นักวิชาการวิศวะมหิดล ชี้ 9 ข้อเสนอแนะ บทเรียนไฟไหม้...ระวังภัยหม้ อแปลงไฟฟ้า
หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้หม้ อแปลงไฟฟ้าระเบิด ณ อาคาร 3 ชั้น ย่านสำเพ็ง ถนนราชวงศ์ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บนับสิบ ไฟไหม้อาคารและรถเสียหาย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์หลั กฐานหาสาเหตุนั้น อีกไม่กี่วันต่อมายังเกิดเหตุ ระทึกประกายไฟลัดวงจรหม้ อแปลงไฟฟ้าใหญ่กว่าตัวเดิมที่ ปากซอยวานิช 1 ซึ่งอยู่ห่างจากที่เดิม 50 เมตร แม้จะไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่เกิดคำถามจากประชาชนว่า ทำอย่างไรจะให้หม้อแปลงไฟฟ้าที่ มีอยู่ทั่วเมืองนั้นอยู่กั บเราได้อย่างมั่นคงปลอดภัย คณะวิ ศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดย ดร.สุพรรณ ทิพย์ทิพากร หัวหน้าภาควิชาวิ ศวกรรมไฟฟ้า วิศวะมหิดล เผย 9 ข้อเสนอแนะแก้ไขแก่หน่วยงาน และ 6 ข้อแนะนำแก่ประชาชน ที่อยู่ใกล้ หม้อแปลงไฟฟ้า
ในประเทศไทยใช้ หม้อแปลงไฟฟ้า ( Transformer) เพื่อทำหน้าที่ แปลงแรงดันไฟฟ้าแรงสูงให้เป็ นแรงดันไฟฟ้าสำหรับการใช้ งานในครัวเรือน 2 แบบ คือ 1) แรงดันไฟฟ้าแบบ 3 เฟส ( Three - Phase Transformer) วัดแรงดันไฟฟ้ าระหว่างเส้นที่มีไฟอยู่ที่ 380 โวลต์ และ 2) แรงดันไฟฟ้า 1 เฟส ( Single - Phase Transformer) มีแรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ ขนาดหม้อแปลงใหญ่เล็กแตกต่างกั นไปสังเกตได้ที่ตัวเลขที่ติดไว้ ด้านหน้าของหม้อแปลงเช่น ตัวเลข 500 จะหมายถึงพิกัด 500 เควีเอ ( kVA) หรือ 500 ,000 วัตต์(ทางกระแสสลับ)
ดร.สุพรรณ ทิพย์ทิพากร หัวหน้าภาควิชาวิ ศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขั บเคลื่อนความเจริญก้าวหน้ าของประเทศ ทุกบ้านทุกเมืองทั่ วไทยและทั่วโลกจนถึงทุกธุรกิจอุ ตสาหกรรมต่างก็หล่อเลี้ยงด้ วยพลังงานไฟฟ้า โดยหม้อแปลงไฟฟ้า ( Transformer) นับเป็นอุปกรณ์ สำคัญที่ทำหน้าที่แปลงแรงดันหรื อศักดาไฟฟ้าโดยทำหน้าที่เพิ่ มหรือลด ( Step up / Step down) ปรับแรงดันสูงมาเป็นแรงดันต่ำ หรือเปลี่ยนแรงดันต่ำให้เป็ นแรงดันสูงให้เหมาะสม เพื่อแจกจ่ายพลังงานไฟฟ้าไปสู่ บ้านเรือนของประชาชน โดย ทั่ วไปลักษณะหม้อแปลง มี 2 แบบ คือ 1. ระบายความร้อนแบบชนิดแห้ง ( Dry Type) และ 2. ระบายความร้อนแบบใช้น้ำมัน ( Oil Type) มีครีบระบายความร้ อนรอบนอกตัวถัง ซึ่งภายในจะมีถั งขนาดใหญ่บรรจุน้ำมัน โดยยังแบ่ งออกเป็นกลุ่มย่อยคือ ชนิดน้ำมั นติดไฟได้ ทำจาก Mineral Oil และ ชนิดติดไฟยาก (Less Flammable) มีขดลวดทองแดง ( Winding) 2 – 3 ขดขึ้นกับจำนวนเฟสที่ใช้งาน
หม้อแปลงที่ติดตั้งนอกอาคารมั กจะเป็นแบบใช้น้ำมันซึ่งมี ราคาถูกกว่า เนื่องจากหม้อแปลงไฟฟ้าต้ องทำงานตลอดเวลาจึงจำเป็นต้องมี “น้ำมันหม้อแปลง ” คอยทำหน้าที่ เป็นฉนวน ป้องกันไม่ให้ขดลวดมาชนกันจนเกิ ดการลัดวงจรไฟฟ้า และยังเป็นตัวช่วยระบายความร้ อนภายในหม้อแปลง ปัจจุบันทั่วกรุงเทพและปริ มณฑลมีหม้อแปลงไฟฟ้าระบบใช้น้ำ มันหลายหมื่นลูก โดย 154 ลูกอยู่ในกรุงเทพชั้นใน
หม้อแปลงไฟฟ้าจะเสื่อมประสิทธิ ภาพไปตามอายุและการใช้งาน โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่ ประชาชนมีความต้องการใช้ไฟฟ้ ามากกว่าปกติ อาจเกินกำลังของหม้อแปลงไฟฟ้า ( Overload) ยิ่งทำให้เกิดความร้อนสะสมและมี แรงดันภายในหม้อแปลงสูงเกินไป กลไกระบบรักษาความปลอดภัยจะปล่ อยแก๊สและของเหลวออกมา ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดไฟลุกไหม้ เมื่อทำปฏิกิริยากับออกซิเจนที่ อยู่ในอากาศภายนอก
ดร.สุพรรณ ทิพย์ทิพากร คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล สรุป 9 ข้อเสนอแนะทางวิศวกรรมแก่หน่ วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้ างเสริมความปลอดภัยจากหม้ อแปลงไฟฟ้า ที่อาจส่งผลกระทบต่ อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดั งนี้
1. ควรเปลี่ยนเป็นหม้ อแปลงไฟฟ้าระบบ Dry Type ซึ่งปัจจุบันมีนวั ตกรรมใหม่สามารถติดตั้ งนอกอาคารบนนั่งร้านได้ แม้ราคาจะสูงกว่าหม้อแปลงไฟฟ้ าระบบน้ำมัน แต่มีความปลอดภัยและคุ้มค่ากั บการลงทุนในระยะยาว
2. ในพื้นที่ซึ่งมี ความหนาแน่นของชุมชน การติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าที่ใกล้ กับผนังอาคารสิ่งปลูกสร้ างมากเกินไป ควรมีการติดตั้ง “แผ่นกั้นกันไฟ ” ที่จะเข้าสู่อาคารจากเหตุหม้ อแปลงระเบิดหรือไฟลุกไหม้ และไม่ควรใช้หม้อแปลงขนาดใหญ่ เกินกว่า 250 kVA เพื่อลดความรุนแรงหากเกิ ดการระเบิดของหม้อแปลง
3. หม้อแปลงไฟฟ้าที่มีอายุ เกิน 20 ปี ควรได้รับการบำรุงรักษาที่เร็ วกว่ากำหนดและตรวจสอบเป็นพิเศษ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการดูแลปีละ 1 ครั้ง แม้อายุการใช้งานของหม้ อแปลงจะกำหนดอยู่ที่ราว 25 ปี ก็ควรปลดระวางการใช้งาน “ก่อน ”นั้ น
4. ควรมีการเปลี่ยนน้ำมันหม้ อแปลงเป็นระยะ ซี่งน้ำมันหม้อแปลงใช้เป็ นฉนวนป้องกันการลัดวงจรภายในหม้ อแปลงไฟฟ้าและเป็นตัวช่วยถ่ ายเทระบายความร้อนระหว่ างขดลวดภายในหม้อแปลงกั บอากาศภายนอก น้ำมันซึ่งเมื่อเจอความร้ อนสะสมเป็นเวลานานจะเกิดการเสื่ อมสภาพ ทำให้ประสิทธิภาพในการเป็ นฉนวนและถ่ายเทระบายความร้ อนลดลงไป
5. พัฒนา “ระบบเครือข่ ายควบคุมอัจฉริ ยะและรายงานความปลอดภัยได้ 24 ชม. ” โดยทุกหม้อแปลงติดตั้ง Sensorตรวจวัดอุณหภูมิ ของขดลวดและคุณสมบัติ ภายในของหม้อแปลงแบบเรียลไทม์ ( Real Time) ประยุกต์เทคโนโลยีเครือข่ ายอินเตอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) เ พื่อส่งข้อมูลไปยังศูนย์ควบคุ มของการไฟฟ้านครหลวง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแจ้งประชาชนบริเวณใกล้เคี ยงผ่านโทรศัพท์มือถือและเสี ยงไซเรนเตือนภัยที่หม้อแปลงได้ ทันเวลา
6. ไม่ควรใช้งานหม้ อแปลงไฟฟ้าเต็มพิกัดกำลัง มาตรฐานควรอยู่ราว 80 % เช่น หม้อแปลงไฟฟ้าขนาด 500 kVA ควรใช้งานเพียง 400 kVA เพื่อความปลอดภัย
7. ควรกั้นรั้วหรือทาสีบริ เวณพื้นและติดป้ายเตือนไม่ให้ หาบเร่แผงลอยหรือประชาชนอยู่ ใกล้หรือจอดรถบริเวณที่มีการติ ดตั้งหม้อแปลง และแสดงเบอร์โทรสายด่วนเพื่อติ ดต่อแจ้งเหตุต่อการไฟฟ้าอย่างชั ดเจนติดอยู่ที่หม้อแปลง
8. ระมัดระวังไม่ให้สายสื่ อสารหรือสายไฟอื่นๆ ใกล้หม้อแปลงไฟฟ้าซึ่งอาจเป็ นเชื้อเพลิงให้เกิดการลุกลามได้ ส่วนในการดับเพลิงจากเหตุน้ำมั นหม้อแปลง ควรใช้ชนิดสารเคมี ในการดั บเพราะหากใช้น้ำจะทำให้เพลิงยิ่ งรุนแรงขึ้น
9. ควรนำสายสื่ อสารและระบบไฟฟ้าลงดินโดยเริ่ มจากย่านธุรกิจ ชุมชนใจกลางเมืองที่มี ประชาชนอาศัยหนาแน่น
ส่วน 6 ข้อแนะนำลดความเสี่ ยงสำหรับประชาชน ที่อยู่ใกล้กั บหม้อแปลงไฟฟ้า มีดังนี้
1. ควรปิดประตู หน้าต่าง ด้านที่อยู่ติดกับหม้อแปลงไฟฟ้า และติดตั้งวัสดุป้องกันไฟไหม้
2. อาคารร้านค้าควรติดตั้ งระบบดับเพลิงที่ใช้สารเคมีที่ ใช้ดับไฟจากไฟฟ้าที่ได้ มาตรฐานและตรวจสอบความพร้อมใช้ งานเสมอ
3. ห มั่นสังเกตหม้อแปลงไฟฟ้ าหากมีความผิดปกติ หรือควันลอยออกจากหม้อแปลงไฟฟ้า ให้แจ้งการไฟฟ้าด่วน
4. ไม่ควรทำกิจกรรมหรื อจอดรถใกล้กับบริเวณที่มีหม้ อแปลงไฟฟ้า
5. จัดอบรมและซักซ้ อมการอพยพหนีไฟในชุมชนอย่างสม่ำ เสมอ เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก ปฏิบัติถูกต้อง และลดการสูญเสีย
6. เจ้าของอาคารบ้านเรื อนควรพิจารณากรมธรรม์ประกันอั คคีภัยเพื่อคุ้มครองเหตุอั นคาดไม่ถึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น