ROYAL ENFIELD ไม่แผ่ว! เดินหน้า ขยายอาณาจักร เปิดตัวโรงงาน CKD แห่ง ที่ห้าในโลก และแห่งแรกแห่งเดียวในเนปาล - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ROYAL ENFIELD ไม่แผ่ว! เดินหน้า ขยายอาณาจักร เปิดตัวโรงงาน CKD แห่ง ที่ห้าในโลก และแห่งแรกแห่งเดียวในเนปาล

       

       Royal-Enfield-NEPAL-CKD_2-1-598bc849-e1687421986293

ROYAL ENFIELD ไม่แผ่วเดินหน้าขยายอาณาจักร

เปิดตัวโรงงาน CKD แห่งที่ห้าในโลก และแห่งแรกแห่งเดียวในเนปาล

Royal Enfield ผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250cc-750cc) ประกาศการเติบโตต่อเนื่อง ขยายฐานการผลิต เปิดโรงงานประกอบ CKD แห่งแรกแห่งเดียวในเนปาล โดยความร่วมมือกับ Triveni Group โรยัล เอ็นฟีลด์เล็งรุกตลาดในภูมิภาค SAARC หรือภูมิภาคเอเชียใต้ พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่มีต่อการขยายธุรกิจในประเทศเนปาล โดยโรงงานใหม่นี้ตั้งอยู่ในเมือง Birgunj ซึ่งนับเป็นหน่วยประกอบ CKD แห่งที่ 5 ในโลกของแบรนด์ หลังจากบราซิล ประเทศไทย โคลอมเบีย และอาร์เจนตินา ที่รับไม้ต่อมาจากโรงงานผลิตอันทันสมัย ตั้งอยู่ในรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย

B Govindarajan ซีอีโอของ Royal Enfield กล่าวแสดงความยินดีกับทีมงานในการเปิดตัวโรงงาน CKD ในประเทศเนปาล โดยกล่าวว่า “เป็นความพยายามของเราที่จะเติบโตและขยายกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลางทั่วโลก และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จอย่างมากในการดำเนินงานระหว่างประเทศของเรา ปัจจุบัน Royal Enfield ติดอันดับหนึ่งของแบรนด์รถจักรยานยนต์ขนาดกลางชั้นนำในตลาดภูมิภาคต่างๆ เช่น สหราชอาณาจักร เกาหลี ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศ ในเชิงกลยุทธ์ จากที่เราประสบความสำเร็จในการจัดตั้งศูนย์ CKD สี่แห่งทั่วเอเชียแปซิฟิกและละตินอเมริกามาแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ เรายังได้เริ่มกลยุทธ์การตลาด (Direct Market) ในสหราชอาณาจักรอีกด้วย เรามีความตั้งใจที่จะขยายตลาดไปในระดับโลกมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงโรงงาน CKD แห่งใหม่ในเนปาลนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายตลาดทั่วโลกที่เล็งเป้าหมายการลงทุนในตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมรางวัลระดับโลกที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ให้กับผู้ขับขี่ในเนปาลได้สัมผัสบรรยากาศความรื่นรมย์ที่แตกต่างไป”

โดยภาพรวม ตลาดรถจักรยานยนต์ในเนปาลกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างน่าจับตามอง และ Royal Enfield มองเห็นศักยภาพของตลาดในจุดนั้น โดยในช่วงก่อนการระบาดของ Covid-19 กลุ่มรถจักรยานยนต์ในเนปาลมีจำนวนเกือบ 1.7 ล้านคันต่อปี โดยเกือบ 60%-65% เป็นรถจักรยานยนต์ที่ขายในกลุ่มพรีเมียม (150 ซีซี) คาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตที่ 10%-15% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และ Royal Enfield เชื่อว่าแนวโน้มของการผลิตรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมียมจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะยืดหยุ่น แรงบิดสูง และเชื่อถือได้ Royal Enfield จึงเป็นแบรนด์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสไตล์การขับขี่กับภูมิประเทศที่สมบุกสมบัน และน่าท้าทายของประเทศเนปาล

ณ เมืองกาฐมาณฑุ ในการเปิดตัวโรงงาน CKD รวมถึงเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่สำหรับตลาดเนปาล Yadvinder Singh Guleria ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ของ Royal Enfield กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินทางของเราในตลาดเนปาล เราได้ประกาศการดำเนินงานของโรงงานประกอบ CKD ในเมือง Birgunj ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราต่อศักยภาพของตลาดและ Community ของกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่กำลังเติบโต นอกจากความมุ่งมั่นของเราในการขยายตลาดในประเทศแล้ว แผนระยะยาวของเราคือการขยายเครือข่ายระบบค้าปลีกของเราจาก 18 แห่งในปัจจุบัน เป็น 35 แห่งใน 30 เมือง ภายในปีหน้า เรามั่นใจว่าเราจะสามารถดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มใหม่และขยายกลุ่มผู้บริโภคผู้นิยมกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในเนปาลได้อย่างแน่นอน ภูมิประเทศของเนปาลเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการขับขี่รถจักรยานยนต์ของ Royal Enfield อย่างไม่ต้องสงสัย”


ด้วยความสามารถในการประกอบชิ้นส่วน 20,000 ชิ้นต่อปี ศูนย์ประกอบชิ้นส่วนท้องถิ่นในเมือง Birgunj นับเป็นศูนย์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัย มีขนาดพื้นที่กว่า 1 แสนตารางฟุต ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศได้อย่างทั่วถึง ในช่วงเริ่มต้น โรงงานแห่งนี้จะมีการประกอบชิ้นส่วนของ Classic 350 และ Scram 411 และด้วยการเปิดตัวศูนย์นี้ Royal Enfield มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจรถจักรยานยนต์ตลอดจนดูแลกลุ่มผู้รักรถขนาดกลางที่กำลังเติบโตในประเทศเนปาลอย่างครอบคลุมและทั่วถึง

เกี่ยวกับโรยัล เอ็นฟีลด์:

Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก โดยได้สร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่สง่างามมีเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1901 จากต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ได้ส่งต่อศาสตร์แห่งการสร้างสรรค์อันล้ำค่ามาสู่โรงงานผลิตในเมือง Madras เมื่อปี 1955 นับเป็นฐานการผลิตสำคัญที่ Royal Enfield สร้างการเติบโตให้กับรถสองล้อขนาดกลางในประเทศอินเดีย สเน่ห์และความน่าสนใจของ Royal Enfield คือความมีเอกลักษณ์ ไม่ซับซ้อน เข้าถึงได้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานในการขับขี่ นับเป็นยานพาหนะที่เหมาะในการสำรวจเปิดโลก และแสดงออกถึงบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ของผู้ขับ ซึ่งเป็นแนวทางที่แบรนด์เรียกว่า Pure Motorcycling

กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของ Royal Enfield ได้แก่ Hunter 350, Classic 350, Meteor 350, Super Meteor 650, Interceptor 650, Continental GT 650 รวมถึงมอเตอร์ไซค์ผจญภัย Himalayan และ SCRAM 411 กลุ่มนักขับขี่ผู้หลงใหลในเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์และการตกแต่ง สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมายได้ตลอดทั้งปี ที่มีทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ ตัวอย่างกิจกรรมที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ Rider Mania ซึ่งเป็นการรวมตัวประจำปีของผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield หลายพันคน จัดขึ้นที่รัฐกัว ประเทศอินเดีย และ Himalayan Odyssey ซึ่งเป็นการเดินทางแสวงบุญประจำปีบนภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดทางผ่านภูเขาที่สูงที่สุด ที่สร้างความประทับใจที่สุดเช่นกัน

Royal Enfield คือหนึ่งกลุ่มธุรกิจของ Eicher Motors Limited ดำเนินธุรกิจในรูปแบบร้านค้ามากกว่า 2,050 แห่งในเมืองใหญ่ทั่วประเทศอินเดีย และ 1,150 แห่ง ในมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก Royal Enfield ยังมีศูนย์ดูแลเชิงเทคนิคระดับโลกสองแห่งในเมือง Bruntingthorpe สหราชอาณาจักร และในเมือง Chennai ประเทศอินเดีย โดยโรงงานผลิตที่ทันสมัยทั้งสองแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ Oragadam และ Vallam Vadagal ใกล้กับเมือง Chennai นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีโรงงานประกอบ CKD อันทันสมัย 4 แห่งทั่วโลก ทั้งในบราซิล ไทย อาร์เจนตินา และโคลอมเบีย ด้วยอัตรา CAGR หรืออัตราผลตอบแทนมากกว่า 35% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Royal Enfield จึงนับเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad