บล.ทรีนีตี้ คาด SET Index ธ.ค. 62 มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1,560-1,630 จุด พร้อมแนะติดตามการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2562

บล.ทรีนีตี้ คาด SET Index ธ.ค. 62 มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1,560-1,630 จุด พร้อมแนะติดตามการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ

   บล.ทรีนีตี้ คาด SET Index ธ.ค. 62 มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1,560-1,630 จุด พร้อมแนะติดตามการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ระบุเป็นปัจจัยที่อาจมีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะเลือกเล่นเป็นรายตัว ชู TISCO-VGI เป็น Top pick 



               นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า SET Indexเดือนธันวาคม 2562  มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1,560 - 1,630 จุด โดยมีปัจจัยที่จำกัดการ Upside ที่สำคัญของดัชนีฯ ได้แก่ Valuation ที่อยู่ในระดับสูง ส่วนปัจจัยจำกัดDownside ที่สำคัญได้แก่ เม็ดเงิน LTF ที่คาดว่าเตรียมจ่อเข้าตลาดอีกประมาณ 1-2 หมื่นล้านบาท ส่วนปัจจัยที่น่าสนใจในเดือนนี้ได้แก่ 1.การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ต้องติดตามในเดือนนี้ เนื่องจากจะมีผลกระทบไปสู่การตัดสินใจของทั้ง 2 ประเทศ ว่าจะมีการเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อกันในวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ หากมีการเก็บเพิ่มจริง มองกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อาจได้รับแรงกดดันในระยะสั้น เนื่องจากมีสินค้าที่เกี่ยวข้องที่เตรียมถูกเก็บภาษีเพิ่มเติมอย่างเช่น Smartphone และ Laptop ต่างๆ
               2.ผลการประชุมร่วมระหว่างกลุ่ม OPEC และNon-OPEC ในวันที่ 5-6 ธันวาคมนี้ ซึ่งอาจมีการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางการลดกำลังการผลิตของกลุ่มในอนาคต ซึ่งหากในที่ประชุมมีมติเพียงแค่คงการลดกำลังการผลิตในอัตราเท่าเเดิมที่วันละ 1.2 ล้านบาร์เรล มองว่านักลงทุนบางส่วนอาจผิดหวัง และนำมาสู่การย่อตัวลงของราคาน้ำมันดิบได้ 3.ผลการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ซึ่งจากผลโพลล่าสุดพบว่าพรรค Conservatives ซึ่งนำโดยนายกฯคนก่อน Boris Johnson มีโอกาสสูงที่จะได้รับชัยชนะอีกครั้ง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง มีโอกาสที่นาย Johnson จะเดินหน้ากระบวนการ Brexit ให้ทันก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ม.ค.ปีหน้า
              4.ประเมินมีเม็ดเงินอีกอย่างน้อยราว 1-2 หมื่นล้านบาทที่จ่อรอเข้ากองทุน LTF ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะไหลตรงเข้าสู่ตลาดหุ้นได้ เนื่องจากกองทุนไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องกันเงินสดไว้มากเพื่อรองรับการไถ่ถอนในช่วงต้นปีหน้า และ 5. ติดตามผลการพิจารณาของกระทรวงการคลังต่อประเด็นกองทุนรูปแบบใหม่ที่จะเข้ามาทดแทน LTFหากไม่มีข้อจำกัดทางด้านการลงทุน มองว่า CK จะเป็นตัวที่ได้ประโยชน์มากที่สุด
ส่วนธีมการลงทุนที่น่าสนใจประจำเดือนมองไปหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำเช่น TISCO และหุ้นที่คาดว่าจะถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไป ซึ่งได้แก่ VGI

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad