วสท. รวมพลังวิศวกรอาสา...ลงพื้นที่น้ำ ท่วมเชียงรายและน่าน 12-14 สค.นี้
ตรวจสภาพอาคารบ้านเรือน
ผลจากพายุซินลากูที่เคลื่ อนเข้าถล่มเมื่อต้นเดือน ส.ค. ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ ของประเทศไทย วิศวกรรมสถานแห่ งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำโดย ดร.ธเนศ วีรศิริ นายก วสท. พร้อมทั้งเครือข่ายพันธมิตร ได้แก่ วสท.สาขาภาคเหนือ 1, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลล้านนา เชียงราย, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชี ยงราย และสมาคมยักษ์ขาว ดำเนินแผนงานโครงการ วิ ศวกรไทยรวมใจช่วยประชาชน ผู้ประสบภัยน้ำท่วมแบ่งเป็น 2 แผนงาน คือ1. เปิดรับบริจาคสิ่งของอุปโภคบริ โภคที่จำเป็นในการดำรงชีพ เพื่อส่งมอบให้กับประชาชนในพื้ นที่ได้รับผลกระทบ ผู้มีความประสงค์จะร่ วมสามารถบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้ - 20 สิงหาคม 2563 และแผนที่ 2. รวมพลังวิศวกรอาสาลงพื้นที่หลั งน้ำลด 12 – 14 สิงหาคม 2563 จังหวัดน่าน และจังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจสอบโครงสร้ างและสภาพของสะพาน ถนน และอาคารบ้านเรือนประชาชน
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพร ะบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า ด้วยอิทธิพลจากพายุซินลากูตั้ งแต่ต้นเดือน ส.ค. 63 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก วาตภัย ดินโคลนถล่ม ดินสไลด์ และถนนถูกตัดขาดในหลายพื้นที่ ข้อมูลจากกรมป้องกั นและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ) ช่วงที่มีผลกระทบสูงสุดในวันที่ 7 ส.ค. 63 รายงานเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ ดินถล่ม ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน สร้างผลกระทบต่อบ้านเรือนรวมกว่ า 22,800 หลังคาเรือน โดยจังหวัดที่ได้รับความเสี ยหายมาก คือ เชียงราย, ลำปาง, พะเยา, เลย, น่าน, พิษณุโลก เป็นต้น ล่าสุดขณะนี้สถานการณ์น้ำหลายพื้ นที่ในประเทศไทยได้เริ่มลดลงแล้ ว แต่ประชาชนยังคงมีความกังวลด้ านผลกระทบหลังจากน้ำลด โดยเฉพาะความมั่นคงแข็ งแรงของโครงสร้างบ้านอาคาร ระบบไฟฟ้า ระบบประปา และระบบสาธารณูปโภคที่ได้รั บความเสียหายจากอุทกภัย รวมถึงถนนทรุดตัวสะพานขาด และดิ นสไลด์ต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องได้ รับการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ วสท.ได้ระดมทีมวิศวกรอาสาลงพื้ นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนหลั งน้ำลด ในวันที่ 12 -14 สิงหาคม 2563 ในจังหวัดเชียงรายและน่าน โดยนำทีมวิศวกรอาสาผู้เชี่ ยวชาญตรวจสอบความเสี ยหายของอาคาร บ้านเรือน โรงเรียน วัด และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ พร้อมให้คำแนะนำทางด้านวิ ศวกรรมแก่หน่ วยงานราชการและประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและฟื้ นฟูให้คืนกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ ง
นายก วสท. กล่าวในตอนท้ายว่า แม้ว่าพายุ “ซินลากู” ได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรื อนประชาชนมากมาย แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้เขื่ อนหลายแห่งสามารถกักเก็บน้ำได้ เพิ่มมากขึ้นสำหรับใช้ประโยชน์ อาทิ เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 400 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 214 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนแควน้ อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 7 ล้านลู กบาศก์เมตร, เขื่อนกิ่วคอหมา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 43 ล้านลู กบาศก์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามในช่วงฤดูมรสุม ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ต้องเตรียมตัวรับมือตามที่กรมอุ ตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนถึ งพายุระลอกใหม่อีก 2 ลูก ระหว่าง 15 ส.ค. - ก.ย. 63 นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น