ทายาทเครือสหพัฒน์ เปิดเกมรุกบุกธุรกิจร้านทอง คิกออฟ "ห้างทองกลมเกลียว" สาขาแรก - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ทายาทเครือสหพัฒน์ เปิดเกมรุกบุกธุรกิจร้านทอง คิกออฟ "ห้างทองกลมเกลียว" สาขาแรก

ทายาทเครือสหพัฒน์ เปิดเกมรุกบุกธุรกิจร้านทอง คิกออฟ

ทายาทเครือสหพัฒน์ เปิดเกมรุกบุกธุรกิจร้านทอง คิกออฟ "ห้างทองกลมเกลียว" สาขาแรก

นายฐิติภูมิ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีเค ไพรเมรี่ จำกัด และทายาท นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ลุยเปิด "ห้างทองกลมเกลียว" ประเดิมสาขาแรกที่หน้าบมจ. ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล (ICC) ซอยสาธุประดิษฐ์ 58 ซึ่งเป็นฐานทัพใหญ่ของเครือสหพัฒน์ ตั้งเป้าเป็นร้านทองของคนในชุมชน ที่ให้บริการซื้อ ขาย แลก เปลี่ยน ทองรูปพรรณ และทองคำแท่ง รวมถึงขายฝาก และเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยเป็นเจ้าของทอง ด้วยบริการออมทองเพียง 100 บาทต่อเดือน เตรียมขยายสาขาเพิ่มในย่านสาธุประดิษฐ์ - พระราม 3 อีก 3 สาขา

นายฐิติภูมิ กล่าวว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ประเภทสินทรัพย์ปลอดภัย คนส่วนใหญ่จึงนิยมซื้อเพื่อเก็บออมหรือลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจสูง เช่น เงินเฟ้อ เงินฝืด หรือเกิดวิกฤตต่าง ๆ ส่งผลให้ธุรกิจร้านทองมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งตนเองมีความสนใจในธุรกิจร้านทองเป็นทุนเดิม และมีประสบการณ์จากการเปิดบริษัทรับทำบัญชีและวางแผนภาษีให้กับร้านทองทั่วประเทศ จึงได้เปิด บริษัท ทีเค ไพรเมรี่ จำกัด ขึ้น เพื่อดำเนินธุรกิจ "ห้างทองกลมเกลียว" โดยมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านทองมาเสริมทัพด้วย

"ที่มาของชื่อห้างทองกลมเกลียว ส่วนหนึ่งมาจากคำว่าเครือสหพัฒน์ ซึ่ง "สห" หมายถึงการร่วมกันที่ต้องมีความกลมเกลียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตระกูลโชควัฒนายึดมั่น อีกส่วนหนึ่งมาจากความต้องการให้ทีมงานของห้างทองของเรามีความสามัคคีกัน และต้องการให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนบ้านที่มีความกลมเกลียวกัน มีความใส่ใจที่จะมอบสินค้าและบริการที่ดีให้กับชุมชนรอบข้าง" นายฐิติภูมิ กล่าว

สำหรับห้างทองกลมเกลียวสาขาแรก เปิดให้บริการเมื่อปลายเดือนพ.ค. 66 ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเกินเป้าหมาย โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก คือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 58 และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักชื่อเสียงของเครือสหพัฒน์ จึงมั่นใจที่จะมาใช้บริการ

"การตอบรับที่ดีจากสาขาแรก ทำให้เราวางแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 1 สาขาในปี 66 และเปิดอีก 2 สาขาในปี 67 โดยจะยึดทำเลย่านสาธุประดิษฐ์-พระราม 3 เป็นหลัก และเรากำลังพัฒนาแอปพลิเคชันที่เป็นเครื่องมือให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น โดยลูกค้าที่ออมทองสามารถดูประวัติการออม และจำนวนเงินที่สะสมได้ และเฟสต่อไปจะพัฒนาแอปให้ลูกค้าสามารถแปลงเงินออมเป็นน้ำหนักทองได้ด้วยตนเอง รวมทั้งซื้อ ขาย หรือจองทอง ผ่านแอปได้ด้วย โดยจะเปิดใช้งานปลายเดือนมิ.ย.นี้" นายฐิติภูมิ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad