เมื่อ 24 ก.พ.62 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี เข้าตรวจความพร้อมของสนาม ลีโอ สเตเดี้ยม เพื่อประเมินตามกฎและระเบียบ เรื่องการใช้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ ภายหลังจากประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ การแข่งขันฟุตบอล "AFC U-23 Championship 2020" หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ.2563 เพื่อคัดเลือก 3 ชาติ เข้าไปเล่นในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป
โดยการตรวจสนามครั้งนี้ นำโดยเจ้าหน้าที่จาก เอเอฟซี ที่ประกอบไปด้วย ยู จิน โฮ ฝ่ายจัดการแข่งขัน (ทีมชาติ), เชลตัน กูลการนิ ฝ่ายสื่อและประชาสัมพันธ์, เชง ยิง ได ฝ่ายจัดการแข่งขัน (ทีมชาติ), คูมาราซัน ชันดราน ฝ่ายการตลาดและพาณิชย์, โมฮาหมัด ราซากีดิน บิน ราซาลลี ฝ่ายบริการทั่วไป,ฟาดฮิล อัซรี บิน อิสมาอิล ฝ่ายออกแบบสนาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
โดยการตรวจสนาม ลีโอ สเตเดี้ยม เจ้าหน้าที่เอเอฟซี ได้ทำการตรวจพื้นสนาม, ห้องทำงานสื่อมวลชน, ห้องแถลงข่าว, ตำแหน่งกล้องถ่ายทอดสด, ห้องพักนักกีฬา รวมไปถึงพื้นที่ มิกโซน โดย เอเอฟซี จะประชุมสรุปรายงานการตรวจสนามอีกครั้ง แล้วจะแจ้งผลประมาณเดือน เม.ย.นี้
โดยการตรวจสนามครั้งนี้ นำโดยเจ้าหน้าที่จาก เอเอฟซี ที่ประกอบไปด้วย ยู จิน โฮ ฝ่ายจัดการแข่งขัน (ทีมชาติ), เชลตัน กูลการนิ ฝ่ายสื่อและประชาสัมพันธ์, เชง ยิง ได ฝ่ายจัดการแข่งขัน (ทีมชาติ), คูมาราซัน ชันดราน ฝ่ายการตลาดและพาณิชย์, โมฮาหมัด ราซากีดิน บิน ราซาลลี ฝ่ายบริการทั่วไป,ฟาดฮิล อัซรี บิน อิสมาอิล ฝ่ายออกแบบสนาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
โดยการตรวจสนาม ลีโอ สเตเดี้ยม เจ้าหน้าที่เอเอฟซี ได้ทำการตรวจพื้นสนาม, ห้องทำงานสื่อมวลชน, ห้องแถลงข่าว, ตำแหน่งกล้องถ่ายทอดสด, ห้องพักนักกีฬา รวมไปถึงพื้นที่ มิกโซน โดย เอเอฟซี จะประชุมสรุปรายงานการตรวจสนามอีกครั้ง แล้วจะแจ้งผลประมาณเดือน เม.ย.นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น