เงินเฟ้อพ.ย.64 เพิ่มขึ้น 2.71% สูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังน้ำมันยังคงเพิ่มสูงขึ้น ผักสด เนื้อหมู เครื่องประกอบอาหาร ราคาสูงขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เปิดประเทศ ส่วนยอดรวม 11 เดือน เพิ่ม 1.15% คาดธ.ค.ขยับต่อ แต่ต้องดู “โอมิคอน” ว่ารุนแรงแค่ไหน คาดทั้งปียังอยู่ในเป้า 0.8-1.2% ส่วนปี 65 ตั้งเป้า 0.7-2.4% ค่ากลาง 1.5%
นายรณรงค์ พูนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนพ.ย.2564 เท่ากับ 102.25 เทียบกับเดือนต.ค.2564 เพิ่มขึ้น 0.28% เทียบกับพ.ย.2563 เพิ่มขึ้น 2.71% สูงสุดในรอบ 7 เดือนนับตั้งแต่เม.ย.2564 ที่เพิ่มขึ้น 3.41% ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 11 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.15% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก พบว่า ดัชนีอยู่ที่ 100.68 เพิ่มขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.2564 และเพิ่มขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.2563 และเฉลี่ย 11 เดือน เพิ่มขึ้น 0.23%
สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อในเดือนพ.ย.2564 เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าที่สำคัญหลายรายการ โดยน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่ม 37.19% สินค้าเกษตรบางชนิดยังมีราคาสูงขึ้น เช่น ผักสด และเนื้อสุกร เครื่องประกอบอาหาร อาหารบริโภคในบ้าน นอกบ้าน เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เปิดประเทศ นักท่องเที่ยวเข้ามา มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ในช่วงเดือนพ.ย.2564 ที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโอมิคอน
ส่วนสินค้าที่มีราคาลดลง เช่น ข้าวสาร ไก่สด ผลไม้สด เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (น้ำดื่มบริสุทธิ์ กาแฟผงสำเร็จรูป) และเสื้อผ้า ส่วนสินค้าอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ปกติ สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและกลไกของตลาดในปัจจุบัน
นายรณรงค์กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อในเดือนธ.ค.2564 คาดว่าจะยังคงสูงขึ้น จากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศปรับตัวดีขึ้น ราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับสูงและมีทิศทางเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและค่าขนส่ง สินค้ากลุ่มอาหารมีแนวโน้มสูงขึ้นตามความต้องการ โดยอัตราการขยายตัวน่าจะใกล้เคียงกับเดือนพ.ย.2564 แต่ถ้าจะลดก็ลดเล็กน้อย ซึ่งต้องดูปัจจัยจากโอมิคอนประกอบว่าจะรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ส่วนทั้งปี 2564 ยังอยู่ในเป้าหมาย 0.8-1.2%
สำหรับเป้าหมายเงินเฟ้อของปี 2565 สนค.ได้ประเมินไว้อยู่ที่ 0.7-2.4% ค่ากลาง 1.5% มีสมมติฐานจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) 3.5-4.5% น้ำมันดิบดูไบทั้งปี 63-73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 31.5-33.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยเบื้องต้นคาดว่าในช่วง 2-3 เดือนของปี 2565 อัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงขึ้น และเริ่มลดลงตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไป แต่ก็ต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงจากโอมิคอน ที่กำลังระบาดว่าจะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน
วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565
เงินเฟ้อพ.ย.64 พุ่งต่อ เพิ่ม 2.71% สูงสุดรอบ 7 เดือน ส่วนทั้งปีคาดยังอยู่ในเป้า
Tags
# เศรษฐกิจมหภาค
Share This
About preecha binmanoch
เศรษฐกิจมหภาค
ป้ายกำกับ:
เศรษฐกิจมหภาค
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น