชาติ และความเจริญรุ่งเรืองแห่งชีวิต ผ่านความร่วมมือระหว่างสถาบันออกเทฟและมูลนิธิฮาโลเจน

คุณเฉาได้ก่อตั้งออกเทฟขึ้นเป็นโรงเรียนแห่งชีวิตและการจัดการที่มุ่งเน้นการปฏิรูปธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงด้านความเป็นผู้นำ ออกเทฟเป็นผู้นำแนวคิดริเริ่มด้านการพัฒนาองค์กรและนำเสนอแนวทางความเป็นผู้นำรูปแบบใหม่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและความยั่งยืนบนพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกเพื่อปรับเปลี่ยนจริยธรรม ในฐานะผู้นำทางธุรกิจหัวก้าวหน้าซึ่งเชื่อมั่นในศักยภาพของสิงคโปร์อย่างแรงกล้า คุณเฉามุ่งมั่นแสวงหาโอกาสเพื่อร่วมสร้างอนาคตผ่านความร่วมมือกับองค์กรและสถาบันต่าง ๆ ในท้องถิ่น คุณเฉามอบเงินบริจาคแก่ฮาโลเจนในครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสในการเป็นพันธมิตรและสร้างความร่วมมือร่วมกับฮาโลเจนได้มากขึ้น เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงและส่งเสริมเยาวชนบนเส้นทางแห่งการศึกษานอกเหนือไปจากโรงเรียน

"จิตสำนึกของทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากโลกทั้งใบกำลังตื่นตัวว่าเราจำเป็นต้องสามัคคีกันผ่านความร่วมมือและการเป็นพันธมิตร อนาคตในภายภาคหน้าของเราจะแตกต่างจากยุคอุตสาหกรรมที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ในฐานะมนุษยชาติคนหนึ่ง เราคือผู้กุมชะตาอนาคตของเรา เราทุกคนมีสิ่งที่จำเป็นอยู่ภายในอยู่แล้วในการร่วมกันสร้างยุคสมัยใหม่นี้ เราเพียงแค่ต้องเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกในการใช้ชีวิตแล้วมองหาโลกทัศน์ร่วมเพื่อปูทางไปสู่แนวทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เรามีร่วมกัน เมื่อเยาวชนตื่นรู้ถึงเป้าหมายชีวิตของตนและได้รับโอกาสในการทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ เขาย่อมสามารถเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้ เราจึงร่วมกันสร้างระบบการศึกษาสำหรับคนทุกรุ่นที่อยู่นอกเหนือไปจากโรงเรียนเพื่อสร้างอนาคตและกำหนดชะตากรรมของมนุษยชาติร่วมกัน" คุณเฉากล่าว

เผยการมองโลกในมุมใหม่ในหนังสือเล่มล่าสุด "One Choice, One World"

นอกจากนี้ คุณเฉายังได้เปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ล่าสุดของตัวเอง "One Choice, One World: The Rise of The Well-Being and Happiness Economy" ภายในงานดังกล่าว โดยผลงานที่แหวกขนบและท้าทายความคิดชิ้นนี้ คุณเฉาได้นำเสนอวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกใหม่ของชีวิตในยุคนี้ ซึ่งว่าด้วยความเป็นอยู่ที่ดีและความสุข โดยมองมนุษยชาติเป็นส่วนหนึ่งของระบบองค์รวมของทุกชีวิต

คุณเฉาสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ให้ก้าวขึ้นมาเป็นแนวหน้าในการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งสอดรับกับข้อเรียกร้องของสหประชาชาติในการสร้างระบบเศรษฐกิจตลาดเสรีรูปแบบใหม่ และเปลี่ยนจากการวัดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มาเป็นการวัดความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH) การปฏิรูปธุรกิจจึงมีบทบาทสำคัญเพื่อนำธรรมชาติของจริยธรรมทางธุรกิจออกมาเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรีที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน

ในผลงานชิ้นล่าสุดนี้ คุณเฉาได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือและร่วมกันสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้น เขาหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เสวนากับเหล่าผู้นำและร่วมหารือเพื่อจุดประกายการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยใหม่

คุณเฉาเป็นผู้นำธุรกิจรุ่นที่ ของไอเอ็มซี (IMC) ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในฐานะผู้ประกอบการและด้วยประสบการณ์ ข้อมูลเชิงลึก และความรู้ที่หลากหลายทั้งในวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกอันเป็นแหล่งที่มาของโลกทัศน์ของเขา คุณเฉาประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือแบบดั้งเดิมของครอบครัวไปสู่การเป็นเครือบริษัทข้ามชาติที่ส่งเสริมโลกาภิวัตน์และการพัฒนาอุตสาหกรรมในเอเชีย ตอนนี้ เขากำลังนำพาธุรกิจของตนเองไปสู่อีกระดับ โดยการกำหนดนิยามใหม่ให้กับความยั่งยืนและความสุจริตของธุรกิจ เพื่อสร้างผลกระทบในการสร้างยุคสมัยใหม่แห่งความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เขาจึงได้ก่อตั้งสถาบันออกเทฟขึ้นในฐานะศูนย์การเป็นผู้นำควอนตัมที่มุ่งเน้นการปฏิรูปธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นผู้นำ

คุณเฉากล่าวว่า "โลกในตอนนี้อยู่ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดจากโลกาภิวัตน์และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เราอยู่ในช่วงรอยต่อที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก เพื่อเป็นการเผชิญหน้ากับความท้าทายระดับโลก เราจึงต้องสร้างโลกทัศน์ร่วมกันบนพื้นฐานของการยอมรับว่ามนุษยชาติเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศสำหรับทุกชีวิตบนโลก ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่เราจะต้องร่วมกันสร้างยุคใหม่แห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและมีความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม เราแต่ละคนล้วนมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์นี้ตามที่ผมได้กล่าวในงานเขียนใหม่ในชื่อ "One Choice, One World" ด้วยการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาตะวันออกและวิทยาศาสตร์ตะวันตก ผมเชื่อว่าเราจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกร่วมกันได้ อนาคตอยู่ในมือเรา!"

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือได้ทาง https://chavalittsao.com/one-choice-one-world

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2188565/Launch_of_One_Choice_One_World.jpg


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad