นับถอยหลังโคอาลาสูญพันธุ์ ไฟป่าออสเตรเลียคร่าชีวิตโคอาล่าไปแล้วกว่าพันตัว
ผู้เชี่ยวชาญเผย ไฟป่าครั้งประวัติศาสตร์ที่ออสเตรเลียกำลังทำให้ทำให้โคอาล่า สัตว์ป่าสัญลักษณ์อีกชนิดของประเทศออสเตรเลีย จะต้องสูญสิ้นสายพันธุ์ในอีกไม่ช้า หลังจากโคอาล่ามากกว่า 1,000 ตัว ต้องตายในเปลวเพลิง พร้อมๆกับป่ายูคาลิปตัสถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันก็ถูกทำลายไปกว่า 80%
รายงานข่าวของสำนักข่าว Forbes โดย Trevor Nace อ้างอิงคำสัมภาษณ์ของ Deborah Tabart ประธานมูลนิธิ Australian Koala Foundation ที่เปิดเผยว่า วิกฤตไฟป่าครั้งใหญ่ในหลายรัฐทางภาคตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย ได้คร่าชีวิตโคอาล่าจำนวนมหาศาล ซ้ำยังทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมัน จนทำให้ประชากรโคอาล่าตกอยู่ในสภาวะสูญพันธุ์โดยปริยาย (functionally extinct)
กล่าวคือ จำนวนประชากรโคอาล่าได้ลดจำนวนลงจนถึงจุดที่ไม่อาจดำรงสายพันธุ์ได้ในธรรมชาติ เพราะถึงแม้ว่าโคอาล่าจำนวนหนึ่งอาจรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ หากแต่จำนวนโคอาล่าที่เหลือน้อยเกินไป ทำให้ประชากรที่เหลือขาดหลากหลายทางพันธุกรรม ซึ่งจะส่งผลให้โคอาล่ารุ่นต่อๆไปที่สืบสายพันธุ์จากประชากรที่เหลือประสบสภาวะเลือดชิด ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพและโรคต่างๆ จนไม่อาจดำรงสายพันธุ์อยู่ได้ และสูญพันธุ์ไปในที่สุด
รายงานยังระบุว่า จากสถานการณ์ภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของโคอาล่าที่น่าเป็นห่วงยิ่ง ทำให้ประชาชนชาวออสเตรเลียจำนวนมากส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองโคอาล่า ซึ่งร่างสร็จสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ปีพ.ศ. 2559 หากแต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาให้มีผลบังคับใช้
ร่างกฎหมายคุ้มครองโคอาล่าฉบับดังกล่าวอ้างอิงมาจาก กฎหมายคุ้มครองนกอินทรีหัวขาว ของสหรัฐอเมริกา โดยมีหลักการสำคัญคือในการอนุรักษ์ประชากรโคอาล่า ด้วยการป้องกันการลักลอบล่า และรักษาป่ายูคาลิปตัส ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่เฉพาะของพวกมัน
ในขณะเดียวกัน ประธานกรรมการบริหารองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ออสเตรเลีย (WWF-Australia) Dermot O’Gorman ได้ออกแถลงการณ์แสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ไฟป่าครั้งร้ายแรงนี้ โดอกล่าวว่า เหตุไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นโศกนาฎกรรมของประเทศ เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชน และระบบนิเวศอันเฉพาะตัวของออสเตรเลีย อันเป็นบ้านของสัตว์ป่าประจำถิ่นออสเตรเลียหลายชนิด ซ้ำร้าย ผลกระทบจากไฟป่ายังเสริมให้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change) รุนแรงยิ่งขึ้นอีกด้วย
“จากสถานการณ์ไฟป่าที่ยังคงโหมหนัก เราขอส่งกำลังใจไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า รวมถึงชายและหญิงผู้กล้าหาญที่ยังปฏิบัติหน้าที่กันอย่างแข็งขันเพื่อต่อสู้กับไฟป่า และเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลและประชาชนออสเตรเลียร่วมกันทำทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อดับไฟป่าครั้งนี้” O’Gorman กล่าว
จากข้อมูลของ WWF-Australia สถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลียยังคงสาหัส โดยเฉพาะในรัฐนิวเซาส์เวลส์ ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยสำคัญของโคอาล่าที่รู้จักกันในนาม สามเหลี่ยมโคอาล่า (Koala Triangle) อย่างไรก็ดี เปลวเพลิงจากไฟป่าได้ทำลายพื้นที่ป่าในเขตรัฐนิวเซาส์เวลส์ไปแล้วกว่า 1 ล้านเฮกตาร์ (ราว 6.25 ล้านไร่) คร่าชีวิตโคอาล่าไปมากกว่า 350 ตัว
WWF-Australia เปิดเผยว่า แม้ว่าก่อนที่ถิ่นอาศัยของโคอาล่าในรัฐนิวเซาส์เวลส์จะได้รับความเสียหายจากไฟป่า ประชากรโคอาล่าในพื้นที่สามเหลี่ยมโคอาล่าก็ตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อยู่แล้ว ด้วยภัยคุกคามจากการถูกรถชนตาย โรคระบาด และการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เป็นผลมาจากสภาวะโลกร้อน ดังนั้นผลกระทบจากไฟป่ารุนแรงในพื้นที่จึงยิ่งเพิ่มปัจจัยเร่งให้ประชากรโคอาล่าสูญสิ้นไปจากสามเหลี่ยมโคอาล่าในที่สุด
อนึ่ง ข้อมูลจากสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ระบุว่า ประชากรโคอาล่าทั่วโลกเหลืออยู่เพียงประมาณ 300,000 ตัวเท่านั้น และตัวเลขนี้กำลังลดลงเรื่อยๆ ด้วยปัจจัยคุกคามจากการทำลายป่าไม้ การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย อุบัติเหตุจากการโดนรถชน และภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
IUCN อธิบายเพิ่มเติมว่า ด้วยลักษณะพฤติกรรมของโคอาล่าที่จะอาศัยอยู่ในระบบนิเวศป่ายูคาลิปตัสเท่านั้น และกินใบยูคาลิปตัสซึ่งมีสารอาหารอยู่น้อยเป็นอาหารหลักเพียงอย่างเดียว ทำให้พวกมันมีความอ่อนไหวอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรงขึ้น เพราะถ้าหากสภาพภูมิอากาศโลกมีความแปรปรวนมากขึ้น ถิ่นอาศัยของโคอาล่าในออสเตรเลียตะวันออกจะยิ่งเผชิญกับภัยแล้งและไฟป่าบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่าการสะสมตัวของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลก ยังทำให้ใบยูคาลิสปตัสมีสารอาหารน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้โคอาล่าซึ่งกินใบยูคาลิปตัสเพียงอย่างเดียว ต้องประสบปัญหาทุพโภชนาการในที่สุด
ที่มา:GreenNews
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น