สากล เอนเนอยี (SKE) สถานีเสร็จพร้อมจำหน่าย ปรับแผนกลยุทธ์เตรียมขายก๊าซ CBG ให้ ปตท. ทั้ง 100% พร้อมขยายกำลังการผลิต เจาะกลุ่มจังหวัดอีสานใต้ มั่นใจเปิดใช้บริการธันวานี้ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สากล เอนเนอยี (SKE) สถานีเสร็จพร้อมจำหน่าย ปรับแผนกลยุทธ์เตรียมขายก๊าซ CBG ให้ ปตท. ทั้ง 100% พร้อมขยายกำลังการผลิต เจาะกลุ่มจังหวัดอีสานใต้ มั่นใจเปิดใช้บริการธันวานี้

สากล เอนเนอยี (SKE) สถานีเสร็จพร้อมจำหน่าย ปรับแผนกลยุทธ์เตรียมขายก๊าซ CBให้ ปตท. ทั้ง 100% 
พร้อมขยายกำลังการผลิต เจาะกลุ่มจังหวัดอีสานใต้ มั่นใจเปิดใช้บริการธันวานี้

          บริษัท สากล เอนเนอยี (จำกัดมหาชน หรือ “SKE” หนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ เตรียมขายสินค้าใหม่ก๊าซ CBG ให้กลุ่ม ปตท. คาดเซ็นสัญญาเร็วๆนี้ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อขยายตลาดสถานีบริการ NGVย่านอีสานใต้ เพิ่มรายได้โตกว่า 15%


            นายชัชชัย  สุเมธโชติเมธา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ;SKE กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมผลิตก๊าซ CBG ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัท และเตรียมทำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับ กลุ่มปตท. ทั้ง 100% ของกำลังการผลิตคือ9,000 กิโลกรัมต่อวัน ( 9 ตันต่อวัน) ซึ่งถ้าคิดเป็นปี จะสามารถผลิตก๊าซ NGV ได้ประมาณ 3,285,000กิโลกรัมต่อปี ( 3,285 ตันต่อปี) เพื่อสร้างความมั่นคงของธุรกิจ ซึ่งการขายก๊าซ CBG กับ กลุ่มปตทเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากเดิมที่จะเน้นการขายปลีกให้กับลูกค้ารายย่อย เป็นการขายส่งให้กับกลุ่มปตท เนื่องจาก กลุ่มปตท เป็นทั้งพันธมิตรธุรกิจที่สำคัญและเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงาน อันดับหนึ่งของประเทศ ที่มีความมั่นคงทางธุรกิจสูงสุด และ บริษัทฯมีโอกาสที่จะเพิ่มรายได้อย่างชัดเจน และสำหรับกลุ่มปตทการซื้อก๊าซ CBG จาก SKE จะสามารถช่วยกลุ่ม ปตท. ลดต้นทุนในการขนส่ง และเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรในธุรกิจ NGV จึงทำให้การธุรกิจร่วมกันเป็น WIN WIN สำหรับทั้ง 2 บริษัท 

ในอนาคตอันใกล้ บริษัทฯเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซ CBG เพื่อเจาะกลุ่มสถานีบริการก๊าซ NGVในเขตภาคอีสานใต้ อาทิ บุรีรัมย์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เป็นต้น ทางบริษัทฯได้เปิดให้บริการ CBG ล่าช้า เนื่องจากระบบก๊าซ CBG ที่ทางบริษัทฯทำออกมาได้มีคุณภาพที่ดี อยู่ที่ 92 -94% ซึ่งดีกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ประมาณ 85% ทำให้ทางบริษัทฯต้องมีการปรับปรุงก๊าซและตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถเปิดใช้บริการภายในเดือนธันวาคมนี้แน่นอน และจะเริ่มทำการขายก๊าซ CBG เต็มรูปแบบเดือนมกราคม 2562 

โดยการลงทุนในครั้งนี้ยังได้รับการอนุมัติเงินทุนสนับสนุนจากโครงการส่งเสริมการผลิตไบโอมีเทนอัด (CBG) ในสถานประกอบการที่มีระบบก๊าซชีวภาพจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นเงินจำนวน 12 ล้านบาทอีกด้วย ภายในต้นปี 2562 และ ยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ในเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร        

            สำหรับผลการดำเนินงาน เดือนแรก ปี 2561 สิ้นสุด 30 กันยายน 256บริษัทฯมีรายได้รวม 255.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 มีรายได้ 247.3 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการอัดก๊าซที่เพิ่มขึ้น และในงวดนี้บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 45.16 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ทั้งนี้ทางบริษัทฯยังสามารถรักษาโครงสร้างการเงินที่ดี โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ดีคือ 0.15 เท่า และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ประมาณ 40% และอัตรากำไรสุทธิที่ประมาณ 18% 

นายชัชชัย กล่าวเสริมว่า “ ทางบริษัทฯ คาดว่าปีหน้า บริษัทฯมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น จากธุรกิจหลัก ในการบริการอัดก๊าซ NGV ซึ่งขยายตัวตามภาคขนส่งและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามโครงการ EEC และการลงทุนภาคอุตสาหกรรม และเนื่องจากการขายก๊าซ CBG ให้กับปตท. 100% เพื่อสร้างศักยภาพที่ดีให้แก่บริษัทฯ และการเติบโตที่ยั่งยืนในธุรกิจพลังงาน แม้ปัจจุบันจะได้รับผลกระทบบ้างจากการเปิดใช้ท่อก๊าซเส้นใหม่ของกลุ่มปตทขณะที่ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงทำให้ก๊าซ NGV ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักของภาคขนส่งขนาดใหญ่ ทางบริษัทฯเชื่อมั่นว่าจะมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีในปีหน้า”

SKE มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจด้านพลังงานอย่างครบวงจร ซึ่งธุรกิจหลัก คือ ประกอบธุรกิจบริการอัดก๊าซ NGV ให้รถขนส่งก๊าซธรรมชาติของ บริษัท ปตทจำกัด ซึ่งปัจจุบันมีสถานีก๊าซธรรมชาติของบริษัท สถานี คือ 1) สถานีก๊าซธรรมชาติหลักปทุมธานี 2) สถานีก๊าซธรรมชาติหลักสระบุรี ซึ่งมีกำลังการอัดก๊าซสูงถึง 75ตัน/วัน บริษัทฯมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคงและมีรายได้สม่ำเสมอมาโดยตลอดและรักษาปริมาณการอัดก๊าซธรรมชาติมากกว่าปริมาณขั้นต่ำตามสัญญาธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักเอกชนที่ทำกับกลุ่มปตท.ซึ่งมีระยะเวลาสัญญานานถึง 20 ปี จะทำให้บริษัทฯมีผลประกอบการที่ขยายตัวอย่างมีนัยยะและบริษัทฯมีพื้นฐานดีและการบริหารต้นทุนที่ดี เชื่อว่าตั้งแต่ไตรมาส เป็นต้นไปจะมีรายได้ กำไรที่ดีขึ้น และผลตอบแทน แก่ผู้ถือหุ้นที่เติบโตอย่างมั่นคง 
                      
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad