นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทผลิตไฟฟ้า หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า “โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูราของบริษัท ซาน บัวนาเวนทูรา เพาเวอร์ซึ่งเอ็กโก ถือหุ้น 49% และเมอราลโค พาวเวอร์เจนคอร์เปอเรชั่น ถือหุ้น 51% เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เอ็กโกอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ของปี 2562 เป็นต้นไปและช่วยเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าบนเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์อีกด้วย
โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา ตั้งอยู่บนพื้นที่ติดกับโรงไฟฟ้าเคซอน ในเมืองเมาบันจังหวัดเคซอน ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เทคโนโลยีแบบ Supercriticalซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและ มีประสิทธิภาพสูง ช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีกำลังการผลิตติดตั้งจำนวน 500 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตตามสัญญาจำหน่ายไฟฟ้ากับมะนิลาอิเล็กทริก คัมปานี จำนวน 455 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยสามารถขยายอายุสัญญาเพิ่มได้อีก 5 ปี
นายจักษ์กริชกล่าวว่า จากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา ส่งผลให้ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 27 แห่ง คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,315 เมกะวัตต์ ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 331 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท ทั้งก๊าซธรรมชาติแอลเอ็นจี ถ่านหิน ชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเซลล์เชื้อเพลิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น