สอท.หั่นเป้าปี’62 ผลิตรถเหลือ2ล้านคัน/พิษศก.โลก - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2562

สอท.หั่นเป้าปี’62 ผลิตรถเหลือ2ล้านคัน/พิษศก.โลก

สอท.หั่นเป้าปี’62  ผลิตรถเหลือ2ล้านคัน/พิษศก.โลก
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า สอท.ปรับประมาณการยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ใหม่อยู่ที่ 2 ล้านคัน ลดลง1.5 แสนคัน หรือจากเป้าหมายเดิมที่เคยตั้งไว้ 2.15 ล้านคัน ซึ่งน้อยกว่ายอดผลิตรถยนต์ปี 2561 ที่ผลิตได้ 2.16 ล้านคัน อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
นอกจากนี้ยอดผลิตรถยนต์ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมและความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ของสถาบันการเงิน ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลง จึงปรับลดเป้าหมายการผลิตเพื่อขายในประเทศลง
นายสุรพงษ์กล่าวว่า สำหรับยอดผลิตรถยนต์แบ่งเป็นยอดผลิตเพื่อส่งออกคาดจะผลิตได้ 1 ล้านคัน ลดลง 1 แสนคันจากเดิมคาดไว้ที่ 1.1 ล้านคัน ลดลงจาก ปีก่อนที่ผลิตได้ 1.14 ล้านคัน เนื่องจากการส่งออกชะลอตัวลงจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศคาดจะผลิตได้ 1 ล้านคัน ลดลง 50,000 คันจากเดิมคาดไว้ที่ 1.05 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อนที่ผลิตได้ 1.02 ล้านคัน จากสถานการณ์น้ำท่วม และความเข้มงวดที่มากขึ้นในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ของสถาบันการเงิน
“หากตลาดรถยนต์ชะลอตัวลงในช่วงสั้นๆ คงไม่ถึงขั้นต้องเลิกจ้างงาน แต่อาจมีการปรับลดชั่วโมงทำงานล่วงเวลาลงบ้าง ต้องติดตามภาคการท่องเที่ยวจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจดีขึ้น มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้จากภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชนกับภาครัฐ รวมถึงแนวโน้มค่าเงินบาท เหล่านี้เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกภาคส่วน ทำให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์น่าจะฟื้นตัวได้ในปีหน้า” นายสุรพงษ์ กล่าว
สำหรับยอดผลิตรถยนต์เดือนกันยายน2562 ที่ผ่านมา เทียบช่วงเดียวกับปีก่อนลดลง 7.49% อยู่ที่ 1.69 แสนคัน เป็นยอดผลิตเพื่อส่งออกลดลง 8.24% อยู่ที่91,119 คัน ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 6.59% อยู่ที่ 78,355 คัน
ส่วนยอดผลิตรถยนต์รวมในช่วง9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กันยายน 2562)ลดลง 1.96% อยู่ที่ 1.57 ล้านคัน เป็นยอดผลิตเพื่อส่งออกลดลง 5.72% อยู่ที่ 8.14 แสนคันขณะที่ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 2.42% อยู่ที่ 7.57 แสนคัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad