เที่ยวบนความหลากหลาย...แบบสไตล์ LGBTQIA+ชาว LGBTQIA+
เป็นอีกกลุ่มที่หลงใหลการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งการใส่ใจและเข้าใจความหลากหลายอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้
ความโดดเด่นของเหล่า LGBTQIA+ ส่วนหนึ่งของเบื้องหลังการสร้างสีสันและความหลากหลายให้ภาคการท่องเที่ยว โดยจากผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคไทยเกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ (EIC Consumer survey 2565) ในช่วงวันที่ 8 – 22 กรกฎาคม 2022 พบว่า ชาว LGBTQIA+ เป็นอีกกลุ่มที่หลงใหลการเดินทางท่องเที่ยว โดยราว 30% ท่องเที่ยวมากกว่า 5 ครั้งต่อปี ซึ่งการใส่ใจและเข้าใจความหลากหลายอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้ภาคการท่องเที่ยวในอนาคตได้
ดร.กมลมาลย์ แจ้งล้อม นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) พบว่า ความโดดเด่นของเหล่า LGBTQIA+ ส่วนหนึ่งของเบื้องหลังการสร้างสีสันและความหลากหลายให้ภาคการท่องเที่ยว โดยจากผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคไทยเกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ (EIC Consumer survey 2565) ในช่วงวันที่ 8 – 22 กรกฎาคม 2565 พบว่า ชาว LGBTQIA+ เป็นอีกกลุ่มที่หลงใหลการเดินทางท่องเที่ยว โดยราว 30% ท่องเที่ยวมากกว่า 5 ครั้งต่อปี ซึ่งการใส่ใจและเข้าใจความหลากหลายอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้ภาคการท่องเที่ยวในอนาคตได้
เที่ยวสไตล์ LGBTQIA+ ยืนหนึ่งไม่ซ้ำใคร...ถ้าไม่ปังก็ไม่ไป
- ทริปท่องเที่ยวส่วนใหญ่เน้นทริปสั้นไปกับแก๊งเพื่อนหรือจูงมือเที่ยวเป็นคู่ โดยราว 32% จะเดินทางกับกลุ่มเพื่อนและ 28% เดินทางเป็นคู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นจัดทริประยะสั้นเดินทาง 2-3 วันแต่ไปได้บ่อย ๆ ขณะที่กลุ่มเดินทางคนเดียวเป็นอีกกลุ่มที่น่าจับตาจากจำนวนที่มีสัดส่วนราว 26% รวมถึงระยะเวลาในการท่องเที่ยวที่ราว 40% จะจัดทริปยาว ๆ มากกว่า 4 วันขึ้นไป
- เดินทางสะดวก ที่พักสุดชิค แถมมีดีลพิเศษ : 3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกแหล่งท่องเที่ยว โดยที่พักที่มีสไตล์ ส่วนลดโปรโมชัน และแหล่งรวมคาเฟ่เก๋ ๆ จะเป็นปัจจัยที่ชาว LGBTQIA+ ให้ความสนใจมากกว่านักท่องเที่ยวโดยทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ชาว LGBTQIA+ ยังมีความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในธุรกิจการท่องเที่ยวมากกว่านักท่องเที่ยวโดยรวมอีกด้วย
- พักกาย พักใจเติมพลังให้กับตัวเองแล้วตะลุยกินของอร่อย ซึ่งกว่า 80% จะท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน อีกทั้ง ยังเน้นนั่งชิลในคาเฟ่ ตะเวนหาร้านอร่อย รวมถึงการเที่ยวไปทำงานไปมากกว่านักท่องเที่ยวโดยทั่วไป โดยการออกทริป
กับก๊วนเพื่อนราว 56% จะเป็นการเที่ยวสายมู ขอพรให้ปัง ขณะที่กลุ่มรักอิสระชอบเดินทางคนเดียวจะสนใจท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเข้าถึงวิถีคนท้องถิ่น - ที่พักสุดปังแบบ LGBTQIA+ ต้องใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย และตกแต่งอย่างมีสไตล์ โดยกว่า 44% จะให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ทันสมัย และราว 40% เน้นการตกแต่งของที่พักโดยเฉพาะทริปเดินทางเป็นคู่ อย่างไรก็ดี ทริปเดินทางคนเดียวและทริปกับครอบครัวส่วนใหญ่จะมองหาที่พักที่ตั้งใกล้แหล่งช้อปปิ้งหรือใจกลางเมืองเพื่อความสะดวกในการเดินทาง นอกจากนี้ ชาว LGBTQIA+ มากกว่า 40% จะเลือกพักโรงแรม 4-5 ดาว โดย 74% จะจองที่พักผ่านผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์เป็นหลัก
3 กลยุทธ์เพิ่มความเฟียร์สให้โดนใจชาว LGBTQIA+
- การนำเสนอแพ็กเกจเที่ยวกับแก๊งเพื่อนแบบ Exclusive ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซึ่งครอบคลุมทั้ง
ที่พักสุดชิคบรรยากาศเงียบสงบเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่และหลีกหนีความวุ่นวาย สอดแทรกไปด้วยกิจกรรมเบา ๆ อวดไลฟ์สไตล์ พร้อมอาหารมื้อพิเศษ และตบท้ายด้วยกิจกรรมความบันเทิงสายปาร์ตี้ในยามค่ำคืนแถมดีลพิเศษที่โดนใจจะสามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี - ความพร้อมด้านอุปกรณ์ที่ทันสมัยรับเทรนด์ Work from anywhere ซึ่งนักท่องเที่ยวเกือบครึ่งมองหาที่พักที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานสอดคล้องกับกระแสเที่ยวไปทำงานไป ซึ่งเป็นรูปแบบท่องเที่ยว
ที่ชาว LGBTQIA+ ให้ความสนใจมากกว่านักท่องเที่ยวโดยทั่วไปถึง 2 เท่า - การสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้น่าจดจำและดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เช่น การออกแบบที่พักและการตกแต่งที่มีสไตล์แตกต่าง รวมถึงการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล และโปรโมตข้อมูลดังกล่าวให้กับนักท่องเที่ยวผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น