ร่วมกันอนุรักษ์ทะเลไทย ลดใช้ถุงพลาสติก ลดสร้างขยะทะเล - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ร่วมกันอนุรักษ์ทะเลไทย ลดใช้ถุงพลาสติก ลดสร้างขยะทะเล


ร่วมกันอนุรักษ์ทะเลไทย ลดใช้ถุงพลาสติก ลดสร้างขยะทะเล

Facebook
Twitter
LineComment
ร่วมอนุรักษ์ทะเลไทย ลดใช้ถุงพลาสติก ลดสร้างขยะทะเล
บางสิ่งยากที่จะทำลาย และบางสิ่งยากที่จะสร้างของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล เป็นสิ่งที่ “สิงห์ เอสเตท” ได้มุ่งมั่นดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสมดุลของการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ สิงห์ เอสเตท ขอชวนให้ประชาชนเที่ยวทะเลอย่างอนุรักษ์ ลดการสร้างขยะ และลดใช้ถุงพลาสติก ขวดพลาสติก เพื่อลดขยะในทะเล
คุณนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญต่อแนวคิดการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนขององค์กรและผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ด้วยปรัชญาการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability Development) เน้นการสร้างสมดุลการอยู่ร่วมกันของชุมชนและสิ่งแวดล้อม และส่งมอบคุณค่าควบคู่ไปกับการสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนในทุกสถานที่ที่บริษัทฯ เข้าไปพัฒนาโครงการ โดยการพัฒนาจำเป็นต้องใช้องค์ความรู้และการทำงานโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างแท้จริง เรื่องสิ่งแวดล้อมที่ สิงห์ เอสเตท เลือกที่จะทำ คือ การอนุรักษ์ทะเลไทย เพราะส่วนหนึ่งของธุรกิจของบริษัทฯ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับทะเล โรงแรมเกือบทั้งหมดของ สิงห์ เอสเตท ตั้งอยู่บนเกาะทั้งในประเทศและต่างประเทศ และอีกหนึ่งเรื่อง คือ Zero Waste
โดยปี 2559 สิงห์ เอสเตท ได้ทำโครงการ “พีพีกำลังจะเปลี่ยนไป” ซึ่งได้ร่วมมือกับนักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ และชุมชน สานต่อด้วยโครงการ “โตไวไว” ในปี 2560 เพื่อร่วมสร้าง ความตระหนัก พร้อมผลักดันการร่วมดูแลรักษา ฟื้นฟูระบบนิเวศ และการคืนสมดุลธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1. กิจกรรมปลูกต้นพีพี หรือต้นแสมขาว 2. กิจกรรมปลูกปะการัง ด้วยวิธี Coral Propagation 3. กิจกรรมปล่อยปลาการ์ตูนส้มขาว คืนสู่ธรรมชาติ
สำหรับในปี 2561 คุณนริศ กล่าวว่า สิงห์ เอสเตท ได้ทำโครงการ #SeaYouTomorrow ซึ่งเป็นกิจกรรมรณรงค์การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งขยะ มุ่งปลูกฝังจิตสำนึกและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการลดขยะให้แก่ประชาชน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถจัดการขยะพลาสติกและขวดพลาสติกที่ย่อยสลายและทำลายยากได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกการช่วยเหลือดังกล่าวถูกเปลี่ยนเป็นพลังในการฟื้นฟูอ่าวมาหยาด้วยปะการังกว่า 2,000 กิ่ง ตามโครงการติดตามฟื้นฟูปะการังในพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ที่ สิงห์ เอสเตท ได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเวลา 1 ปี
“นอกจากนี้ ยังได้ทำวีดิทัศน์ชุด ‘Nong Mo Story Short Film’ เพื่อมุ่งหวังให้เกิดความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนถึงแนวทางปฏิบัติเมื่อเข้าใช้ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล นักท่องเที่ยวหลายคนเข้าใจว่าการจับปลาการ์ตูนส้มขาวหรือที่คนเรียกกันติดปากว่าปลานีโมขึ้นมาถ่ายรูปแล้วปล่อยลงทะเล เขาจะไม่ตาย แต่ความจริงเขาจะตายทันทีเพราะไม่ใช่พื้นที่ที่เขาอยู่ ซึ่งการเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนปล่อยลงทะเลเป็นเรื่องยากที่จะให้เขามีชีวิตอยู่ต่อในท้องทะเล เพราะต้องปล่อยให้ถูกต้องกับสถานที่และชนิดพันธุ์ รวมถึงต้องอยู่บนหลักวิชาการ นอกจากนั้นในการปล่อยปลาการ์ตูน 1 ตัวคืนสู่ทะเลนั้นมีต้นทุนสูงกว่า 1 หมื่นบาท ดังนั้นจึงต้องสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชนให้ร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล”
คุณนริศ ยังได้กล่าวถึงโครงการ Zero Waste X’Mas หรือ คริสต์มาสไร้ขยะ ซึ่งเป็นกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้ทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาขยะทางทะเล ซึ่งครั้งนี้มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในชุมชนย่าน SUNTOWERS บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการและการเล่มเกมที่ให้ความรู้พร้อมปลูกจิตสำนึกในการไม่สร้างขยะ โดยเลือกใช้อุปกรณ์ตกแต่งภายในงานที่ทำมาจากวัสดุเหลือใช้ วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ในปีต่อไป รวมถึงวัสดุตกแต่งประเภทของเล่นต่างๆ ซึ่งสามารถนำไปมอบให้แก่โรงเรียนเมื่อจบงาน
“สำหรับในปี 2562 เรามีแผนที่จะสร้าง มารีน ดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์ (Marine Discovery Centre) หรือศูนย์เรียนรู้ทางทะเลที่มัลดีฟส์ ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงและอนุบาลปะการัง เพื่อนำไปปลูกในทะเล รวมถึง มัลดีฟส์ ดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์ (Maldives Discovery Centre) ซึ่งเป็นศูนย์ที่รวบรวมเรื่องราววัฒนธรรมความเป็นอยู่และงานฝีมือท้องถิ่นของชาวมัลดีฟส์ พร้อมกับเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล นอกจากนี้ยังมีโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศหญ้าทะเลและป่าชายเลนบริเวณเกาะสมุย เพื่อให้เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน (Carbon sink) และแหล่งผลิตออกซิเจนที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวในตอนท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad