หัวเว่ย , IUCN และพันธมิตรระดับโลก เน้นย้ำการใช้เทคโนโลยีล่าสุ ดเพื่อการปกป้องธรรมชาติ
การประชุมสุดยอดเทคฟอร์เนเจอร์ ( Tech4Nature ) ครั้งที่ 3 จัดขึ้นในวันครบรอบ 50 ปี วันสิ่งแวดล้อมโลก
เซินเจิ้น , จีน , 6 มิ.ย. 2566 / พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี วันสิ่งแวดล้อมโลก หัวเว่ย ( Huawei ) และองค์การระหว่างประเทศเพื่ อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น ( IUCN ) ได้เน้นย้ำถึงโซลูชันอัจฉริ ยะสำหรับการสนับสนุนการจั ดการและการกำกับดูแลพื้นที่คุ้ มครองและอนุรักษ์อย่างมีประสิ ทธิภาพและยุติธรรม ตลอดจนความสำคัญที่เพิ่มขึ้ นของเทคโนโลยีในการติดตามสายพั นธุ์สัตว์ที่ถูกคุกคาม และปกป้องแหล่งที่อยู่อาศั ยตามธรรมชาติของสัตว์เหล่านี้
หัวเว่ยและไอยูซีเอ็นได้ร่างวิ สัยทัศน์สำหรับพื้นที่คุ้ มครองและอนุรักษ์ เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิ จิทัล ในการช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้ านความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก โดยในการประชุมสุดยอดนั้น ได้มีการเปิดตัวสมุดปกขาวพื้นที่ คุ้มครองอัจฉริยะ ( Smart Protected Areas White Paper ) ซึ่งพัฒนาร่วมกันโดยหัวเว่ ยและไอยูซีเอ็นประจำประเทศจีน และสถาบันวนศาสตร์จีน ( Chinese Academy of Forestry ) เพื่อแบ่งปันพิมพ์เขียวสำหรั บการสร้างพื้นที่คุ้มครองอัจฉริ ยะ โดยอ้างอิงจากประสบการณ์จากพื้ นที่คุ้มครองของจีน
กุญแจสำคัญในการคุ้มครองสัตว์ป่ าคือการทำความเข้าใจการกระจายตั วของสัตว์ พฤติกรรมของสัตว์ พฤติกรรมตามฤดูกาลของแต่ละสายพั นธุ์ และว่ากิจกรรมของมนุษย์อาจส่ งผลกระทบต่อรูปแบบการใช้ชีวิ ตของสัตว์เหล่านี้อย่างไร การจะทำสิ่งนี้ได้จำเป็นต้องมี ข้อมูลอย่างมหาศาล และการรวบรวมข้อมูลดังกล่ าวอาจเป็นเรื่องท้าทายเนื่ องจากพื้นที่บางแห่งห่ างไกลและเข้าถึงได้ยาก ซึ่งก็มักมีอุ ปสรรคจากสภาพอากาศที่รุนแรงเพิ่ มมาด้วย ความพยายามในการเก็บรวบรวมข้อมู ลและการวิจัยในช่วงต้นจึงต้องพึ่ งพากลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เดิ นทางลงพื้นที่เพื่อติดตั้งกล้ องสำหรับดักจับภาพ ซึ่งกล้องเหล่านี้จำเป็นต้องได้ รับการบำรุงรักษา เปลี่ยนแบตเตอรี่ เปลี่ยนการ์ดหน่วยความจำ ตลอดจนการวิเคราะห์ กระบวนการเหล่านี้มักจะกิ นแรงและกินเวลามากจนส่งผลให้ข้ อมูลและรูปภาพที่ได้นั้นเก่ าไปนานหลายเดือน
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัย เช่น คอมพิวเตอร์ระบบคลาวด์ , ไอโอที ( IoT ) , อินเทอร์เน็ตมือถือ , บิ๊กดาต้า ( Big Data ) และเอไอ ( AI ) ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลและมี การสื่อสารระหว่างกันได้แบบเรี ยลไทม์ นี่เป็นกุญแจสำคัญในการปรับปรุ งการตรวจจับอัจฉริยะ การวิเคราะห์และการจัดการการคุ้ มครองสายพันธุ์ และความพยายามในการอนุรักษ์ ตามพื้นที่ ทำให้การทำงานมีประสิทธิ ภาพมากขึ้น และด้วยเหตุนี้จึงช่วยอนุรักษ์ ธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น
นั้บตั้งแต่ปี 2562 หัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับพาร์ ทเนอร์ระดับโลกมากกว่า 30 ราย รวมถึงไอยูซีเอ็น ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ อให้บรรลุการอนุรักษ์และฟื้นฟู ที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่คุ้ มครองและพื้นที่อนุรักษ์ 46 แห่งทั่วโลก ตั้งแต่ป่าฝนเขตร้อนในมณฑลไห่ หนานของจีน ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศั ยของสายพันธุ์ชะนีที่หายากที่สุ ดในโลก ไปจนถึงโอเอซิสในพื้นที่ชุ่มน้ำ ของอิตาลี และแนวปะการังนอกชายฝั่งตะวั นออกของมอริเชียส
ยกตัวอย่างเช่น ภายใต้เทคฟอร์เนเจอร์ในเม็กซิโก ซึ่งหัวเว่ยร่วมมือกับไอยูซีเอ็ น , ซีไมนด์ส ( C-Minds ) , มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแห่งยู กาตัน ( Polytechnic University of Yucatan ) , เรนฟอเรสต์ คอนเนกชัน ( Rainforest Connection ) และชุมชนท้องถิ่นของดซิลัม ได้รวบรวมภาพถ่ายสัตว์ป่ามากกว่ า 30 , 000 ภาพ การบันทึกเสียงสัตว์ป่ามากกว่า 550 , 000 ชิ้น และคลิปวิดีโอสัตว์ป่าอีกเป็ นจำนวนมาก โดยอัลกอริทึมได้รับการพั ฒนาและฝึกฝนเพื่อช่วยระบุสายพั นธุ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเสือจากัวร์ และจนถึงตอนนี้ ทีมงานสามารถระบุสายพันธุ์สัตว์ ได้ 119 สายพันธุ์ รวมถึงเสือจากัวร์ 5 ตัว
ดร.เกรเธล อากีลาร์ ( Dr Grethel Aguilar ) รองผู้อำนวยการของไอยูซีเอ็น กล่าวว่า “เราได้อะไรต่าง ๆ มากมายตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ได้ร่วมงานกัน ในระหว่างนั้นหัวเว่ยได้ทำงานร่ วมกับเราเพื่อแสดงให้เห็นถึ งการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างมีความรับผิดชอบในการปกป้ องธรรมชาติ ไอยูซีเอ็นตั้งตารอที่จะได้ร่ วมมือระยะยาวกับหัวเว่ยในฐานะผู้ นำด้านเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายระดั บโลก อาทิ เป้าหมายในการอนุรักษ์ผืนดิ นและผืนน้ำอย่างน้อย 30 % ของโลกภายในปี 2573”
วัตถุประสงค์หลักของสมุดปกขาวพื้ นที่คุ้มครองอัจฉริยะ คือการอนุรักษ์พื้นที่คุ้ มครองอย่างมีประสิทธิ ภาพและการจัดการทรั พยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายนี้ สมุดปกขาวจึงได้ระบุสถานการณ์ สำคัญ 7 ประการ อาทิ การปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศ , การจัดการทรัพยากร , การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และอื่น ๆ
ในสถานการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวจำเป็นต้ องนำความสามารถหลัก 4 ประการมาใช้ ได้แก่ การตรวจจับระบบนิเวศแบบหลายมิติ ที่ครอบคลุม การสื่อสารหลายเครือข่ายแบบบู รณาการที่สามารถปรับให้เข้ากั บภูมิประเทศที่ซับซ้อน การวิเคราะห์อัจฉริยะที่ สามารถประมวลผลข้อมู ลจำนวนมหาศาลจากแหล่งต่าง ๆ และความสามารถในการนำผลการวิ เคราะห์ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนิ นงานและการจัดการพื้นที่คุ้ มครอง พิมพ์เขียวนี้นำเสนอสถาปั ตยกรรมโซลูชันแบบครอบคลุมสำหรั บพื้นที่คุ้มครองอัจฉริยะ โดยใช้พัฒนาการล่าสุ ดในเทคโนโลยีดิจิทัล
คุณเต๋า จิงเหวิน ( Tao Jingwen) กรรมการของหัวเว่ ยและประธานคณะกรรมการการพัฒนาที่ ยั่งยืนขององค์กร ( CSD) กล่าวว่า “การสูญเสียความหลากหลายทางชี วภาพและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศเป็นสองวิกฤตสิ่งแวดล้ อมโลกที่เกี่ยวข้องกันซึ่งจำเป็ นต้องมีการตอบสนองร่วมกัน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคู่ ไปกับการปกป้องธรรมชาติสามารถช่ วยให้เกิดการพัฒนาสีเขียวในอุ ตสาหกรรมต่าง ๆ นับพัน และช่วยให้รับมือกับการเปลี่ ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีขึ้น"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น