องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เร่งขยายธุรกิจนมไทย-เดนมาร์ค ทั้งในและต่างประเทศ คาดปี 62 ตั้งเป้ารายได้รวม 10,500 ล้านบาท - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561

องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เร่งขยายธุรกิจนมไทย-เดนมาร์ค ทั้งในและต่างประเทศ คาดปี 62 ตั้งเป้ารายได้รวม 10,500 ล้านบาท


องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เร่งขยายธุรกิจนมไทย-เดนมาร์ค ทั้งในและต่างประเทศ คาดปี 62 ตั้งเป้ารายได้รวม 10,500 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นมไทย-เดนมาร์ค แลคโตสฟรี (Thai-Denmark Lactose Free) ปราศจากน้ำตาล ทั้งแบบนม ยู.เอช.ที. และนมพาสเจอร์ไรส์ รุกตลาดกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่แพ้น้ำตาลแลคโตสจากนมโค พร้อมเดินหน้าสร้างโรงงานนมแห่งใหม่ อ. ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต รองรับน้ำนมดิบจากเกษตรกรและอัตราการบริโภคนมทั้งภายในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น วางแผนเร่งทำพอร์ตขยายช่องทางธุรกิจในต่างประเทศ ได้แก่ สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา ตลอดจนการศึกษาตลาดผู้บริโภคนมในประเทศจีนและมาเลเซีย เพิ่มยอดการส่งออกผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค คาดปี 62 ตั้งเป้าส่งออกรายได้รวมที่ 1,350 ล้านบาท
Facebook
Twitter
Line
Comment
ปี 62 วัวแดงตั้งเป้าโกยรายได้หมื่นล้าน ปั้นนมไทย-เดนมาร์ค สู่ผู้นำตลาดนมอันดับหนึ่ง
ดร. ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่ อ.ส.ค. จะยึดปฏิบัติตามแผนวิสาหกิจ 4 ปี (2560-2564)
เพื่อไปสู่เป้าหมายรายได้ในปี 2564 ประมาณ 11,700 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวม ปี 2562 ไว้ที่ 10,500 ล้านบาท เพิ่มจากปีงบประมาณ 2561 ที่ทำได้ 9,560 ล้านบาท โดยในปี 62 อ.ส.ค. ได้เดินหน้าทำวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของตลาดในประเทศ นอกจากจะเน้นจำหน่ายนมพาณิชย์ในรูปแบบของนม ยู.เอช.ที. นมพาสเจอไรส์และผลิตภัณฑ์นมเย็นแล้ว ล่าสุด อ.ส.ค. ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค แลคโตสฟรี (Thai-Denmark Lactose Free) ปราศจากน้ำตาล เข้ามาทำตลาด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่แพ้น้ำตาลแลคโตสจากนมโค และมีภาวะการย่อยแลคโตสผิดปกติ (Lactose Intolerance) เพื่อแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆไปยังกลุ่มผู้บริโภค ทั้งนี้ในส่วนการผลิต ขณะนี้ อ.ส.ค. อยู่ระหว่างการพัฒนาและลงทุนการผลิต โดยเฉพาะที่โรงงานนม อ.ส.ค. จ.เชียงใหม่ ได้ลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท ในการรีโนเวทเครื่องจักรใหม่ เพื่อทำการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ คาดว่า จะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ส่วน โรงงานนม อ.ส.ค. จ.สุโขทัยอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมเย็น รวมทั้งเตรียมแผนก่อสร้างโรงงานนมแห่งใหม่ที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อรองรับน้ำนมดิบจากเกษตรกรในเขตภาคเหนือ และอัตราการบริโภคนมทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มผ่านร้านไทย-เดนมาร์ค มิลค์แลนด์ (Thai-Denmark Milk Land) จากเดิมมี 6 สาขา ได้แก่ สาขาที่ 1 โรงงานนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี, สาขาที่ 2 ตลาด อ.ส.ค. บนถนนมิตรภาพฝั่งขาขึ้นนครราชสีมา ,สาขาที่ 3 สาขาสุขสยาม ชั้น UG ศูนย์การค้า ICONSIAM และสาขาที่ 4 ถนนมิตรภาพ นครราชสีมา (ปั๊มน้ำมัน ปตท. ปากช่องไฮเวย์​) สาขาที่ 5 ข้างมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก สาขาที่ 6 ด้านข้างโรบินสัน อยุธยา วางแผนขยายเพิ่มอีกประมาณ 40-50 สาขา เท่ากับร้านไทย-เดนมาร์ค มิลค์ช็อป (Thai-Denmark Milk Shop) ที่เปิดตัวควบคู่กันไปในสถาบันการศึกษา เช่น โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ที่ประมาณ 14 สาขา
ดร.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของตลาดต่างประเทศ อ.ส.ค. มีแผนขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งเบื้องต้นจะเน้นไปที่ตลาดที่มีอยู่ คือ สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา เนื่องจากทั้ง 3 ประเทศยังมี โอกาสให้ อ.ส.ค. ส่งออกผลิตภัณฑ์นมเข้าไปทำตลาดได้อีกมาก เพื่อให้สัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 2564 โดยในปี 2562 อ.ส.ค. ตั้งเป้าทำรายได้อยู่ที่ 1,350 ล้านบาท
นอกจากนี้ อ.ส.ค.วางเป้าหมายส่งสินค้าเข้าไปทำตลาดในประเทศมาเลเซียและจีน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด และเตรียมเอกสารการขออนุญาตนำผลิตภัณฑ์นมเข้าไปทำตลาดในประเทศดังกล่าว
ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ อ.ส.ค. หันมาเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน ทั้งในเรื่องการขยายโรงงานและการผลิต การเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร ตลอดจนการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาด เนื่องจากตลาดนมโดยรวมทั้งในและต่างประเทศ มีแนวโน้มการบริโภคเติบโตขึ้น ตลอดจนเป็นการรณรงค์ให้คนไทยหันมาบริโภคนมกันมากขึ้น เพราะทุกวันนี้คนไทยมีอัตราการบริโภคนมเพียงแค่ 17-18 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่การตั้งเป้าหมายต้องการให้คนไทยดื่มนมเพิ่มขึ้นเป็น 25 ลิตรต่อคนต่อปี ซึ่งการเติบโตดังกล่าวส่งผลให้ตลาดนมและการทำตลาดของนมไทย-เดนมาร์คมีโอกาสขยับขยายต่อไปได้อีก ซึ่งปัจจุบัน อ.ส.ค. มีแชร์ในกลุ่มเจเนอรัล มิลค์ ที่ 49% เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มนี้ แต่ในแง่คอร์เปอเรต อ.ส.ค. ยังอยู่ในอันดับที่ 2 ดังนั้น อ.ส.ค. จึงได้มีการปรับแผนกลยุทธ์เพื่อขยายตลาด และเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ตลอดจนศึกษาและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาด เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาสนใจและบริโภคนมกันมากขึ้น ผอ.กล่าว
Facebook
Twitter
Line

Comment

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad