“ปลัดพาณิชย์” เป็นประธานในการลงนาม MOU ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับจังหวัดวากายามะ ญี่ปุ่น เพื่อสร้างเครือข่ายในการส่งเสริมและพัฒนา SMEs ร่วมกัน มั่นใจช่วยผลักดัน SMEs ไทยมีโอกาสเปิดตัวออกสู่ตลาดโลก และขยายตลาดเมืองรองญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้น
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำโครงการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น ว่า วันที่ 28 พ.ค.2562 นายโยชิโนบุ นิซากะ (Mr. Yoshinobu NISAKA) ผู้ว่าราชการจังหวัดวากายามะ ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมมือกันในการสร้างเครือข่าย ส่งเสริมและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของผู้ประกอบการ SMEs ระหว่างกัน และยังเป็นการช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ของไทย ให้สามารถเปิดตัวสินค้าและบริการท้องถิ่นขยายสู่ตลาดตามนโยบายผลักดันสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดโลก (Local to Global)
ทั้งนี้ จังหวัดวากายามะ เป็นจังหวัดที่มีความแข็งแกร่งในด้านการผลิตสำคัญ ได้แก่ ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ เหล็ก เครื่องจักรกลและอาหาร มีสัดส่วนของ SMEs ในระดับสูง โดยกลุ่ม SMEs หลัก ได้แก่ เครื่องหนัง สิ่งทอ ของใช้ในครัวเรือน เครื่องเขิน เฟอร์นิเจอร์ สินค้าอาหารแปรรูป เป็นต้น โดยความร่วมมือที่เกิดขึ้น จะเป็นเวทีที่จะช่วยเสริมสร้างและเพิ่มความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ของทั้งสองฝ่าย เพราะจังหวัดวากายามะมีโยบายในการส่งเสริมให้ SMEs ดำเนินธุรกิจและขยายธุรกิจออกสู่ต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งสร้างโอกาสในการส่งออกให้กับ SMEs ตามนโยบายการ Local to Global
“การจัดทำ MOU ในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีการลงนามร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นระดับจังหวัดของญี่ปุ่น นอกเหนือจากการลงนาม MOU ร่วมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา และยังสอดคล้องกับนโยบายของกรมฯ ที่มุ่งขยายตลาดเมืองรอง โดยมั่นใจว่าหลังจากลงนาม MOU กันแล้ว จะทำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือในการพัฒนา SMEs ร่วมกันได้ และใช้จุดแข็งที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ในการขับเคลื่อน SMEs ออกสู่ตลาดโลก”นายบุณยฤทธิ์กล่าว
สำหรับจุดแข็งของจังหวัดวากายามะ เป็นพื้นที่ผลิตเครื่องหนังที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น นอกเหนือจากกรุงโตเกียวและจังหวัดเฮียวโงะ และยังเป็นจังหวัดที่มีจุดแข็งในด้านการเกษตรและอาหาร มีสินค้าเกษตรที่ประสบความสำเร็จ เช่น ส้มแมนดาริน และจังหวัดวากายามะยังได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ของตนเองออกไปทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น ผู้ประกอบการจากสมาคมเครื่องหนังจังหวัดวากายามะ (Wakayama Tanners Association) จำนวน 9 บริษัท ได้ร่วมแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้า STYLE ระหว่างวันที่ 17-21 ต.ค.2561 และยังได้นำคณะผู้ประกอบการสินค้าอาหาร จำนวน 5 บริษัทเข้าร่วมออกคูหาในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX 2019 ที่กำลังจัดขึ้นด้วย
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำโครงการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น ว่า วันที่ 28 พ.ค.2562 นายโยชิโนบุ นิซากะ (Mr. Yoshinobu NISAKA) ผู้ว่าราชการจังหวัดวากายามะ ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมมือกันในการสร้างเครือข่าย ส่งเสริมและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของผู้ประกอบการ SMEs ระหว่างกัน และยังเป็นการช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ของไทย ให้สามารถเปิดตัวสินค้าและบริการท้องถิ่นขยายสู่ตลาดตามนโยบายผลักดันสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดโลก (Local to Global)
ทั้งนี้ จังหวัดวากายามะ เป็นจังหวัดที่มีความแข็งแกร่งในด้านการผลิตสำคัญ ได้แก่ ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ เหล็ก เครื่องจักรกลและอาหาร มีสัดส่วนของ SMEs ในระดับสูง โดยกลุ่ม SMEs หลัก ได้แก่ เครื่องหนัง สิ่งทอ ของใช้ในครัวเรือน เครื่องเขิน เฟอร์นิเจอร์ สินค้าอาหารแปรรูป เป็นต้น โดยความร่วมมือที่เกิดขึ้น จะเป็นเวทีที่จะช่วยเสริมสร้างและเพิ่มความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ของทั้งสองฝ่าย เพราะจังหวัดวากายามะมีโยบายในการส่งเสริมให้ SMEs ดำเนินธุรกิจและขยายธุรกิจออกสู่ต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งสร้างโอกาสในการส่งออกให้กับ SMEs ตามนโยบายการ Local to Global
“การจัดทำ MOU ในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีการลงนามร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นระดับจังหวัดของญี่ปุ่น นอกเหนือจากการลงนาม MOU ร่วมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา และยังสอดคล้องกับนโยบายของกรมฯ ที่มุ่งขยายตลาดเมืองรอง โดยมั่นใจว่าหลังจากลงนาม MOU กันแล้ว จะทำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือในการพัฒนา SMEs ร่วมกันได้ และใช้จุดแข็งที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ในการขับเคลื่อน SMEs ออกสู่ตลาดโลก”นายบุณยฤทธิ์กล่าว
สำหรับจุดแข็งของจังหวัดวากายามะ เป็นพื้นที่ผลิตเครื่องหนังที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น นอกเหนือจากกรุงโตเกียวและจังหวัดเฮียวโงะ และยังเป็นจังหวัดที่มีจุดแข็งในด้านการเกษตรและอาหาร มีสินค้าเกษตรที่ประสบความสำเร็จ เช่น ส้มแมนดาริน และจังหวัดวากายามะยังได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ของตนเองออกไปทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น ผู้ประกอบการจากสมาคมเครื่องหนังจังหวัดวากายามะ (Wakayama Tanners Association) จำนวน 9 บริษัท ได้ร่วมแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้า STYLE ระหว่างวันที่ 17-21 ต.ค.2561 และยังได้นำคณะผู้ประกอบการสินค้าอาหาร จำนวน 5 บริษัทเข้าร่วมออกคูหาในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX 2019 ที่กำลังจัดขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น