ภาครัฐจับมือเอกชน หนุนกุ้งไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อม ขึ้นแท่นครองใจผู้บริโภคในสหรัฐ
กรมประมง ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ ไทย คณะพัฒนาระบบการผลิตสินค้ าและผลิตภัณฑ์ประมงไทย ผู้เลี้ยง และผู้ส่งออกกุ้ง ผนึกกำลังหนุนไทยเดินหน้าสู่ การทำฟาร์มกุ้งด้วยความรับผิ ดชอบอย่างยั่งยืนและใส่ใจสิ่ งแวดล้อม สร้างความมั่นใจผู้บริโภคทั่ วโลก
รายงานข่าวจากคณะพั ฒนาระบบการผลิตสินค้าและผลิตภั ณฑ์ประมงไทย(Thai Sustainable Fisheries Roundtable : TSFR) เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้ งขาวของไทยให้ความสำคัญกับการรั กษาสมดุลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีการปรับปรุงการผลิตตลอดห่ วงโซ่อุปทานตั้งแต่อาหารสัตว์ การปรับปรุงฟาร์ มและกระบวนการเลี้ยง การบริหารจัดการน้ำและพลังงาน เพื่อลดการปล่อยของเสียสู่ ธรรมชาติ โดยเฉพาะการผลิตอาหารสัตว์มี การใช้ปลาป่นที่มาจากการประมงที่ รับผิดชอบและได้รั บมาตรฐานสากลระดับโลก ขณะเดียวกันยังมีการพั ฒนาระบบการเลี้ยงเพื่อบำบัดน้ำ ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับภาครั ฐในการปรับปรุงการบริ หารการประมงให้มีประสิทธิ ภาพมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งควบคุมเครื่องมือจับปลา วิธีการจับปลา ตลอดจนการพัฒนาระบบติดตามเรื อประมง (Vessel Monitoring System : VMS) ให้สอดคล้องกับแนวทางการอนุรั กษ์ทรัพยากรทางทะเลด้วยความรั บผิดชอบที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีการรายงาน และมีการควบคุมเป็นอย่างดี หรือ Non-IUU (Non-Illegal Unreported Unregulated)
คณะพัฒนาระบบการผลิตสินค้ าและผลิตภัณฑ์ประมงไทย ก่อตั้งโดยสมาชิก 8 สมาคม ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสั ตว์น้ำและการส่งออก ได้ร่วมดำเนินโครงการพั ฒนาการประมงอย่างยั่งยืนตลอดห่ วงโซ่อุปทาน(Fishery Improvement Projects : FIPs) โดยมีวัตถุประสงค์ในการปรับปรุ งสภาวะการประมงและการปฏิบัติต่ างๆ ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่ าวไทยเพื่อความยั่งยืนสูงสุด โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิ ภาพการบริหารจั ดการและการทำประมงของไทยด้ วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โปร่งใส สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งห่ วงโซ่อุปทาน
การดำเนินกิจกรรมของคณะพั ฒนาระบบการผลิตสินค้าและผลิตภั ณฑ์ประมงไทย ร่วมกับกรมประมง ซึ่งเป็นภาคส่วนหลักที่สำคั ญในการสนับสนุนและผลักดันให้เกิ ดการปรับปรุงการทำประมงเพื่อให้ ได้วัตถุดิบในการผลิตอาหารกุ้ งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้ อมและถูกต้องกฎหมาย ควบคู่ไปกับการพั ฒนาระบบการทำฟาร์มกุ้งของไทยอย่ างต่อเนื่องเพื่อลดการปล่ อยของเสีย นอกจากจะช่วยให้การประมงไทยได้ รับการปลดใบเหลืองจากสหภาพยุ โรปแล้ว ยังส่งผลให้อุตสาหกรรมกุ้ งไทยได้รับการจัดอันดับล่าสุด จากโครงการ Seafood Watch ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มอนเทอเรย์เบย์ (Monterey Bay Aquarium Seafood Watchฎ) ของสหรัฐอเมริกา โดยได้รายงานผลการการประเมิ นการทำฟาร์มกุ้งในประเทศไทยว่ ามีความคืบหน้าและปรับปรุงได้ดี ขึ้นหลายด้านโดยเฉพาะการจั ดหาปลาป่นเพื่อนำไปผลิตเป็ นอาหารสัตว์และลดผลกระทบต่อชุ มชนได้คะแนนจากการประเมินดีกว่ าที่ผ่านมา ทำให้การประเมิ นในภาพรวมของไทยอยู่ในระดับสี เหลือง ซึ่งหมายถึงกุ้งขาวของไทยเป็ นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริ โภคในสหรัฐ
สำหรับ 8 สมาคม ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย สมาคมผู้ผลิตปลาป่นไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป
รายงานข่าวจากคณะพั ฒนาระบบการผลิตสินค้าและผลิตภั ณฑ์ประมงไทย เปิดเผยด้วยว่า คณะพัฒนาฯ มีเป้าหมายยกระดับสถานะกุ้ งไทยในสหรัฐให้อยู่ในระดับสีเขี ยว (Best Choices หรือ Green) ซึ่งเป็นกุ้งที่มาจากการบริ หารจัดการฟาร์มที่เป็นมิตรต่อสิ่ งแวดล้อม และต้องเป็นทางเลือกที่ดีที่สุ ดสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก
โครงการ Seafood Watch แนะนำการบริโภคกุ้งขาวให้ผู้บริ โภค 3 ระดับ คือ สีเขียว หมายถึงทางเลือกที่ดีที่สุ ดสำหรับการบริโภค เพราะมาจากการบริหารจัดการฟาร์ มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สีเหลือง หมายถึง แนะนำให้ซื้อเพราะให้ความสำคั ญกับการบริหารจัดการ การจับและการทำฟาร์ม และสีแดง หมายถึง หลีกเลี่ยงการซื้อ เพราะมาจากทำธุรกิจที่ทำลายสมดุ ลทางทะเลและสิ่งแวดล้อม
น.สพ.สุจินต์ ธรรมศาสตร์ประธานผู้บริหารฝ่ ายปฏิบัติการ ธุรกิจสัตว์น้ำ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ มีนโยบายและแนวทางการจัดหาวัตถุ ดิบอย่างยั่งยืน เพื่อให้การจัดหาปลาป่นเพื่อผลิ ตอาหารสัตว์น้ำของบริษัทฯ เป็นไปด้วยความรับผิดชอบ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้ อมและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯใช้ปลาป่นที่ ได้มาจากผลพลอยได้ จากโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ ปลาและเป็นปลาที่จับมาอย่างถู กต้องภายใต้มาตรฐานของ MarinTrust Standard Version 2.0 ซึ่งสอดคล้องกับ Code of Conduct for Responsible Fisheries ขององค์การอาหารและเกษตรแห่ งสหประชาชาติ (FAO)
นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่ มโครงการ FIPs เพื่อร่วมพัฒนาการประมงในอ่ าวไทยและทะเลอันดามัน ตลอดจนการร่วมมืออย่างต่อเนื่ องกับ MarinTrust ในการพัฒนาหลักเกณฑ์การประเมิ นการบริหารจั ดการประมงอวนลากสำหรับสัตว์น้ำ หลากหลายสายพันธุ์ (Mixed Trawl Fisheries) เพื่อนำร่องสร้ างมาตรฐานการประมงอย่างรับผิ ดชอบมาตรฐานแรกของโลก ที่ใช้ได้กับอาเซียนอย่ างเหมาะสม ซึ่งครอบคลุมการมีส่วนร่วมจากผู้ มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกั บห่วงโซ่อุปทาน เช่น ภาคเอกชน ภาครัฐบาล ภาคประชาสังคม
“ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของวั ตถุดิบเป็นหนึ่งในพื้นฐานการผลิ ตอาหารปลอดภัยอย่างยั่งยืน ตลอดจนดูแลรับผิดชอบการใช้ แรงงานตามกฎหมายไทยและหลักปฏิบั ติสากลและเป็นธรรม ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่ การผลิต” น.สพ. สุจินต์ กล่าว./
กรมประมง ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์
รายงานข่าวจากคณะพั
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับภาครั
คณะพัฒนาระบบการผลิตสินค้
การดำเนินกิจกรรมของคณะพั
สำหรับ 8 สมาคม ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย สมาคมผู้ผลิตปลาป่นไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป
รายงานข่าวจากคณะพั
โครงการ Seafood Watch แนะนำการบริโภคกุ้งขาวให้ผู้บริ
น.สพ.สุจินต์ ธรรมศาสตร์ประธานผู้บริหารฝ่
นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่
“ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของวั
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น