“พาณิชย์”ใช้จังหวะเป็นประธานอาเซียน ผลักดันสมาชิกใช้ e-Form D ขับเคลื่อนการค้า - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562

“พาณิชย์”ใช้จังหวะเป็นประธานอาเซียน ผลักดันสมาชิกใช้ e-Form D ขับเคลื่อนการค้า

“พาณิชย์”ใช้จังหวะเป็นประธานอาเซียน ผลักดันสมาชิกใช้ e-Form D ขับเคลื่อนการค้า


img
กรมการค้าต่างประเทศใช้โอกาสช่วงไทยเป็นประธานอาเซียนปี 62 ผลักดันให้สมาชิกอาเซียนใช้ e-Form D ASW ครอบคลุมทุกประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขาย หลังล่าสุดมี 4 ประเทศใช้แล้ว กำลังทดสอบการส่งข้อมูลกับบรูไน ทดสอบระบบกับฟิลิปปินส์และกัมพูชา เผยจะผลักดันให้อาเซียนทำโครงการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองให้สำเร็จด้วย
        
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 กรมฯ มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ประเทศอาเซียนนำระบบการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้ระบบ ASEAN Single Window (ASW) หรือที่เรียกว่า e-Form D ASW มาใช้ให้ครอบคลุมทุกประเทศอาเซียน หลังจากที่ปัจจุบันได้ใช้กับสมาชิกนำร่อง 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซียและเวียดนาม โดยอยู่ระหว่างการทดสอบการส่งข้อมูล e-Form D กับประเทศบรูไน และเริ่มทดสอบกับประเทศฟิลิปปินส์ และกัมพูชาในลำดับถัดไป ส่วนอีก 2 ประเทศที่เหลือ คือ สปป.ลาว และเมียนมา กรมฯ จะเข้าไปช่วยเหลือพัฒนาระบบและหาทางเชื่อมต่อไป

"ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า e-Form D ด้วยระบบDigital Signature แบบ 100% โดยผู้ประกอบการแค่ยื่นคำขอผ่านทางออนไลน์มาที่กรมฯ และกรมฯ ก็จะส่ง e-Form D ไปยังศุลกากรประเทศปลายทางเลย ซึ่งได้ทำการเชื่อมระบบกับสมาชิกนำร่อง 4 ประเทศ ภายใต้ระบบ e-Form D ASW แล้ว และมีเป้าหมายจะผลักดันให้อาเซียนที่เหลือเร่งเชื่อมโยงระบบ เพราะหากเชื่อมโยงกันได้หมด จะทำให้การค้าขายในอาเซียนมีความคล่องตัว และเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันได้เพิ่มขึ้น"นายอดุลย์กล่าว

สำหรับปริมาณการออก e-Form D ASW ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.-21 ธ.ค.2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 39,447 ฉบับ คิดเป็นสัดส่วน 81.86% เทียบกับการออก e-Form D ทั้งหมด 48,190 ฉบับ

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เร่งปรับปรุงตารางพิกัดศุลกากรการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าสำหรับ Form D ในระบบการให้บริการให้สอดคล้องกับตารางการลดภาษี (Tariff Reduction Schedules : TRSs) ที่ปรับปรุงจากตาราง HS 2012 เป็น HS 2017 สำหรับประเทศที่ได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการดำเนินพิธีการศุลกากร ณ ประเทศปลายทาง

ขณะเดียวกัน จะผลักดันให้สมาชิกอาเซียนแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Operational Certification Procedure : OCP) ภายใต้โครงการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน หรือ ASEAN-Wide Self-Certification System (AWSC) ให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 เนื่องจากการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองในอาเซียนจะเป็นการสร้างกลไกการเคลื่อนย้ายผลผลิตภายในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างเสรี ทำให้ช่วยประหยัดเวลาและลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการส่งออก อันจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดอาเซียน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้การค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจจะเรียนรู้ระบบ กรมฯ มีกำหนดจัดอบรมหลักสูตร "การคำนวณต้นทุนเพื่อขอใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า" ในวันที่ 19 ม.ค.2562 ณ ห้องอบรมคอมพิวเตอร์ ชั้น 3 อาคารสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร วิธีการคำนวณถิ่นกำเนิดสินค้า และขั้นตอนการยื่นขอตรวจถิ่นกำเนิดสินค้า รวมถึงวิธีการกรอกข้อมูลเพื่อขอตรวจคุณสมบัติทางด้านถิ่นกำเนิดสินค้าด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad