EPเล็งผุด8โรงไฟฟ้าขยะที่สมุทรปราการ ชงขออนุมัติมหาดไทยรับแผนพีดีพี2018 - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2562

EPเล็งผุด8โรงไฟฟ้าขยะที่สมุทรปราการ ชงขออนุมัติมหาดไทยรับแผนพีดีพี2018

EPเล็งผุด8โรงไฟฟ้าขยะที่สมุทรปราการ ชงขออนุมัติมหาดไทยรับแผนพีดีพี2018




“อีสเทิร์น เอเนอร์จี้ พลัส”สบช่องกพช.อนุมัติแผนPDP2018 ชงตั้งโรงไฟฟ้าขยะชุมชน8โรงในพื้นที่สมุทรปราการต่อกระทรวงมหาดไทย มูลค่าการลงทุนหมื่นล้านบาท วาดฝันเซ็นสัญญาPPAในไตรมาส2-3นี้
นายคณพศ นิจสิริภัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอีสเทิร์น เอเนอร์จี้ พลัส จำกัดหรือEEP เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนที่จะลงทุนโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะชุมชนแบบRDFเพิ่มเติมอีก 8โรงที่แพรกษา จังหวัดสมุทรปราการจากปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะที่ดำเนินการอยู่แล้ว1โรง กำลังผลิตไฟฟ้า 9.9เมกะวัตต์ในพื้นที่แพรกษาใหม่ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อกำจัดขยะใหม่และขยะฝังกลบเดิม ในจังหวัดสมุทรปราการ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนโรงละ 1,250ล้านบาท หรือรวม 1 หมื่นล้านบาท



ทั้งนี้ บริษัทได้ยื่นเรื่องขอความเห็นชอบดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะชุมชนแบบRDF 3โรงๆละ9.9เมกะวัตต์ต่อกระทรวงมหาดไทยไปก่อนหน้านี้ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว ส่วนโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะชุมชนอีก5 โรงแบ่งเป็นโรงละ9.9เมกะวัตต์จำนวน3โรงและอีก2โรงมีขนาด3เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินเพื่อยื่นขอต่อกระทรวงมหาดไทย เมื่อได้รับการอนุมัติ ทางมหาดไทยจะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะต่อไป โดยบริษัทประเมินว่าทั้ง8 โครงการน่าจะทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)ได้ในไตรมาส 2-3นี้ และใช้เวลาก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะประมาณ 1.6-2ปี ก็จ่ายไฟเชิงพาณิชย์(COD)ได้
“บริษัทมีปริมาณขยะเพียงพอที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะได้ 130เมกะวัตต์ เนื่องจากมีปริมาณขยะฝังกลบในสต็อก10ล้านตัน และขยะใหม่อีกวันละ4พันตัน ซึ่งบริษัทได้ลงทุนโรงไฟฟ้าขยะชุมชนขนาด9.9เมกะวัตต์แล้ว1โรงที่แพรกษาใหม่ สามารถกำจัดขยะได้เพียง 500ตัน/วัน หากบริษัทจะลงทุนให้ครบเฟส จะต้องลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ 10กว่าโรง ใช้เงินรวมทั้งสิ้นราว2หมื่นล้านบาท (มีการลงทุนไปแล้ว7-8พันล้านบาท)แต่ปีนี้จะลงทุนมากน้อยแค่ไหนขึ้นกับสัญญาPPAที่จะได้รับ“
นายคณพศ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯยังมีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะแบบRDFขนาด 6.5 เมกะวัตต์ที่จังหวัดอยุธยา ซึ่งบริษัทถือหุ้นใหญ่ โดยโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการมีความพร้อมสามารถดำเนินการในระยะแรก (Quick Win Projects) ขณะนี้โครงการอยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง และคาดว่าลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวงได้ในในปลายไตรมาส1/2562 
สำหรับแหล่งเงินทุนโครงการโรงไฟฟ้าขยะทั้ง8โรงบริษัทจะดำเนินการกู้ยืมจากสถาบันการเงินราว70%ของมูลค่าโครงการ ส่วนที่เหลืออีก30%เป็นส่วนทุน ก็จะออกตราสารหนี้หรือเพิ่มทุนจดทะเบียน รวมทั้งหาพันธมิตรใหม่เข้าร่วมทุนด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะนำEEPเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อนำเงินมาชำระคืนหนี้และลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต โดยมีบล.เอเซียพลัสเป็นที่ปรึกษาการเงิน
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่24 ม.ค.ที่ผ่านมา กพช.ได้มีมติเห็นชอบแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP 2018) ซึ่งภายใต้แผนจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้นถึงปี 2580 ไว้ที่ 77,211 เมกะวัตต์ โดยในสัดส่วนนี้จะเป็นกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ช่วงปี 2561-80 ทั้งสิ้น 56,431 เมกะวัตต์ แยกเป็นโรงไฟฟ้าหมุนเวียน 20,766 เมกะวัตต์ซึ่งจะมีโรงไฟฟ้าตามนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐช่วงปี 2561-80 ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชนเพิ่มขึ้นอีก 400 เมกะวัตต์จากเดิม 500 เมกะวัตต์รวมเป็น 900 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 120 เมกะวัตต์

โดยกพช.ได้เห็นชอบเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากขยะเพิ่มขึ้นอีก 400 เมกะวัตต์เพื่อให้มากพอที่จะกำจัดขยะได้ทั่วประเทศตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีการศึกษาร่วมกับกระทรวงพลังงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad