​ผู้ผลิตน้ำหวานขอขึ้นราคาอีกรอบ 1-2 บาท “พาณิชย์”เบรก ขอดูต้นทุนก่อน หวั่นขึ้นเกินภาษี - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2562

​ผู้ผลิตน้ำหวานขอขึ้นราคาอีกรอบ 1-2 บาท “พาณิชย์”เบรก ขอดูต้นทุนก่อน หวั่นขึ้นเกินภาษี

​ผู้ผลิตน้ำหวานขอขึ้นราคาอีกรอบ 1-2 บาท “พาณิชย์”เบรก ขอดูต้นทุนก่อน หวั่นขึ้นเกินภาษี

img
ผู้ผลิตน้ำอัดลม เครื่องดื่ม ทำหนังสือขอปรับขึ้นราคาอีก 1-2 บาท รับภาษีสรรพสามิตน้ำหวาน “พาณิชย์”ยังไม่อนุมัติ ขอศึกษาต้นทุนก่อน หวั่นแอบโขกราคาเพิ่มขึ้นเกินกว่าต้นทุนภาษี ทำผู้บริโภคเดือดร้อน หลังเพิ่งปรับขึ้นราคาไก่อนหน้านี้ไม่นาน ส่วนสถานการณ์สินค้าทั่วไป ยังเป็นปกติ ไม่มีการขอปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทผู้ผลิตน้ำอัดลม ผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำหวาน ชาเขียว เครื่องดื่มชูกำลัง นมหวานบางประเภท ได้ทำหนังสือมาถึงกรมฯ เพื่อแจ้งปรับขึ้นราคาสินค้าประมาณขวดละ 1-2 บาท ตามอัตราภาษีความหวานของกรมสรรพสามิตที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2562 โดยเบื้องต้นกรมฯ ยังไม่ได้อนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคา โดยต้องศึกษาต้นทุนจากภาษีและราคาใหม่ที่ผู้ประกอบการแจ้งขอปรับขึ้นก่อนว่าเป็นราคาที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะเกรงว่าอาจมีการขอปรับขึ้นราคาสูงกว่าต้นทุนทางภาษี ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
       
“ต้นทุนจากภาษีเพิ่มขึ้นจริง แต่กรมฯ ต้องพิจารณาต้นทุนหลายๆ ด้านประกอบด้วย ซึ่งอาจจะให้หรือไม่ให้ตามที่ผู้ประกอบการขอมาก็ได้ โดยขณะนี้ เจ้าหน้าจะทำการคำนวณราคาสินค้าที่ผู้ประกอบการเสนอมาและภาษีที่ปรับขึ้นว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ คาดว่าในเร็วๆ นี้ จะรู้ผลว่าจะให้ขึ้นหรือไม่ให้ขึ้นราคา”
       
นายประโยชน์กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการรายรายใดขอปรับขึ้นราคา เพราะต้นทุนการผลิตและค่าบริหารจัดการไม่ได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับสภาวะทางการตลาดยังไม่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นราคา ทำให้ผู้ประกอบการไม่มีการยื่นปรับขึ้นราคา ส่วนที่มี ก็เป็นการยื่นขอสำหรับสินค้ารายการใหม่ที่นำมาจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมก่อนที่จะพิจารณาอนุมัติต่อไป
       
ทั้งนี้ ในส่วนของการลดขนาดหรือเพิ่มขนาดบรรจุภัณฑ์สินค้าแล้วยื่นขอปรับราคาใหม่ มีผู้ประกอบการหลายรายมายื่น แต่ตามกฎหมาย หากมีการลดขนาดสินค้า ก็ต้องลดราคาลงด้วย และห้ามคงราคาเดิม ไม่เช่นนั้นก็จะผิดกฎหมายทันที ไม่ว่าจะเป็นสบู่เหลว แชมพู ผงซักฟอก น้ำยาซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม และยาสีฟัน เป็นต้น
       
ส่วนสถานการณ์สินค้าในขณะนี้ ภาพรวมอยู่ในระดับที่ไม่สูง ยกเว้นผักสด เนื้อสัตว์ ผลไม้ ที่มีราคาปรับขึ้นลงตามกลไกตลาด หากช่วงใดเจอปัญหาอากาศผันผวน และเป็นช่วงเทศกาลที่มีความต้องการสินค้ามาก ราคาก็จะปรับตัวสูง แต่หากเป็นช่วงที่มีความต้องการน้อย ราคาก็จะปรับลดลง ซึ่งที่ผ่านมา กรมฯ ได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา
       
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภาษีสรรพสามิตความหวานที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2562 เครื่องดื่มในกลุ่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 10 กรัม แต่ไม่เกิน 14 กรัม จะต้องเสียภาษี 1 บาทต่อลิตร จากเดิม 0.5 บาทต่อลิตร , กลุ่มที่ปริมาณน้ำตาลเกิน 14 กรัม แต่ไม่เกิน 18 กรัม จะต้องเสียภาษี 3 บาทต่อลิตร จากเดิม 1 บาทต่อลิตร และกลุ่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 18 กรัม จะต้องเสียภาษี 5 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บริษัทผู้ผลิตน้ำอัดลมได้มีการปรับขึ้นราคาสำหรับร้านค้าปลีก พื้นที่กรุงเทพฯ และภาคกลางตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2562 เป็นต้นมา และขอปรับเพิ่มราคาขายปลีกแนะนำสำหรับผู้บริโภคตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2562 ในอัตรา 2-3 บาท เช่น บางรายการจากเดิมขวดละ 5 บาทเป็น 7 บาท หรือจาก 10 เป็น 12 บาท และจาก 17 เป็น 20 บาท เป็นต้น


​ผู้ผลิตน้ำหวานขอขึ้นราคาอีกรอบ 1-2 บาท “พาณิชย์”เบรก ขอดูต้นทุนก่อน หวั่นขึ้นเกินภาษี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad