เกษตรกรรายย่อยรวมพลังส่งเสริมความยั่งยืนและรุ่งโรจน์ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2564

เกษตรกรรายย่อยรวมพลังส่งเสริมความยั่งยืนและรุ่งโรจน์

 





เกษตรกรรายย่อยรวมพลังส่งเสริมความยั่งยืนและรุ่งโรจน์


มิลาน—16 ธ.ค.—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์


การผนวกเกษตรกรรายย่อยเข้าสู่แผนการด้านความยั่งยืนจากบนลงล่างและล่างขึ้นบน หมายถึงการใช้นโยบายที่มีการขยายขอบเขตและการลงทุนที่ปรับให้เหมาะกับพลังขับเคลื่อนขนาดย่อมและขนาดกลาง โดยนโยบายใหม่ของสหภาพยุโรป (EU) ทำให้ไม่อาจละเลยบทบาทสำคัญที่เกษตรการรายย่อยมีต่อการผลิตอาหาร การผลักพวกเขาออกจากกระบวนการกำหนดนโยบายของEU เท่ากับเป็นการสร้างความยากจน ความตึงเครียดทางสังคมโดยไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกใด ๆ ในแง่ของความยั่งยืน การเจรจาคือกุญแจสำคัญ ความยั่งยืนล้วนเป็นเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจและการร่วมมือกันระหว่างประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภค


ข้อความนี้ถ่ายทอดโดยเหล่าเกษตรกรรายย่อยที่ดำเนินงานในห่วงโซ่อุปทานน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตทั่วโลก โดยพวกเขาได้รวมตัวกันที่การประชุม เกษตรกรรายย่อย: ผู้ขับเคลื่อนความรุ่งโรจน์และความยั่งยืน” (Small-Holders: Drivers of Prosperity and Sustainability) ซึ่งCompetere เป็นผู้ให้การสนับสนุน


Gert van der Bijl ที่ปรึกษาด้านนโยบายสหภาพยุโรประดับอาวุโสของบริษัทSolidaridad เปิดเผยว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดการผลิตแบบยั่งยืนโดยปราศจากเกษตรกรรายย่อยและการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของพวกเขา เหมือนกับที่ไม่อาจยุติการตัดไม้ทำลายป่าได้โดยไม่มอบเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรรายย่อย


สำหรับ Nelsy Vega และ Teresa Pena เกษตรการรายย่อยจากโคลอมเบียแล้ว การผลิตน้ำมันปาล์มเปรียบได้ดั่งชีวิต ความหวัง และการพัฒนาโอกาส สำหรับทั้งคู่และลูก ๆ ทั้งสองเรียกร้องมิให้ EU บั่นทอนการผลิตอย่างยั่งยืน ขณะที่ Djono Burhan จากสมาคมเกษตรกรน้ำมันปาล์มรายย่อยอินโดนีเซียระบุว่ เกษตรกรรายย่อยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจจากการเพาะปลูกน้ำมันปาล์ม ซึ่งสนับสนุนการพัฒนาชุมชนทั้งชุมชน แม้ห่วงโซ่อุปทานระยะไกลบั่นทอนรายได้ของเหล่าเกษตรกร


การเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตแบบยั่งยืนอย่างมีประสิทธิภาพนำมาซึ่งความท้าทาย โดยการฝึกฝนถือเป็นปัจจัยสำคัญ Maria Goldameir Mektaniaเกษตรกรรายย่อยอีกรายหนึ่งได้เน้นย้ำว่า เกษตรกรต้องได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสมเพื่อที่จะได้เปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้วิธีการผลิตแบบยั่งยืนและเหมาะสมกับระบบนิเวศ และหากนโยบายและราคาสินค้าโภคภัณฑ์เปลี่ยนแปลงไปไม่หยุด เกษตรกรรายย่อยจะกลายเป็นผู้ที่ได้รับผลเสียมากที่สุด


Adzmi Hassan จากสมาคมเกษตรกรรายย่อยแห่งชาติมาเลเซีย (NASH)ระบุว่า ความท้าทายสำคัญในการใช้มาตรฐานแบบยั่งยืนนั้นมาจากแรงจูงใจด้านรายได้ ขณะที่ Juan Alberto Lemus Silva จากสมาคม Agroindustria Palmera San Román ของกัวเตมาลาซึ่งให้ความสำคัญต่อนโยบายของ EUระบุว่า นโยบายเหล่านี้ อาจเข้ามาขัดขวางมากกว่าสร้างแรงจูงใจด้านการผลิตในกัวเตมาลา ด้วยการเพิ่มราคาและสร้างความซับซ้อนให้กับข้อกำหนดการส่งออกและกฎระเบียบต่าง ๆ


Pietro Paganini ประธานบริษัท Competereได้สรุปการหารือครั้งนี้ว่า เสียงจากผู้ที่ทำงานในห่วงโซ่อุปทานน้ำมันปาล์มแบบยั่งยืน ทำให้เรามองเห็นมากกว่าแค่การส่งเสริมการลดการผลิตและการดำเนินการแบบผิวเผินต่อเรื่องดังกล่าว เรากำลังพูดถึงห่วงโซ่การผลิตระดับโลกที่มีพันธกิจในการส่งเสริมโครงการอันยั่งยืนมาอย่างยาวนานพร้อม ๆ ไปกับการสร้างความโปร่งใสและมุ่งเน้นด้านนวัตกรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad