กรมพัฒน์ฯ จับมือสตาร์ทอัพเปิดแพลตฟอร์มค้นหาคนดูแลผู้สูงอายุ ทำความสะอาด ช่างซ่อม ร้านอาหาร สปา
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจับมือสตาร์ทอัพไทย Wongnai , Seekster , Fixzy , Gowabi สร้างแพลตฟอร์มค้นหาร้านค้า นำร่อง 5 ธุรกิจเป้าหมาย “บริการดูแลผู้สูงอายุ แม่บ้านทำความสะอาด บริการช่างซ่อมไฟฟ้า ประปา แอร์ ร้านอาหาร บริการสปา” คาดให้บริการได้เดือนเม.ย.นี้ มั่นใจตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชอบค้นหา เช็กอิน ได้รับบริการที่สะดวด รวดเร็ว ราคาโดนใจ แถมช่วยให้ SMEs ที่เข้าร่วมมีรายได้เพิ่มขึ้น
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จับมือกับธุรกิจสตาร์ทอัพสร้างแพลตฟอร์มค้นหารายชื่อร้านค้าและบริการเพื่อรุกตลาดธุรกิจบริการบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ภายใต้แคมเปญ “DBD Service X Startup : from Pain-Points to Campaign Solutions” โดยจะนำธุรกิจบริการ 5 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุ แม่บ้านทำความสะอาด บริการช่างซ่อมไฟฟ้า ประปา แอร์ และอื่นๆ ร้านอาหาร และบริการสปา ขึ้นไปไว้บนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมของธุรกิจสตาร์ทอัพ เช่น Wongnai , Seekster , Fixzy , Gowabi เป็นต้น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่กำลังค้นหาธุรกิจบริการ 5 ประเภทดังกล่าวข้างต้น โดยคาดว่า “แพลตฟอร์มค้นหาธุรกิจบริการ” จะเริ่มให้บริการได้ประมาณเดือนเม.ย.2562 นี้
สำหรับ 5 ธุรกิจบริการดังกล่าว จะเป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่ได้มาตรฐาน ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี มีทักษะและความเชี่ยวชาญ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการเบื้องต้นจากกรมฯ หรือได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน หรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ
“การเปิดให้บริการแพลตฟอร์มค้นหาธุรกิจบริการดังกล่าว เป็นการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบค้นหาธุรกิจบริการทางออนไลน์ หรือชอบไปเช็กอิน เมื่อเข้าไปใช้บริการ และยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์หรือรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี และมั่นใจว่าจะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพและราคาตรงตามความต้องการ สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และสามารถใช้บริการได้ใกล้บริเวณที่พักอาศัย”นายวุฒิไกรกล่าว
ทั้งนี้ ในการใช้บริการ ผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดแอพปลิเคชั่น หรือเข้าดูได้ทางเว็บไซต์ของธุรกิจสตาร์ทอัพ และค้นหาธุรกิจบริการได้ทันที ซึ่งระบบจะประมวลผลการค้นหาธุรกิจบริการที่ต้องการบริเวณใกล้บ้านหรือที่พักอาศัยของผู้บริโภคมากที่สุดโดยอัตโนมัติ ผู้บริโภคสามารถจองบริการล่วงหน้า สอบถามราคา และนัดแนะกับผู้ให้บริการได้โดยตรง รวมทั้งเลือกใช้บริการได้ทุกที่ทุกเวลา และเลือกผู้ให้บริการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลธรรมดาจะแสดงประวัติและสถานที่ติดต่ออย่างชัดเจนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความสบายใจแก่ผู้ใช้บริการ
นายวุฒิไกรกล่าวว่า การเปิดให้บริการดังกล่าว จะสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่าย คือ 1.ผู้ให้บริการทั้งที่เป็นนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา มียอดขายหรือยอดการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ 2.สตาร์ทอัพ ได้โชว์ศักยภาพการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ รวมถึงได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น และ 3.ผู้บริโภค หรือผู้ใช้บริการ สามารถค้นหาธุรกิจบริการที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ได้รับบริการที่ตรงใจในราคาที่ยอมรับได้ รวมทั้งสามารถใช้บริการได้ใกล้ที่พักอาศัย สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค.2562) ธุรกิจบริการที่ผ่านการส่งเสริมพัฒนาจากกรมฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 9,902 ราย แบ่งเป็น ธุรกิจร้านอาหาร 2,351 ราย (ร้อยละ 23.75) ธุรกิจสปาและนวด 2,035 ราย (ร้อยละ 20.56) ธุรกิจบริหารทรัพย์สิน 1,844 ราย (ร้อยละ 18.63) ธุรกิจบริการแม่บ้านทำความสะอาด 1,162 ราย (ร้อยละ 11.74) ธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุ 1,062 ราย (ร้อยละ 10.72) ธุรกิจซ่อมบำรุงรถยนต์ 533 ราย (ร้อยละ 5.38) ธุรกิจก่อสร้าง 419 ราย (ร้อยละ 4.23) ธุรกิจการบริการที่พัก 312 ราย (ร้อยละ 3.14) นักกายภาพบำบัด 121 ราย (ร้อยละ 1.22) และธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ 63 ราย (ร้อยละ 0.63) และช่างฝีมือประเภทต่างๆ ที่ผ่านการพัฒนาและได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จำนวนไม่น้อยกว่า 80,000 ราย
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จับมือกับธุรกิจสตาร์ทอัพสร้างแพลตฟอร์มค้นหารายชื่อร้านค้าและบริการเพื่อรุกตลาดธุรกิจบริการบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ภายใต้แคมเปญ “DBD Service X Startup : from Pain-Points to Campaign Solutions” โดยจะนำธุรกิจบริการ 5 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุ แม่บ้านทำความสะอาด บริการช่างซ่อมไฟฟ้า ประปา แอร์ และอื่นๆ ร้านอาหาร และบริการสปา ขึ้นไปไว้บนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมของธุรกิจสตาร์ทอัพ เช่น Wongnai , Seekster , Fixzy , Gowabi เป็นต้น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่กำลังค้นหาธุรกิจบริการ 5 ประเภทดังกล่าวข้างต้น โดยคาดว่า “แพลตฟอร์มค้นหาธุรกิจบริการ” จะเริ่มให้บริการได้ประมาณเดือนเม.ย.2562 นี้
สำหรับ 5 ธุรกิจบริการดังกล่าว จะเป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่ได้มาตรฐาน ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี มีทักษะและความเชี่ยวชาญ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการเบื้องต้นจากกรมฯ หรือได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน หรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ
“การเปิดให้บริการแพลตฟอร์มค้นหาธุรกิจบริการดังกล่าว เป็นการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบค้นหาธุรกิจบริการทางออนไลน์ หรือชอบไปเช็กอิน เมื่อเข้าไปใช้บริการ และยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์หรือรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี และมั่นใจว่าจะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพและราคาตรงตามความต้องการ สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และสามารถใช้บริการได้ใกล้บริเวณที่พักอาศัย”นายวุฒิไกรกล่าว
ทั้งนี้ ในการใช้บริการ ผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดแอพปลิเคชั่น หรือเข้าดูได้ทางเว็บไซต์ของธุรกิจสตาร์ทอัพ และค้นหาธุรกิจบริการได้ทันที ซึ่งระบบจะประมวลผลการค้นหาธุรกิจบริการที่ต้องการบริเวณใกล้บ้านหรือที่พักอาศัยของผู้บริโภคมากที่สุดโดยอัตโนมัติ ผู้บริโภคสามารถจองบริการล่วงหน้า สอบถามราคา และนัดแนะกับผู้ให้บริการได้โดยตรง รวมทั้งเลือกใช้บริการได้ทุกที่ทุกเวลา และเลือกผู้ให้บริการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลธรรมดาจะแสดงประวัติและสถานที่ติดต่ออย่างชัดเจนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความสบายใจแก่ผู้ใช้บริการ
นายวุฒิไกรกล่าวว่า การเปิดให้บริการดังกล่าว จะสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่าย คือ 1.ผู้ให้บริการทั้งที่เป็นนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา มียอดขายหรือยอดการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ 2.สตาร์ทอัพ ได้โชว์ศักยภาพการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ รวมถึงได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น และ 3.ผู้บริโภค หรือผู้ใช้บริการ สามารถค้นหาธุรกิจบริการที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ได้รับบริการที่ตรงใจในราคาที่ยอมรับได้ รวมทั้งสามารถใช้บริการได้ใกล้ที่พักอาศัย สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค.2562) ธุรกิจบริการที่ผ่านการส่งเสริมพัฒนาจากกรมฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 9,902 ราย แบ่งเป็น ธุรกิจร้านอาหาร 2,351 ราย (ร้อยละ 23.75) ธุรกิจสปาและนวด 2,035 ราย (ร้อยละ 20.56) ธุรกิจบริหารทรัพย์สิน 1,844 ราย (ร้อยละ 18.63) ธุรกิจบริการแม่บ้านทำความสะอาด 1,162 ราย (ร้อยละ 11.74) ธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุ 1,062 ราย (ร้อยละ 10.72) ธุรกิจซ่อมบำรุงรถยนต์ 533 ราย (ร้อยละ 5.38) ธุรกิจก่อสร้าง 419 ราย (ร้อยละ 4.23) ธุรกิจการบริการที่พัก 312 ราย (ร้อยละ 3.14) นักกายภาพบำบัด 121 ราย (ร้อยละ 1.22) และธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ 63 ราย (ร้อยละ 0.63) และช่างฝีมือประเภทต่างๆ ที่ผ่านการพัฒนาและได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จำนวนไม่น้อยกว่า 80,000 ราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น