ครม.เศรษฐกิจมอบ 3 กระทรวง วางแผนและหาลู่ทางให้สหรัฐฯ ทบทวนตัดจีเอสพีสินค้าไทย
ครม.เศรษฐกิจมอบ 3 กระทรวงหลัก “ต่างประเทศ-แรงงาน-พาณิชย์” ร่วมหารือและหาลู่ทางให้สหรัฐฯ ทบทวนการตัดสิทธิจีเอสพีสินค้าไทย ด้าน “จุรินทร์”มอบทูตพาณิชย์หาทางถกกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ พร้อมเดินหน้ามาตรการรับมือควบคู่ เล็งนำทีมรัฐและเอกชนลุยเจาะ 10 ตลาดทั่วโลก มีสหรัฐฯ เป็นเป้าหมายรวมอยู่ด้วย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) กรณีที่สหรัฐฯ จะตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สินค้าไทย ที่จะมีผลในอีก 6 เดือนข้างหน้า ว่า ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้ 3 กระทรวง ประกอบด้วยกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงพาณิชย์ ไปหารือร่วมกัน เพื่อหาลู่ทางในการยื่นขอให้สหรัฐฯ ทบทวนการตัดสิทธิจีเอสพสินค้าไทย
“เห็นว่ายังมีช่องทางให้สหรัฐฯ ได้ทบทวน โดยช่องทางที่จะทบทวน ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ประสานกับทูตไทยประจำกรุงวอชิงตันและทูตแรงงาน เพื่อที่จะหารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ซึ่งคงจะมีคำตอบกลับมาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปในเร็วๆ นี้”
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับทางออกในระยะยาว กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยตั้ง กรอ.พาณิชย์ (คณะกรรมการร่วมกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน) ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย โดยได้มีการเตรียมการสำหรับตลาดต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก ซึ่งได้ข้อสรุปแล้วว่าจะร่วมมือกับภาคเอกชนเร่งรัดการส่งออก โดยบุกตลาดใน 10 กลุ่มตลาดใหญ่ ที่มีสหรัฐฯ รวมอยู่ด้วย และมีจีน อินเดีย แอฟริกาใต้ เอเชียใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอีกหลายตลาด รวมทั้ง ตุรกี เยอรมัน และอังกฤษ
“ตอนนี้ได้เตรียมแผนงานไว้แล้ว เร็วๆ นี้ จะนำทีมเอกชนและกระทรวงพาณิชย์ไปบุกตลาดที่ตุรกี และเยอรมัน และหลังจากนั้น จะไปตะวันออกกลาง ส่วนประเทศที่มีประชากรมาก เช่น อินเดีย จีน สหรัฐฯ จะลงลึกไปในหลายมณฑล หรือรายรัฐ โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีแผนงานเจาะลึกรายรัฐ เพราะแต่ละรัฐจะมีความต้องการสินค้าแตกต่างกัน ซึ่งแม้ว่าไทยจะไม่ได้จีเอสพีแล้ว ก็จะดำเนินการขยายตลาดต่อไป”
สำหรับการชี้แจงต่อสหรัฐฯ ไทยจะชี้แจงให้สหรัฐฯ เกิดความเข้าใจว่าบางเรื่อง สามารถทำได้ แต่บางเรื่องทำไม่ได้ เช่น การให้ต่างด้าวตั้งสมาพันธ์แรงงานในประเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้พูดชี้แจงและทำความเข้าใจแล้วว่าไทยอยู่ในฐานะที่จะทำได้หรือไม่ได้อย่างไรไปแล้ว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) กรณีที่สหรัฐฯ จะตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สินค้าไทย ที่จะมีผลในอีก 6 เดือนข้างหน้า ว่า ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้ 3 กระทรวง ประกอบด้วยกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงพาณิชย์ ไปหารือร่วมกัน เพื่อหาลู่ทางในการยื่นขอให้สหรัฐฯ ทบทวนการตัดสิทธิจีเอสพสินค้าไทย
“เห็นว่ายังมีช่องทางให้สหรัฐฯ ได้ทบทวน โดยช่องทางที่จะทบทวน ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ประสานกับทูตไทยประจำกรุงวอชิงตันและทูตแรงงาน เพื่อที่จะหารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ซึ่งคงจะมีคำตอบกลับมาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปในเร็วๆ นี้”
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับทางออกในระยะยาว กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยตั้ง กรอ.พาณิชย์ (คณะกรรมการร่วมกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน) ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย โดยได้มีการเตรียมการสำหรับตลาดต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก ซึ่งได้ข้อสรุปแล้วว่าจะร่วมมือกับภาคเอกชนเร่งรัดการส่งออก โดยบุกตลาดใน 10 กลุ่มตลาดใหญ่ ที่มีสหรัฐฯ รวมอยู่ด้วย และมีจีน อินเดีย แอฟริกาใต้ เอเชียใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอีกหลายตลาด รวมทั้ง ตุรกี เยอรมัน และอังกฤษ
“ตอนนี้ได้เตรียมแผนงานไว้แล้ว เร็วๆ นี้ จะนำทีมเอกชนและกระทรวงพาณิชย์ไปบุกตลาดที่ตุรกี และเยอรมัน และหลังจากนั้น จะไปตะวันออกกลาง ส่วนประเทศที่มีประชากรมาก เช่น อินเดีย จีน สหรัฐฯ จะลงลึกไปในหลายมณฑล หรือรายรัฐ โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีแผนงานเจาะลึกรายรัฐ เพราะแต่ละรัฐจะมีความต้องการสินค้าแตกต่างกัน ซึ่งแม้ว่าไทยจะไม่ได้จีเอสพีแล้ว ก็จะดำเนินการขยายตลาดต่อไป”
สำหรับการชี้แจงต่อสหรัฐฯ ไทยจะชี้แจงให้สหรัฐฯ เกิดความเข้าใจว่าบางเรื่อง สามารถทำได้ แต่บางเรื่องทำไม่ได้ เช่น การให้ต่างด้าวตั้งสมาพันธ์แรงงานในประเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้พูดชี้แจงและทำความเข้าใจแล้วว่าไทยอยู่ในฐานะที่จะทำได้หรือไม่ได้อย่างไรไปแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น