- ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2562

“บาทแข็งโป๊ก!!” คนไทยแห่ช้อปอสังหาอังกฤษปิดดีลพันล.

“ไนท์แฟรงค์” เผยบาทแข็งแต้มต่อทุนไทยแห่ซื้ออสังหาฯเมืองนอก ปักหมุดปิดดีลอังกฤษ ปี 62 จำนวน 18 ดีล มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านบาท คาดเบร็กซิทไม่กระทบอสังหาฯลอนดดอน เหตุดีมานด์สูงกว่าซัพพลาย
นายคริสโตเฟอร์ โจนส์ แอซโซซิเอทส์ (Associate) บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศอังกฤษ เปิดเผยสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในประเทศอังกฤษ (สหราชอาณาจักร)ว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่มีสัญญาณการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) พบว่าภาพรวมอสังหาฯในอังกฤษมีราคาลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากนักลงทุน และผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ จึงทำให้ภาพรวมตลาดชะลอตัว
จนกระทั่งในปีนี้ ตลาดอสังหาฯในอังกฤษเริ่มกลับมาฟื้นตัว ทั้งราคาและความต้องการที่ปรับตัวดีขึ้น จากที่เคยต้องลดราคา 20-25 % เพื่อให้ขายได้ โดยปัจจุบันลดราคาประมาณ 10-15% เนื่องจากพบว่าความต้องการ (Demand) อสังหาฯ ในลอนดอนสูงกว่าจำนวนเปิดตัวและเข้าสู่ตลาดประมาณไม่ถึง 40,000 หน่วย (ยูนิต)ต่อปี
ทำให้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เกิดการลงทุนจากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เข้าไปซื้ออสังหาฯ และเปิดสำนักงานใหม่ในอังกฤษเพิ่มขึ้น อาทิ สำนักงานกูเกิล ฮัทชิสัน มูลค่าหลักพันล้านปอนด์ รวมถึงกลุ่มคนไทยที่มีสัญญาณเข้าไปลงทุนเพิ่มมากขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นหากเทียบกับเงินปอนด์ ทำให้ราคาอสังหาฯในลอนดอนถูกลงประมาณ 30-40% เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา จึงมีนักลงทุนไทยนิยมเข้าไปซื้อเพื่อปล่อยเช่า และส่วนใหญ่ใช้ที่เป็นพักให้กับผู้เข้าไปศึกษาต่อ
โดยในปี 2562 ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 30 ก.ย.2562 พบว่า มีคนไทยเข้าไปซื้ออสังหาฯในอังกฤษทั้งสิ้น 21 ล้านปอนด์ (ราว 820 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีมูลค่ากว่า 10ล้านปอนด์ (ราว 390 ล้านบาท)โดยในปี 2562 คาดว่าจะปิดดีลตั้งแต่เม.ย.2562-มี.ค.2563 ประมาณ 18 สัญญาซื้อขาย จำนวน 25 ยูนิต มูลค่ารวม 30-35 ล้านปอนด์ (ราว 1,172 -1,367 ล้านบาท) โดยส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน และที่พักอาศัยส่วนตัว
ด้านนายแฟรงค์ ข่าน กรรมการผู้บริหาร หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ภาพรวมอสังหาฯ ในอังกฤษเชื่อว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการที่แท้จริง เพราะโดยพื้นฐานตลาดยังแข็งแกร่งในด้านความต้องการ ที่มีความต้องการเกิดขึ้นจากนักเรียนที่เข้ามาศึกษาต่อ 100,000 คนต่อปี รวมไปถึงนักลงทุน ที่มีการย้ายเข้ามาตั้งสำนักงานทั้งอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่างๆ อีกทั้งยังมีความต้องการภายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาครัฐมีมาตรฐานกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ตั้งแต่ปี 2557 โดยการเพิ่มการจัดเก็บภาษีการลงทุนต่างชาติ (Capital gain) และการสนับสนุนให้ผู้ทำงานเพื่อสังคม เช่น พยาบาล ข้าราชการ และมีรายได้น้อยมีบ้านหลังแรกด้วยดอกเบี้ยต่ำ

ที่มา : bangkokbiznews.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad